นักวิชาการยุถอดอยุธยามรดกโลกพื้นที่ไม่รักษา | คมชัดลึก

 (29มิ.ย.) รศ.เสนอ นิลเดช นักวิชาการด้านอยุธยาศึกษา และอาจารย์อาวุโสมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นกับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มรดกโลกว่า ปัญหาอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นการตั้งร้านค้าที่ไม่เหมาะสม การบูรณปฏิสังขรณ์ที่ไม่ตรงรูปแบบดั้งเดิมนั้น มี 2 สาเหตุ คือ 1.เกิดจากคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ไม่ได้รักอยุธยาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะผู้ค้า ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นคนอยุธยาตั้งแต่กำเนิด 2.หน่วยงานภาครัฐไม่ได้เอาจริงกับการแก้ปัญหา รวมทั้งไม่ได้จริงจังกับการจัดระเบียบและพัฒนาอยุธยาให้เป็นไปตามแนวทางที่คณะกรรมการมรดกโลกกำหนด

 รศ.เสนอ กล่าวต่อไปว่า แนวทางการแก้ปัญหาอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยานั้น ต้องเริ่มจากคนอยุธยาต้องหันมามองปัญหาที่เกิดขึ้นอย่านึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ในขณะเดียวกันหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กรมศิลปากร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ต้องเอาจริงในการจัดระเบียบอยุธยา ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ และ อปท.ต้องไม่พัฒนาอยุธยาไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ อปท.และกรมศิลปากรต้องมีหน้าที่ให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ให้มีจิตสำนึกรู้จักหวงแหนมรดกโลก รักอยุธยามากกว่าที่เป็นอยู่ หากไม่มีการปลูกจิตสำนึกให้แก่เด็กรับรองว่า ต่อไปอยุธยาจะไม่เหลือความสวยงามเอาไว้ เพราะคนอยุธยาจะไม่รักอยุธยาอย่างจริงจัง

 “ผมอยากให้ถอดถอนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาออกจากการเป็นมรดกโลก เพราะจากการที่ได้เห็นอยุธยาที่เป็นบ้านเกิดมากว่า 70 ปี รวมทั้งได้ทำการศึกษาประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมอยุธยามาเกือบทั้งชีวิต ไม่เคยเห็นอยุธยามีสภาพที่ย่ำแย่อย่างนี้ ร้านค้ารกรุงรังเต็มไปหมด แม้แต่ในวัดพระศรีสรรเพชญ์ก็แทบจะไม่มีการปลูกหญ้าให้สวยงาม เห็นแล้วรู้สึกรำคาญสายตา หากคนอยุธยาไม่รักมรดกโลกแล้ว ก็ควรถอดถอนเสียดีกว่า”นักวิชาการด้านอยุธยาศึกษา กล่าว

 ด้านศ.พิเศษศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา การทำประชาพิจารณ์ถึงการปรับภูมิทัศน์อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาของกรมศิลปากร มีการทำความเข้าใจกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประชาชน ตลอดจนผู้ค้าในพื้นที่ไม่เพียงพอ ทั้งที่มีแผนงานทุกอย่างไว้ชัดเจนแล้ว กลับกลายเป็นว่า ต่างคนต่างคิด ทางการก็ต้องการจะอนุรักษ์ แต่ชาวบ้านมองกว่าการอนุรักษ์ทำให้ได้รับความเดือดร้อน จนเป็นปัญหาบานปลาย ดังนั้น กรมศิลปากร อปท. และผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องนำแผนงานมาหารือกันอีกครั้ง และชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ หากทำความเข้าใจในจุดนี้แล้ว การดำเนินงานน่าจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้