
"ตั้ว" กฤษฎา สัมพันธรักษ์
คนรุ่นใหม่วัยเลข 3 ไม่ว่าจะหญิงหรือชายในยุคนี้ต่างสนุกสนานกับการหน้าที่การงาน เช้าตื่นมาขับรถเข้าออฟฟิศกว่าจะเคลียร์เสร็จสิ้นก็เย็นย่ำค่ำมืด ยังไม่พอยังขวนขวายหาทำงานนอกเวลา แต่อันนี้ขอเคาะเป็นงานที่ช้อบ...ชอบเป็นการส่วนตัว จนทำเอา 7 วันในหนึ่งสัปดาห์แทบจ
และเป็นที่รู้กันว่าครอบครัวเจียรวนนท์ยิ่งใหญ่ในแวดวงธุรกิจทั้งในและนอกประเทศมากแค่ไหน นั่นเองจึงทำให้หนุ่มตั้วต้องมานั่งเก้าอี้ผู้จัดการขนส่งกระจายสินค้าของค่ายซีพี หลังจากเรียนจบปริญญาโทด้านบิสสิเนสมาจากเมืองลุงแซม ซึ่งเมื่อวางงานทุกอย่างได้ลงตัวโดยใช้เวลากว่าปี คราวนี้ก็ได้เวลาจัดสรรเวลาหลังเลิกงานประจำมาทำงานที่รัก เพื่อใช้เวลาที่เหลือในหนึ่งวันให้คุ้มที่สุด
"ผมทำงานเหมือนพนักงานออฟฟิศทั่วไปเลยครับ ไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น เพราะผมก็เป็นพนักงานเหมือนทุกคนในบริษัท ทำงานตามหน้าที่และเคารพผู้อาวุโส ตามที่คุณแม่และคุณตาสอนมาตั้งแต่เด็กที่ให้ไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน ไม่ว่าเขาจะมีทำหน้าที่อะไรเราเป็นเด็กก็ต้องมีสัมมาคารวะ นั่นเองที่ทำให้งานที่ผมทำประจำผ่านไปได้อย่างดี ด้วยความเมตตาของผู้ใหญ่ทุกคน จนผมสามารถจัดสรรเวลาช่วงเย็นมาเปิดค่ายเพลงเล็กๆ ที่ชื่อเจน 4 (GEN4) ที่ทำกันเองทุกอย่างตามความชอบส่วนตัว หลังทำงานก็คลุกอยู่ที่นี้แหละ ตีหนึ่งตีสองทุกวัน" หนุ่มตั้ว เล่าพร้อมรอยยิ้มที่เปื้อนใบหน้า
พร้อมกับเล่าต่อด้วยว่า การทำงานกว่า 10 ชั่วโมงหรือบางวันเกือบ 20 ชั่วโมงต่อวันไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องเหนื่อยยาก เพราะการที่ทำได้อย่างนี้เพราะเป็นสิ่งที่รัก "มันเป็นความท้าทายด้วยนะ เพราะการที่เราจะทำงานที่ชอบที่รักมานานหรือพูดง่ายๆ คือการสานความฝันให้ตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายนะครับ แต่ที่ทำได้ทุกวันนี้เพราะครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ เป็นแรงผลักดันที่ดี ที่สอนให้ลูกๆ ได้เรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเอง ทั้งๆ หลายคนอาจจะบอกว่าเป็นลูกบ้านนี้ เป็นหลานคนนี้สบายๆ ก็ได้ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างต้องเรียนรู้และต้องทำอย่างเต็มที่ ได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน"
