
ชุดน้ำแกงส้ม-ต้มยำสมใจนึก ของดีสะเดาอร่อยถึงมาเลย์-ซาอุฯ
จากประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่กับการปรุงอาหารมากว่า 25 ปี นับตั้งแต่เป็นเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง ขยับเป็นร้านอาหารขนาดกลาง "สมใจนึก" ในเขตเทศบาลตำบลสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา การันตีได้ว่าอาหารที่ปรุงโดย สารภี อิสโร เจ้าของร้านย่อมไม่เป็นรองใคร ด้วยรสชาติที่อร่อ
สารภี เล่าถึงที่มาก่อนมีวันนี้ว่า มีประสบการณ์จากการทำอาหารมากว่า 25 ปี ตั้งแต่เป็นลูกจ้างในครัวที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และกลับเปิดร้านอาหารตามสั่งใน อ.สะเดา อีก 14 ปี กระทั่งซื้อห้องแถว 2 ห้อง เนื้อที่ 40 ตารางวา เปิดร้านอาหาร "สมใจนึก" เมื่อ 11 ปีก่อน ระยะหลังมีลูกค้าจากมาเลเซียมาอุดหนุนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างยิ่งเมนูหลักที่ขาดไม่ได้คือแกงส้มปลากะพง ปลาเก๋า และต้มยำทั้งต้มยำกุ้ง ต้มยำรวมมิตรทะเล ถึงขนาดบางรายติดใจรสชาติความอร่อย เมื่อมารับประทานครั้งใดและมีน้ำแกงเหลือก็ขอให้ทางร้านเอาใส่ถุง บางรายถึงขนาดขอซื้อเฉพาะน้ำแกงเพื่อนำกลับไปปรุงรับประทานเองต่อที่บ้าน
“เมื่อ 5 ปีก่อน เราเริ่มคิดว่าเมื่อมีลูกค้าชอบฝีมือการปรุงแกงส้มและต้มยำถึงขั้นซื้อน้ำแกงกลับบ้านเพื่อไปปรุงและรับประทานต่ออีกมื้อ จึงน่าจะทำผลิตภัณฑ์พวกเครื่องแกงส้ม และต้มยำสำเร็จรูป รองรับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ เป็นการเพิ่มรายได้ไปอีกช่องทาง” สารภี กล่าว
หลังคิดไประยะหนึ่งจึงศึกษาลู่ทางการผลิต จากนั้นเริ่มทำชุดเครื่องแกงส้ม-ต้มยำสำเร็จรูปเล็กๆ น้อยๆ วางขายในร้านทดลองตลาด ปรากฏว่ามีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี เพราะลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้านมักจะซื้อผลิตภัณฑ์ติดมือกลับบ้านไปด้วย จนเกิดกระแสปากต่อปากที่บอกต่อถึงความอร่อยจนไม่นานสินค้าผลิตไม่ทันและไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะลูกค้าชาวมาเลเซีย
ในที่สุดสารภี จึงเลือกเดินหน้าผลิตผลิตภัณฑ์ชุดแกงส้ม-ต้มยำสำเร็จรูป อย่างเต็มตัวด้วยการรวบรวมชาวบ้านและตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตชุดน้ำแกงขึ้นมา โดยมีสมาชิกกว่า 10 คน สร้างโรงงานขนาดเล็กในชุมชนขึ้นมา พร้อมว่าจ้างแรงงานในพื้นที่ช่วยปอกเครื่องเทศ เช่น หอม กระเทียม เพื่อป้อนเข้าสู่โรงงาน ทุกวันนี้มีกำลังผลิตชุดเครื่องแกงส้มและต้มยำภายใต้เครื่องหมายการค้า "สมใจนึก" เฉลี่ยเดือนละ 3,000 ถุง ในจำนวนนี้กว่า 30% ผลิตขึ้นมาเพื่อส่งไปยังตลาดประเทศมาเลเซีย ส่วนที่เหลือส่งไปยังกรุงเทพฯ เชียงใหม่ อุบลราชธานี และขอนแก่น ราคาถุงละ 45บาท ลูกค้าในประเทศส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแม่บ้าน พนักงานบริษัท หรือหน่วยงานราชการ ซึ่งจะสั่งซื้อคนละหลายสิบถุง ส่วนกลุ่มลูกค้ามาเลเซีย มีทั้งที่มาซื้อด้วยตัวเองที่ร้านและบางส่วนทางร้านจัดส่งให้
