กล่องสวย "เอสอาร์ เปเปอร์ บ๊อกซ์" งานศิลป์ทำมือ-โอท็อปโกอินเตอร์ | คมชัดลึก

 สมเกียรติเล่าว่า คลุกคลีกับการทำกล่องกระดาษในโรงงานผลิตกล่องกระดาษมานานหลายปี ทำให้รู้วิธีการวัดสัดส่วนกล่องที่ได้มาตรฐาน การขึ้นรูปกล่อง การผลิตกล่องในรูปแบบต่างๆ จากกระดาษชนิดต่างๆ จนกลายเป็นความชอบโดยไม่รู้ตัว เห็นกล่องไม่ได้ เป็นต้องเก็บมาศึกษา มาแกะดูว่าเขาทำอย่างไร ขึ้นรูปอย่างไร หุ้มกระดาษอย่างไร หลังจากที่โรงงานล่าสุดที่ทำงานประสบปัญหา ก็เลยตัดสินใจลาออกมาหาอาชีพเป็นของตัวเอง

 "ตอนแรกก็ลองผิดลองถูกหลายอย่าง จนมาค้นพบตัวเองว่า ในเมื่อเรามีความรู้เรื่องสัดส่วนกล่องกระดาษ ก็น่าจะเอาความรู้ที่มีมาประกอบอาชีพหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ก็เลยลองทำดู และไปเรียนวิธีการทำเปเปอร์มาเช่เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ตัวกล่อง แต่การทำเปเปอร์มาเช่นูนต่ำบนตัวกล่องมีขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น ต้องทำด้วยมือทุกขั้นตอน เป็นงานแฮนด์เมดจริงๆ ทำให้เสียเวลา และต้องขายในราคาสูงขึ้นกว่ากล่องกระดาษทั่วไป ขายยากขึ้น คนไทยไม่ค่อยซื้อ บอกว่าแพง ก็เลยหยุดทำ และหันมาลองทำกล่องแบบอื่นดูบ้าง" ช่างกบ อธิบายเหตุผลที่มาจับงานนี้

 พร้อมเสริมว่า กระทั่งมาลงตัวที่งานทำกล่องกระดาษสา ซึ่งช่างกบบอกว่า ออเดอร์ส่วนใหญ่ลูกค้าจะนำไปใส่สิ่งของหรือสินค้าที่มีอยู่แล้ว เช่น ใส่สบู่ ใส่ชุดสปา ใส่ผ้าพันคอ ใส่กระดาษทิชชู เป็นต้น กล่องกระดาษที่รับผลิตเป็นกระดาษสาลวดลายต่างๆ เช่น ลายไทย ลายบาติก ลายธรรมชาติ กระดาษสาเรียบแผ่นบาง หรือลายที่ลูกค้ากำหนด รูปแบบของกล่องมีหลากหลาย เช่น กล่องใส่ขวดไวน์ กล่องใส่หนังสือ กล่องใส่จตุคามรามเทพ กล่องใส่กระดาษทิชชู กล่องหูหิ้วใส่ของต่างๆ เป็นต้น ซึ่งทุกชิ้นที่กล่าวมาสนนราคาตั้งแต่หลัก 100 บาทขึ้นไป ภายใต้การการันตีทุกกล่องกระดาษที่ผลิตจะมีความแข็งแรงทนทาน เน้นความละเอียดประณีต ผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ และใช้กาวลาเท็กซ์อย่างดี

 "เด่นที่สุดก็คือกล่องกระดาษแผ่นเรียบที่ทำมาจากกระดาษลายไทยคุณภาพดี เป็นกล่องใส่ขวดไวน์ ได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวต่างชาติ เคยทำไปฝากน้องๆ ขายที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ปรากฏว่า ลูกค้าชาวญี่ปุ่นเหมาหมดเลย เพราะชอบที่เป็นงานแฮนด์เมด กล่องแต่ละใบจะมีเอกลัษณ์เฉพาะตัว คือลายจะไม่ซ้ำกัน"

 ด้านการตลาด ช่างกบแจงว่า ที่ผ่านมาทำตลาดแบบปากต่อปากและขายฝาก เคยมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง แต่ด้วยมีออเดอร์เยอะมาก จนทำให้ไม่มีเวลาไปดูแลจึงต้องปิดร้านลง และหันไปรับงานตามออเดอร์ที่ลูกค้าจะแนะนำกันต่อๆ ไป โดยเคยรับออเดอร์ส่งกล่องใส่เครื่องสปาส่งออกอเมริกา และกล่องไวน์ส่งออกญี่ปุ่นด้วย ส่วนในกรุงเทพฯ มีวางจำหน่ายในร้านโอท็อป ที่สถานีรถไฟใต้ดิน สถานีจตุจักร