แล้วทำงานมากมายขนาดนี้ยังมีเวลาว่างอีกหรือเปล่า หนุ่มตั้ว ตอบทันที "มีครับ ผมยังมีเวลาทำสิ่งที่รักอีก นั่นก็คือการเล่นกีฬา โดยตอนนี้ผมชอบมากกับการเล่นเวคบอร์ด ในหนึ่งสัปดาห์ต้องมา 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมงอย่างต่ำ" ว่าแล้วหนุ่มตั้ว ก็ขอไปเตรียมตัวก่อนกลับมาในชุดที่เตรียมพร้อมลงน้ำ ที่เราแอบสังเกตได้ว่า ฮึม..??!!? ผู้ชายคนนี้กล้ามใหญ่มาก..นักกีฬาตัวจริงเลยนะเนี่ย ว่าเพียงจะคิดอยู่ในใจแล้วก็อดไม่ได้ที่เอ่ยปากถามว่า ก่อนมาเล่นเวคบอร์ดเล่นกีฬาอย่างอื่นมาก่อนหรือเปล่า
เท่านั้นแหละคะ...เจ้าตัวยิ้มก่อนจะบอกว่า "ผมเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ พายเรือกรรเชียงซึ่งเคยฝึกซ้อมกับทีมชาติและเป็นกัปตันทีมของมหาวิทยาลัย รวมไปถึงยิงธนู และ ได้แข่งรถในช่วงที่เรียนอยู่ที่อเมริกา - Auto Cross และช่วงที่กลับเมืองไทยมาแรกๆ ด้วย" หนุ่มตั้ว บอกที่มาของกล้ามเนื้อที่เป็นมัดๆ
ตอบเสร็จชายหนุ่มคนนี้ก็หอบหิ้วกระดานเวคบอร์ด หลังจากใส่หมวกกันน็อกและเครื่องป้องกันตัวเรียบร้อย ไปต่อคิวรอสายรอกที่พร้อมจะลากไปกับความเร็วประมาณ 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อท้าทายความเร็วบนสายน้ำ ซึ่งพอวิ่งไปได้เล็กน้อยเจ้าตัวก็โชว์ท่าสวยใส่ซะ..นั่นคือการกระโดดกลับตัวบนผวิน้ำ ที่ทำช่างภาพลั่นชัตเตอร์แทบไม่ทัน จนต้องตะโกนก้องแข่งกับเสียงเพลงที่สนามไทยเวก พาร์ค ย่านลำลูกกา เข้าเปิดให้เพิ่มความคึกคักให้แก่ลูกค้าที่มาออกกำลังกาย ว่าขออีกรอบ ได้ยินหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่เมื่อพ่อหนุ่มกล้ามใหญ่มาดแมนเล่นมาถึงหน้าพวกเราอีกรอบ คราวนี้เจ้าตัวก็กระโดดสูงกว่าเดิม จนเราได้ภาพสวยๆ มาอวดกัน
"เล่นเวคบอร์ดไม่ยาก แต่ต้องมีความอดทน กีฬาชนิดนี้สอนกันได้นะ แต่ผมสอนเพื่อนที่ไหร่ล้มไม่เป็นท่าทุกทีไม่ใช้ผมสอนไม่ดีนะ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาล้มไม่เป็นท่า สรุปสุดท้ายผมว่ามันต้องขึ้นอยู่กับความพยายามและความอดทน บางคนเหมือนจะเล่นไม่ได้พอได้เล่นก็วิ่งฉิวไปกับสายรอก แล้วยังเก่งกล้ากระโดดโลดเต้นในท่าที่สวยงาม แต่บางคนก็ขอเพียงสนุกกับการได้โต้ลมเย็นๆ บนสายน้ำ สำหรับผมการเล่นเวคบอร์ดทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย เครียดจากงานก็มาที่นี้เลยครับ 2 ชั่วโมง สมองโปร่งโล่งสบายหาทางออกให้กับปัญหาได้ทุกที" หนุ่มตั้ว บอกถึงความดีของการเล่นเวคบอร์ด สำหรับตัวเอง
และก่อนที่จะปล่อยให้ผู้ชายวัย 30 พอดิบพอดีคนนี้สนุกและผ่อนคลายกับกีฬาที่ชอบ ก็ขอหยอดคำถามปิดท้ายว่าความสุขของตัวเองคืออะไร? แล้วก้ได้คำตอบกลับแบบทันใจว่า "คนในครอบครัวผมยิ้มได้...ผมมีความสุขที่สุดแล้วครับ..." คำตอบนี้สรุปได้ในใจเราทันทีว่า บ้านนี้เขารักกันยิ่งนัก...
เรื่อง... "กรรณิกา ใจจำนงค์"
ภาพ... "ธัชดล ปัญญาพานิชกุล"