สคร.5โคราชเตือนกิน"หมูยอ"ห่อพลาสติกถึงตาย | คมชัดลึก

วันที่ 29 มิถุนายน ที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 (สคร.5) จ.นครราชสีมา ถ.ราชสีมา-โชคชัย อ.เมือง นพ.สมชาย ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการ สคร.5 กล่าวว่า สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษที่สำคัญ ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2553 ระบุเกิดโรคขึ้นรวม 30 เหตุการณ์ ที่น่าสนใจมี 2 เหตุการณ์ที่มีสาเหตุสงสัยแตกต่างจากที่เคยเกิดการระบาดมา คือเหตุแรกสงสัยการระบาดของโรคโบทูลิซึ่ม ที่ จ.ลำปาง เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา มีผู้ป่วย 100 คน เสียชีวิต 2 คน สงสัยเกิดจากการรับประทานเนื้อหมูป่า เหตุที่สอง สงสัยการระบาดของโรคโบทูลิซึ่ม ที่ จ.สระบุรี เมื่อเดือนพฤษภาคม มีผู้ป่วย 3 คน เสียชีวิต 1 คน สงสัยรับประทานยำหมูยอที่ทำจากหมูยอห่อด้วยพลาสติกซื้อจากรถเร่

 นพ.สมชาย กล่าวว่า โรคดังกล่าวเคยมีการระบาดใหญ่เมื่อปี 2540 ที่ จ.ตาก และ จ.น่าน มีผู้ป่วย 13 คน เสียชีวิต 2 คน และเมื่อเดือนมีนาคม 2549 มีผู้ป่วย 150 คน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจถึง 39 คน สาเหตุล้วนมาจากการรับประทานหน่อไม้ปี๊บซึ่งมีสารพิษคลอสทริเดียม โบทูลินัม ซึ่งเป็นสารพิษของแบคทีเรียที่เจริญเติบโตในอาหารก่อนการบริโภค

 นพ.สมชาย กล่าวอีกว่า สถานการณ์การระบาดของโรคอาหารเป็นพิษพื้นที่รับผิดชอบ สคร.5 ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.ชัยภูมิ และ จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2553 พบมีผู้ป่วย  5,145 คน อัตราป่วยทั้งหมดเท่ากับ 77.90 ต่อประชากรแสนคน แบ่งเป็น จ.นครราชสีมา ป่วย 1,549 คน จ.บุรีรัมย์ ป่วย 1,985 คน จ.สุรินทร์ ป่วย 976 คน และ จ.ชัยภูมิ ป่วย 635 คน แต่ยังไม่พบการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษ ที่เกิดจากเชื้อคลอสทริเดียม โบทูลินัม ซึ่งพบในหน่อไม้ปี๊บ และล่าสุดพบในหมูยอที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

 "พื้นที่อีสานตอนล่างโดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา เป็นแหล่งผลิตหมูยอ เป็นสินค้าของฝากจำนวนมาก จึงอยากฝากเตือนประชาชนผู้บริโภคว่าควรเลือกซื้อหรือไม่รับประทานอาหารที่บรรจุในกระป๋องบวม รวมถึงหมูยอที่ห่อด้วยพลาสติก และอาหารที่หมดอายุ เพราะในอาหารเหล่านี้จะมีสปอร์ เมื่ออยู่ในภาวะที่ไร้อากาศและความเป็นด่าง สปอร์จะงอกและผลิตสารพิษคลอสทริเดียม โบทูลินัม ออกมา หากรับประทานหมูยอที่มีพิษเข้าไปอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากจะรับประทานให้เลือกหมูยอที่ห่อด้วยใบตองจะปลอดภัยกว่า หรือควรนำหมูยอที่หอด้วยพลาสติกไปทำให้สุกในน้ำร้อนที่เดือดก่อนค่อยนำมารับประทาน” นพ.สมชาย กล่าว