ไลฟ์สไตล์

แขกรับเชิญ-“เชียงใหม่มูฟวี่เวิลด์”อนาคต"ฮับ"อุตสาหกรรมภาพยนตร์อาเซียน

แขกรับเชิญ-“เชียงใหม่มูฟวี่เวิลด์”อนาคต"ฮับ"อุตสาหกรรมภาพยนตร์อาเซียน

19 ก.ค. 2553

ภาพยนตร์คือผลงานสร้างสรรค์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งของมวลมนุษยชาติ นับแต่ โทมัส เอดิสัน เปิดสตูดิโอภาพยนตร์เล็กๆ ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1893 ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก “ฮอลลีวู้ด” ศูนย์กลางภาพยนตร์ระดับโลกของสหรัฐอเมริกายักษ์ใหญ่ซีกโลกตะวันตก...

 หันมาฟากฝั่งตะวันออก “บอลลีวู้ด” แห่งอินเดียกลายเป็นศูนย์กลางผลิตภาพยนตร์ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนจีนที่ใช้เกาะฮ่องกงเป็นฐานการผลิตกำลังตามจี้ติดมาเป็นอันดับสาม ถ้าเป็นวันก่อนคงไม่มีใครคาดคิดว่าไทยซึ่งมีอุตสาหกรรมหนังที่ลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด จะได้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์แห่งเอเชียรายต่อไป แต่วันนี้ข่าวการเดินหน้าก่อสร้าง “เชียงใหม่มูฟวี่เวิลด์” กลับจุดประกายความหวังให้เรืองรองขึ้นอีกครั้ง

 "คม ชัด ลึก" มีนัดสัมภาษณ์กับ “เอดูอาร์โด โรเบิลส์” ประธานกรรมการ บริษัท ครีเอทีฟ คิงด้อมอิงค์ (CKA) เจ้าของโครงการ “เชียงใหม่ มูฟวี่เวิลด์” เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการ CNX WOOD และแผนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฮับอุตสาหกรรมภาพยนตร์แห่งเอเชียแห่งใหม่มานำเสนอ ว่าหลังจาก 1 ปีเต็มที่ประกาศเปิดตัวโครงการไปอย่างยิ่งใหญ่เมื่อเดือนกลางปีที่แล้ว บริษัทได้จัดงานกราวด์ เบรคกิ้ง เซียร์โมนี โดยได้รับเกียรติจากทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย อีริค จอห์น, กงสุลสหรัฐประจำ จ.เชียงใหม่ ไมเคิล มอร์โรว ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ อมรพันธ์ นิมานันท์ และผู้บริหารระดับสูงของบีโอไอ การนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงผู้แทนหอการค้าไทยร่วมเป็นสักขีพยานการวางศิลาฤกษ์เฟสแรกไปแล้วเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

0 จุดเริ่มต้นของ CKA ที่เชียงใหม่
 CKA ได้เปิดบริษัทสาขาประเทศไทยขึ้นที่เชียงใหม่ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเปิดภาคอุสาหกรรมใหม่ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างงานให้คนพื้นที่นอกเหนือจากการพึ่งพิงเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวเป็นหลัก ผู้คนที่นี่มีความเป็นศิลปิน มีคนเก่งงานสร้างสรรค์จำนวนมาก เรามีพนักงานคนไทยที่มีความสามารถร่วมสร้างสรรค์งานระดับโลกมาแล้วมากมาย และสตูดิโอก็เป็นแผนงานระยะยาวของบริษัทมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อ 7 ปีก่อน

0 ทำไมจึงเลือกเชียงใหม่ ?
 เราเลือกเชียงใหม่ด้วยความพร้อมทั้งสภาพภูมิศาสตร์ ภูมิทัศน์ เศรษฐกิจ สิ่งอำนวยความสะดวก ถนนหนทาง สนามบิน สาธารณูปโภค สำคัญที่สุดคือผู้คนและสังคม

 เชียงใหม่เป็นเมืองสำคัญ 1 ใน 3 ของประเทศไทยรองลงมาจากกรุงเทพมหานครที่เป็นเมืองหลวง เป็นเมืองใหญ่อันดับสองที่เติบโตคู่ขนานกับ จ.ภูเก็ต มีผู้คนพักอาศัยนับล้านคนด้วยสภาพความเจริญคล้ายเมืองหลวง ภูมิประเทศเป็นภูเขาป่าไม้ สายน้ำสวยงาม อากาศดี เป็นเมืองศิลปินและมีคนเก่งในสาขาต่างๆ มากมาย 

0 แรงบันดาลใจในการสร้าง CNX WOOD
 เมื่อสองปีก่อนขณะที่ CKA สร้างสตูดิโอตัดต่อภาพยนตร์ที่ประเทศจีน เรามีโอกาสพบกับคุณคริส โลเวนชไตน์ จากลิฟวิ่งฟิล์ม เป็นผู้กำกับอเมริกันที่อาศัยอยู่ใน จ.เชียงใหม่ บริษัทของเขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศกว่า 15 ปี เมื่อเกิดแนวความคิดที่จะมาร่วมมือกันก็ได้รับการสนับสนุนจากบีโอไอ ลดหย่อนภาษีเพื่อพัฒนาโครงการ จึงเริ่มปรับแนวความคิดและขยายโครงการจนมาเป็น CNX WOOD ในทุกวันนี้

 CNX เป็นโค้ดสนามบินเชียงใหม่ที่นักเดินทางทั่วโลกรู้จัก เราจึงใช้ CNX WOOD เป็นชื่อโครงการ เพื่อเชื่อมโยงให้สัมพันธ์กับฮอลลีวู้ด และบอลลีวู้ด เมืองภาพยนตร์ระดับโลก