 พร้อมกันนี้ ช่างกบยังฝากถึงผู้ที่สนใจอยากทดลองทำว่า อุปกรณ์ในการทำกล่องอเนกประสงค์หลักๆ ประกอบด้วย กระดาษชานอ้อยสำหรับขึ้นรูปกล่อง มีหลายเบอร์ ได้แก่ 10, 12,14, 16, 20, 24, 32 แต่ส่วนใหญ่จะใช้กระดาษที่มีความหนาเบอร์ 32 ซึ่งจะมีความหนาและคงทนมากที่สุด กระดาษสาลวดลายตามที่ต้องการ กาวลาเท็กซ์อย่างดี คัตเตอร์ ไม้บรรทัด เป็นต้น ซึ่งวัสดุดังที่กล่าวต่างก็หาซื้อไม่ยาก แหล่งใหญ่ในการซื้อวัตถุดิบ อาทิ กระดาษชานอ้อย อุปกรณ์ต่างๆ อยู่บริเวณย่านเสือป่า ใกล้ๆ กับโรงพยาบาลกลาง ส่วนกระดาษสาสามารถหาซื้อได้ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร

 ส่วนท่านที่สนใจผลิตภัณฑ์กล่องกระดาษสาของเอสอาร์ เปเปอร์ บ๊อกซ์ ติดต่อได้ที่เลขที่ 21/452 หมู่บ้านเคซี 4 ซอยรามคำแหง 142 ถนนรามคำแหง แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ โทร.0-2728-0673 หรือ "ช่างกบ" สมเกียรติ รัตนอำนวยศิริ โทร.08-1918-4505

วิธีทำกล่องอเนกประสงค์
ขนาดกว้าง 12 x 18 x 6.5 เซนติเมตร
 1.เลือกความหนาของกระดาษ ส่วนใหญ่จะใช้ความหนาเบอร์ 32 ซึ่งจะมีความแข็งแรงและคงทนมากที่สุด
 2.นำกระดาษแข็งที่ตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 12x18x6.5 เซนติเมตร 4 ชิ้น และขนาด 12x18 เซนติเมตร 1 ชิ้น มาประกอบเป็นกล่อง โดยทากาวตามขอบเชื่อมต่อกัน

 3.จากนั้นตัดกระดาษสาให้พอดีเพื่อที่จะทากาวหุ้มรูปทรงกล่องให้ทั่ว และกรีดกระดาษตรงขอบด้านข้างให้เป็นรูปสามเหลี่ยมเพื่อปิดขอบหลบข้างใน  

 4.ตัดมุมขอบด้านบนของกระดาษออกมานิดหน่อย เพื่อไม่ให้กระดาษหนาจนเกินไปในการหุ้มขอบกล่อง ตรงพื้นด้านในของกล่องจะตัดกระดาษสาปิดทับอีกครั้งหนึ่ง

 5.ส่วนฝาก็ทำวิธีเดียวกัน เพียงแต่ว่าฝาจะใหญ่กว่าตัวกล่อง เพื่อให้ปิดได้ ซึ่งผู้ทำที่ชำนาญแล้วจะใช้เวลาในการทำไม่ถึง 15 นาทีต่อกล่อง 1 ใบ วันหนึ่งๆ ก็จะทำได้หลายสิบกล่อง

 ทว่าถ้าเป็นกล่องหูหิ้ว วิธีการทำก็เหมือนกับกล่องกระดาษทั่วๆ ไป แตกต่างกันที่ฝากล่องจะต้องทำขนาดพอดีกับตัวกล่อง แต่เพิ่มความซับซ้อนขึ้น คือติดบานพับ ติดหูหิ้ว ติดตัวล็อก หรือติดกระจกเพิ่มความสวยงาม

 กล่องอเนกประสงค์นี้ ใช้ใส่ของขวัญ และเป็นของขวัญได้ในตัว ใช้สอยได้หลากหลาย ราคาขายตามขนาดของกล่อง สนนราคาตั้งแต่ 10 บาทขึ้นไป