ไลฟ์สไตล์

คุณแม่ทำอย่างไรเมื่อลูกหอบ

คุณแม่ทำอย่างไรเมื่อลูกหอบ

23 มิ.ย. 2553

โรคหอบหืด (ASTHMA) ผู้ป่วยจะมีอาการ ไอ หอบ หายใจออกเสียงคล้ายนกหวีด มักเป็นเวลาที่สัมผัสสิ่งที่แพ้ เช่น ความเย็น ความชื้น การออกกำลังกาย และอื่นๆ บางครั้งอาจมีไข้หวัดนำมาก่อน แล้วมีอาการหอบ มักมีประวัติกรรมพันธุ์ในครอบครัว

การจับหืดแบบเฉียบพลัน
 อาจพบได้ในเด็กที่เป็นหืด ซึ่งมีอาการไม่บ่อยนัก แต่ได้รับสิ่งกระตุ้นที่รุนแรง เช่น ในขณะที่เป็นหวัดรุนแรงหลังจากออกกำลังกายมากๆ หรือ หายใจเอาสารแพ้เข้าไปในปอดเป็นจำนวนมาก อาจจะเกิดในเด็กที่เป็นโรคหอบหืดอย่างเรื้อรัง ที่ไม่ได้รับยาเท่าที่ควร
อาการ 
 การจับหอบหืดแบบเฉียบพลันในเด็กแต่ละคน อาการจะแตกต่างกันไป ตั้งแต่จากที่เป็นน้อยๆ เช่น ไอถี่ๆ และมีอาการขัดหน้าอก หายใจไม่เร็วนัก จนกระทั่งไปถึงผู้ป่วยที่เป็นมาก ถึงขนาดหายใจไม่ออก หายใจลำบาก หายใจออกมีเสียงดังคล้ายนกหวีด หายใจเร็วมากและมีหน้าอกบุ๋ม และมีอาการเขียว เป็นต้น ทั้งนี้ ขึ้นกับอาการพื้นฐานของโรคในผู้ป่วยนั้นๆ ว่า จะเป็นมากน้อยเพียงใด
การรักษา 
 กลุ่มผู้ป่วยที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที ได้แก่
 1. ผู้ป่วยเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ ที่หอบมากๆ และหายใจเร็วมากๆ
 2. ผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยารักษาหอบหืดพวก BETA-AGENIST
 3. ผู้ป่วยที่ตัวเขียว และมีระดับความรู้สึกตัวที่ไม่ค่อยดีนัก
คำแนะนำในการดูแลเด็กที่เป็นหอบหืด
 - ห้ามทาแป้งฝุ่น เพราะแป้งฝุ่นมีทั้งฝุ่นละออง และกลิ่นน้ำหอม ซึ่งทำให้ระคายเคือง เด็กมักจะจาม เด็กอนุบาลควรงดเว้นการทาแป้งก่อนผู้ปกครองไปรับกลับบ้าน
 - ห้าม หรือหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้สูบบุหรี่ หรือผู้สูบบุหรี่ไม่ควรอุ้มเด็ก ถึงแม้ว่าไม่ได้สูบบุหรี่ในขณะนั้นก็ตาม เพราะผู้ที่สูบบุหรี่จะมีกลิ่นติดตามตัวและเสื้อผ้า
 - ห้ามเข้าใกล้ผู้ใส่น้ำหอม และไม่ควรมีน้ำหอมในรถส่วนตัว เพราะกลิ่นน้ำหอมก็เป็นมลภาวะต่อผู้ที่มีประวัติหอบหืดหรือเด็ก
 - ไม่ควรจุดยากันยุง ธูป
 - ห้ามกินขนมถุงที่แห้งกรอบ
 - ห้ามเข้าใกล้สัตว์ที่มีขน เช่น สุนัข แมว ฯลฯ
 - ไม่ควรเล่นตุ๊กตาที่เป็นขน ควรใช้เป็นตุ๊กตาผ้า ห้องนอนไม่ควรปูพรม
 - การนอนในห้องปรับอากาศเป็นสิ่งที่ดี ถ้าทำได้ ทำให้ไม่ไอในเวลานอน
 - ไม่ควรปล่อยให้เด็กเป็นหวัดเรื้อรัง
 - ดูแลให้เด็กได้รับยาตามคำสั่งแพทย์ 
 ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง คือฝุ่นละออง หรือมลพิษจากรถ จะเห็นได้ว่า เด็กที่เป็นโรคหอบหืดที่ได้รับการดูแลอย่างดี และรับการรักษาอย่างถูกต้องสมบูรณ์นั้น ไม่ควรที่จะต้องได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลบ่อยครั้งนัก และยิ่งไปกว่านั้น ผู้ป่วยเด็กหอบหืดที่ได้รับการรักษาดูแลที่ถูกต้อง ควรจะมีอัตราเสี่ยงในการตายจากโรคหอบหืด ที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
พญ.สาวิกา เฉิดสุวรรณรักษ์
กุมารเวช  โรงพยาบาลไทยนครินทร์