0 ขอทราบแผนดำเนินการก่อสร้างและงบลงทุน
  เราแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกที่วางศิลาฤกษ์ไปแล้วจะเป็นโครงการโรงถ่ายภาพยนตร์ระดับฮอลลีวู้ด “ไวท์ เฮ้าส์ สตูดิโอ คอมเพล็กซ์” ที่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์การตัดต่อและถ่ายทำที่ทันสมัยพร้อมอาคารสำนักงาน โดยจะก่อสร้างบนพื้นที่ 200 ไร่ ใน อ.สันกำแพง มูลค่าการลงทุนประมาณ 550 ล้านบาท บริษัทเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2555
 ส่วนเฟสที่ 2 เป็นเอนเตอร์เทนเม้นท์ โซน และเฟส 3 เป็นบ้านพักอาศัยสำหรับผู้เข้ามาทำงานให้บริษัทภาพยนตร์ ซึ่งจะเป็นการลงทุนร่วมกับพันธมิตร และบริษัทพัฒนาที่ดินในท้องถิ่น ทั้ง 3 เฟสใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท โดยวางแผนให้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 7 ปี

0 เป้าหมายลูกค้าของ  CNX WOOD
 ปัจจัยสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงศูนย์กลางของเศรษฐกิจโลกจากซีกตะวันตกสู่ตะวันออกเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับนักลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมบันเทิง จุดเด่นของเชียงใหม่และประเทศไทยยังเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดใจให้ลูกค้ามาใช้เป็นฐานการผลิตป้อนตลาดโลก ทุกวันนี้เรามีออฟฟิศร่วมกับ Los Angeles Centers Studio ของสหรัฐ และ Star Light ในปักกิ่ง และมีลูกค้าส่วนใหญ่ทั้งที่ประเทศจีน ซาอุดีอาระเบีย ดูไบ อาบูดาบี มาเก๊า ฮ่องกง และฮอลลีวู้ดอยู่แล้ว รายได้หลักที่ดีมากของเราอย่างหนึ่งคือการผลิตเกมร่วมกับบริษัทในประเทศสวีเดน เมื่อโครงการในเชียงใหม่เปิดให้บริการได้ จะเป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้ลูกค้ารายเดิม และเปิดตลาดใหม่ได้อีกมาก
 

0 ใครจะเป็นคู่แข่งของเราในอุตสาหกรรมหนังระดับสากล
 คงไม่ใช่จีนหรืออินเดียแน่นอน เพราะทั้ง 2 ประเทศมีกำลังซื้อภายในประเทศอยู่แล้ว แต่ต้องจับตามองออสเตรเลีย ฮ่องกง หรือแม้แต่มาเลเซีย ที่กำลังพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อที่จะกลายมาเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์แห่งเอเชีย 

0 ทำไมจึงเชื่อมั่นว่าเราจะไปได้ถึงการเป็นฮับอุตสาหกรรมหนังแห่งเอเชีย
 ในขณะที่ผมกำลังคุยกับ "คม ชัด ลึก" อยู่นี้ เราได้ทำการพรี-โพรดักชั่นร่วมกับพันธมิตร บริษัท ลิฟวิ่ง ฟิล์ม แห่ง จ.เชียงใหม่ สร้างแผนการตลาด เพื่อชักจูงความสนใจของลูกค้าจากฮอลลีวู้ด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่อื่นๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากบริษัทชั้นนำของโลกของเป็นพันธมิตรร่วมในธุรกิจนี้จำนวนมาก

 ที่แสดงเจตนารมณ์และเซ็นเอ็มโอยู กันไปแล้ว มีทั้ง บริษัท ลิฟวิ่ง ฟิล์ม ที่มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับบริษัทในฮอลลีวู้ด บริษัท Mindark ผู้ผลิตเกม Entropia Universe จากประเทศสวีเดน บริษัท Dijital Seryers ของสหรัฐอเมริกา รวมถึง บริษัท Dabok ผู้ผลิตรายการทีวีและภาพยนตร์ของประเทศเกาหลีด้วย

0 คนไทยจะมีศักยภาพเพียงพอกับอุตสาหกรรมนี้หรือไม่?
 บริษัทของเราลงหลักปักฐานในเชียงใหม่มากว่า 5 ปีแล้ว มีผลงานด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมระดับแนวหน้าของโลก รวมถึงงานด้านแอนิเมชั่น ซีจี และการผลิตเกมเป็นที่ยอมรับมากมาย ซึ่งผลิตงานโดยคนเชียงใหม่ บางส่วนเป็นคนกรุงเทพฯ และคนภาคเหนือที่เข้ามาพักอาศัยที่นั่น คนไทยมีความเป็นศิลปินและมีความคิดสร้างสรรค์สูงมาก แม้จะมีปัญหาด้านภาษาอังกฤษบ้างแต่ก็สื่อสารกันในการทำงานได้

 ส่วนทักษะในการใช้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือระดับสูงก็ฝึกได้ไม่ยาก เรามั่นใจในการทำงานของคนไทยร่วมกับผู้ชำนาญการด้านภาพยนตร์ทั่วโลก เมื่อโครงการเฟสแรกเสร็จสมบูรณ์ เราคาดว่าจะสร้างงานให้คนไทยในพื้นที่ได้มากกว่า 4,000 ตำแหน่ง
 + + + + + + + + 
 คำบอกเล่าจากประสบการณ์จริงและความเชื่อมั่นของประธานโครงการ ทำให้เรามองเห็นโอกาสของประเทศไทยที่จะก้าวสู่การเป็นฮับอุตสาหกรรมภาพยนตร์แห่งเอเชียอยู่ไม่ไกล