สำหรับผลิตภัณฑ์ชุดน้ำแกงส้ม-ต้มยำ แบรนด์ "สมใจนึก" แบ่งเป็น 2 ชนิดตามรสชาติ คือ รสชาติปานกลาง และรสชาติเข้มข้น โดยชาวมาเลเซียจะนิยมรสชาติปานกลาง ไม่เผ็ดมากนัก ขณะที่ตลาดในประเทศจะนิยมรสชาติเข้มข้น สามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติของแกงส้มที่เป็นปักษ์ใต้หรือที่เรียกว่าแกงเหลืองแท้ๆ
ล่าสุดผลิตภัณฑ์ชุดแกงส้ม-ต้มยำสำเร็จรูปสมใจนึก ได้ผ่านการรับรองเครื่องหมาย อย. จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้สารภี มองว่าการขยายตลาดคงไม่หยุดยั้งเพียงแค่นี้ พร้อมเตรียมทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดตะวันอกกลางที่มีความต้องการสินค้าชนิดนี้ในปริมาณมากและมีแนวโน้มตลาดเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ
“ลูกค้าชาวซาอุฯ ที่เคยมารับประทานอาหารที่ร้านชมว่าอร่อย และขอซื้อกลับไป แต่ก่อนหน้านั้นเราไม่มีตราฮาลาลทำให้การกระจายสินค้าสู่ตลาดตะวันออกกลางทำได้ยาก ล่าสุด ได้ผ่านฮาลาลเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มส่งไปทำตลาดที่ซาอุดีอาระเบียบ้างแล้ว ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับดี และมีแนวโน้มว่าความต้องการเพิ่มขึ้น ส่วนตลาดในประเทศนอกจากจะขายที่ร้านแล้ว ยังออกบูธตามงานต่างๆด้วย” สารภี กล่าว
นับเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีช่องทางด้านการตลาดที่น่าสดใสในยุคที่หลายฝ่ายต่างผลักดันให้ครัวไทยสู่ครัวโลก เพราะอย่างน้อยแกงส้ม ต้มยำ ถือเป็นอาหารเมนูเด็ดอันดับต้นในจำนวน 10 เมนู ที่ชาวต่างชาติยอมรับในรสชาติของอาหารไทยนั่นเอง
สูตรเด็ดที่เหนือกว่า"วัตถุดิบต้องสด"
"วันวิสาข์ แซ่จุง" สมาชิกกลุ่มผลิตชุดน้ำแกง อีกรายระบุถึงเคล็ดลับความอร่อยของชุดน้ำแกงส้ม-ต้มยำ แบรนด์ "สมใจนึก" ว่านอกจากสูตรเด็ดความลงตัวของส่วนผสมเครื่องแกงที่ให้รสชาติความอร่อย มีส่วนผสมแบบคร่าวๆ อาทิ น้ำแกงส้ม ประกอบด้วยน้ำ 45% น้ำมะนาว 30% กะปิ 10% พริก 10% เกลือ 5%
ส่วนน้ำแกงต้มยำ ประกอบด้วย น้ำ 40% น้ำมะนาว 30% พริกสด 10% น้ำพริกเผา 5% มะกรูด 5% ตะไคร้ 5%และข่า 5% หากสังเกตุจากส่วนผสมอาจดูไม่แตกต่างอะไรมากนักจากเครื่องแกงทั่วไป แต่สำหรับน้ำแกงของกลุ่มผลิตชุดน้ำแกงนั้น มีเคล็ดลับความอร่อยที่เป็นสูตรเด็ดนั่นคือการสรรหาวัตถุดิบที่นำมาเป็นส่วนผสมเครื่องแกง ที่คัดสรรเป็นพิเศษเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่สด และสะอาดที่สุด
นี่เป็นหัวใจสำคัญในการผลิตเครื่องแกงให้เกิดความหอมและกลมกล่อมและที่สำคัญชุดน้ำแกงของที่นี่ยังปราศจากสารกันบูดอีกด้วย แต่สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 เดือน
"สุพิชฌาย์ รัตนะ"