ร.ร.มรดกใหม่โฮมสคูลสอนทักษะชีวิต-ศก.พอเพียง | คมชัดลึก

 มรดกใหม่ ในอดีตเป็นชื่อรายการโทรทัศน์ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ ทางททบ.5 เมื่อปี 2533-2535 เป็นสารคดีเน้นมรดกทางศิลปะ หรือวัฒนธรรมของไทยที่ฝังรากหยั่งลึกลงในอดีต และสามารถเบ่งบานสร้างกระแสปรับตัวเองเข้ากับปัจจุบันสมัย และพร้อมที่จะผสมผสานวางแนวทางให้แก่อนาคตได้ แต่ถูกปลดออกจากผังรายการเพราะเรตติ้งไม่ดี

ช่วงฟองสบู่แตกต้องล้มเลิกกิจการไปพร้อมกับภาระหนี้สินเคยได้รับความอนุเคราะห์จากตึกช้าง ให้เช่าที่ได้ในราคาถูก จนมีโรงละครของตัวเองได้ครั้งแรก ชื่อ "โรงละครมรดกใหม่" ปี2541 รับทำโครงการ ละครทัวร์ 76 จังหวัดในชื่อ "มนต์ขลังท้องถิ่น" จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยแต่ไปไม่รอด จึงได้เริ่มศึกษาละครตะวันตก ละครตะวันออก และละครที่ว่าด้วยเรื่องของการศึกษาทั้งหมด พัฒนาบุคลากรที่มีอยู่ให้มีศักยภาพมากขึ้น เพื่อผลิตงานละครเพื่อพัฒนาคนดู และพัฒนาสังคม กระทั่งละครเวทีในรูปแบบ เธียเตอร์ อาร์ต เป็นที่รู้จักของคนในแวดวงการศึกษา

ปี2544 มรดกใหม่เริ่มสร้างละครเวทีสัญจรเพื่อการศึกษา ตระเวนเล่นตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ และลดรูปแบบละคร ให้เหลือเพียงรูปแบบที่สนับสนุนเนื้อหาจริงๆ เท่านั้น ปลายปี 2544-2547 ได้เช่าสำนักงานที่อาร์ซีเอ ทำ เธียเตอร์ อาร์ต ควบคู่ไปกับละครทัวร์ เน้นที่สถาบันการศึกษา ปัจจุบัน มรดกใหม่ มีโรงเรียนเครือข่ายละครยามเช้า ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กว่า 60 แห่ง ที่มรดกใหม่ต้องจัดอบรมครู นักเรียน ให้เรียนรู้ละคร โดยเน้นไปที่ละครสะท้อนคุณธรรม

"ครูเล็ก" สำราญ วัฒน์ผดุงเกียรติ จากร.ร.ศรีสวัสดิ์พิทยาคม จ.กาญจนบุรี และ "ครูน้อง" ประอรศิริ ชวีวัฒน์ ร.ร.บรรหารแจ่มใสวิทยา7 ยืนยันว่า การใช้ละครสะท้อนคุณธรรมสามารถดึงนักเรียนกลุ่มเสี่ยงสีม่วงให้เป็นสีปกติได้ และส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษได้ดียิ่งขึ้น อย่างเช่นลูกศิษย์ครูเล็กที่ชื่อ เกียรติศักดิ์ล่ำสัน เปลี่ยนแปลงพฤติการณ์ไปในทางที่เหมาะสมส่วนลูกศิษย์ครูน้องที่ชื่อ ประภาสบัวบาน ได้ใช้ความสามารถพิเศษด้านละครเข้าเรียนที่มทร.ธัญบุรี โดยไม่ต้องสอบ แค่เพียงใช้แฟ้มผลงานจากการเป็นสมาชิกชมรมละครยามเช้ารุ่นแรกเท่านั้น

ครูช่างบอกว่า เพื่อให้เกิดความยั่งยืน จึงสร้างโรงเรียนมรดกใหม่โฮมสคูล ขึ้นเป็นโรงเรียนมัธยมด้านละครที่ใช้หลักสูตรบ้านโรงเรียน คัดเลือกนักเรียนจากเครือข่ายละครของมรดกใหม่ที่สนใจเรียนต่อระดับมัธยม หรือเด็กที่ต้องการเรียนแบบโฮมสคูล หรือเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ มาเรียนรู้ผ่านละครฟรี ภายใต้ปรัชญา6 ข้อคือ 1.พร้อมใจกันทำพร้อมใจกันเลิก คือ ความเป็นหนึ่งเดียวเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ 2.ทำแล้วทำเล่าจนทำได้คือพัฒนาทักษะทางด้านการคิด อ่าน เขียน และการละคร 3.แผ่วที่ผลทำที่เหตุนำพาชีวิตไปสู่กระบวนการคิดวิเคราะห์ 4.อยู่อย่างต่ำทำอย่างสูงเน้นการดำรงอยู่เรียบง่ายพอเพียงและมีสุนทรียศาสตร์ 5.ไม่มีเรื่องที่เล่าไม่ได้มีแต่คนที่เล่าเป็น คือการเน้นที่การมีอุดมการณ์ทำเพื่อผู้อื่น และ 6.เป็นอย่างที่สอน เพื่อจะสอนอย่างที่เป็น เน้นการให้เป็นตัวอย่าง

"ฝ้าย" สุจิธรรม ใสยราษฎร์ บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ที่ดูแลหลักสูตรโฮมสคูล เล่าว่า หลักสูตรโฮมสคูลผ่านการรับรองจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต 1 ครอบคลุมการเรียนในวิชาต่างๆ ทั้งวิชาภาษาไทย สังคม วิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจพอเพียง ศาสนา และภาษาอังกฤษ ได้รับเชิญไปแสดงละครในเทศกาลละครเด็กนานาชาติที่ประเทศอินเดีย และแสดงตามประเทศต่างๆ มากมาย ก่อนที่จะจบหลักสูตรต้องผ่านการแสดงในต่างประเทศอย่างน้อยคนละสองประเทศ ปีที่แล้วมีนักเรียนจบม.6 ไปแล้ว 5 คน ยอมรับว่าวิชาการอาจจะไม่ได้คุณภาพเท่ากับโรงเรียนในระบบ แต่เชื่อว่าวิชาละครและทักษะชีวิตพวกเขาเอาตัวรอดได้และไม่สร้างปัญหาให้สังคมแน่นอน

"ติ้ว" ศุภเมธ หมายมุ่ง อายุ31 ปี บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เล่าว่า มาช่วยทำละครกับครูช่างแล้ว 3 ปี ตามคำแนะนำของ "ไพฑูรย์  ธัญญา (สังขะพันธ์") เพราะอยากเรียนรู้เรื่องการทำละคร และได้แสดงเป็นพระอภัยมณี อธิบายระบบการดำเนินงานของมรดกใหม่ว่าใช้ระบบสังคมนิยมหัวรุนแรง ในการบริหารจัดการทำงานโดยไม่ใช้เงินเป็นประเด็นหลัก แต่ทุกคนจะมีข้าวกิน มีที่พัก สมาชิกทุกคนรู้บัญชีรายรับรายจ่ายขององค์กรและจัดสรรแบ่งปันกันตามความเหมาะสมหรือความเดือดร้อนของแต่ละคน และใช้ระบบเศรษฐกิจพอเพียง แบบพึ่งตนเอง เขาตั้งใจว่าจะช่วยครูช่างทำละครมรดกใหม่ไปจนกว่าจะสามารถพัฒนาไปเป็นมหาวิทยาลัยด้านการละครได้

ขณะที่ "จ๋าย" เดือน เดชธนู อายุ17 ปี ชั้น ม.6 เป็นนักเรียนในโรงเรียนเครือข่ายละครยามเช้าโรงเรียนนิวิฐราษฎร์อุปถัมภ์ จ.กาญจนบุรี ตัดสินใจมาเรียนละครที่โรงเรียนโฮมสคูลแห่งนี้ เพราะอยากทำตามความฝันของตนเอง เคยรับบทเป็น สินสมุทร ในเรื่องพระอภัยมณี ส่วน "ส้ม" สาวิตรี อินทวงษ์ อายุ 18 ปี ชั้น ม.6 จาก ร.ร.เชียงคาน จ.เลย อดีตเด็กสาวที่เฮี้ยวสุดๆ กลายเป็นเด็กที่เข้าใจโลกมากขึ้น เพราะได้เรียนรู้โลกกว้างผ่านละคร สิ่งที่ผิดพลาดในอดีต วันนี้ส้มฝังมันไว้ใต้ดิน และก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เคยรับบทเป็นนางเงือก เช่นเดียวกับ "อี๊ด" ลัดดาวัลย์ เต่าเถื่อน อายุ 17 ปี มาจาก ร.ร.วัดเขาปิ่นทอง จ.ราชบุรี ที่มีอนาคตทางการศึกษาที่ดีโดยไม่ต้องพึ่งพาทางบ้าน และชีวิตวัยสาวจะอยู่กับเธออีกนานอย่างปลอดภัย

ทั้ง3 คนเคยไปแสดงมาแล้วหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เนปาล กรีซ และอื่นๆ อีกมากมาย และวันที่ 14-28 กรกฎาคม จะเดินทางไปแสดงละคร เรื่อง เด็กชายชั่วคราวเด็กสาวชั่วคืนในเทศกาลละครนานาชาติที่ประเทศบราซิลร่วมกับนักแสดงละครอีก 20 ประเทศ เพื่อประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า  ผลงานการกำกับ/เขียนบท/ประพันธ์ดนตรีของฐานชนจันทร์เรือง เรื่องนี้มุ่งส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม เป็นเรื่องราวของชายแก่คนหนึ่งที่สับสนกับชีวิตของตนเอง จึงอยากกลับไปแก้ไขชีวิตในวัยรุ่นที่ประพฤติตัวเหลวไหล ใช้ชีวิตเสเพล แต่ไม่สามารถทำได้ จึงได้ข้อคิดว่าคนเราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ แต่ทำปัจจุบันและอนาคตให้ดีได้ 

ปัจจุบันโรงเรียนโฮมสคูลแห่งนี้มีนักเรียนม.1-6 จำนวน 36 คนครู 12 คน ครูอาสาสมัคร 4 คนในปีหน้าจะมีนักเรียนที่จบม.6 อีก 10 คนที่ครูช่างจะส่งไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยศานตินิเกตัน  ประเทศอินเดีย เพื่อเตรียมบุคลากรไว้เปิดมหาวิทยาลัยละคร(นานาชาติ) ที่ จ.เลย บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ หรือที่ จ.เชียงราย ทั้งนี้ช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ละครมรดกใหม่จะตระเวนแสดงตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อระดมทุนเข้าโรงเรียน ใครสนใจเป็นเจ้าภาพอาหารกลางวันหรือสนใจมาร่วมสร้างบ้านดิน ดูข้อมูลได้ที่ www.moradokmai.com โทร.0-2904-5665

0 หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ 0