ร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง งานยอดฮิตรับปิดเทอม | คมชัดลึก

ไปเมื่อวันที่ 3-6 มีนาคมที่ผ่านมา และในปีนี้ งานฮิตในหมู่วัยรุ่นก็ยังคงเป็นการได้ร่วมงานกับบริษัทชื่อภาษาอังกฤษ ที่มีภาพลักษณ์ทันสมัย โดยเฉพาะธุรกิจฟาสต์ฟู้ดต่างๆ และดูเหมือนว่า งานในธุรกิจอาหารข้ามชาตินี้แย่งที่ความนิยมจนงานประจำสำนักงานแทบไม่มีใครสนใจ

ชินภัทรภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ในฐานะผู้ดูแลโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน นักศึกษาให้มีรายได้ระหว่างเรียนเปิดเผยว่า ช่วง 4 วันที่เปิดบูธรับสมัครงานในกทม. นั้นได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักเรียนนักศึกษา ซึ่งมาสมัครงานทั้งหมดถึง 19,950 รายส่วนในต่างจังหวัดนั้น ตัวเลขยอดผู้สมัครงานยังไม่รายงานเข้ามา เพราะเพิ่งเปิดบูธรับสมัครงานไปเมื่อวันที่ 16-18 มีนาคมที่ผ่านมา แต่มั่นใจว่า ยอดนักเรียน นักศึกษาที่มาสมัครงานทั่วประเทศจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ คือ 5 หมื่นราย

ในส่วนของกทม.นั้นจากยอดผู้สมัครทั้งหมด19,950 รายนั้นเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์สมัครทำงานกับภาคเอกชนจำนวน 17,540 คนซึ่งงานของภาคเอกชนนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานบริการในธุรกิจร้านอาหารชื่อดัง ภาพลักษณ์ทันสมัคร โดยบริษัทที่นักเรียน นักศึษา ต้องการร่วมงานด้วยมากที่สุดคือ ฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง บริษัท แมคไทย จำกัด มีนักเรียน นักศึกษามาสมัครงานถึง 2,491 รายตามด้วย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของไก่ทอดชื่อดัง "เคเอฟซี" และ พิซซ่าฮัท มีผู้สมัคร2,196 ราย3.บริษัทโกลเด้นโดนัท(ประเทศไทย) จำกัดหรือ ดังกิ้นโดนัท" มีผู้สมัคร1,928 ราย4.บริษัทเซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเนชั่น จำกัด มีผู้สมัคร 1,707 รายและ 5.บริษัทเชสเตอร์ ฟู้ด จำกัด มีผู้สมัคร 1,570 ราย

นอกจาก5 อันดับท็อปฮิตนี้แล้วบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือเซเว่นอีเลฟเว่นได้รับความสนใจพอสมควรเช่นกัน มียอดสมัคร 1,108 รายรวมถึงธุรกิจร้านอาหารชื่อดังอื่นๆ ก็ได้รับความสนใจพอตัว เช่น บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ จำกัด หรือ บริษัทเอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ส่วนงานของธุรกิจประเภทอื่นๆนั้น ได้รับความสนใจค่อนข้างน้อย เช่น บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีผู้สมัครแค่160 รายหรือบริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เช็นเตอร์ จำกัด มีผู้สมัครแค่ 163 รายทั้งๆ ที่ร้านหนังสือน่าจะเหมาะและได้ประโยชน์กับนักเรียน นักศึกษามากกว่าธุรกิจร้านอาหาร ส่วนงานภาคราชการแล้วยิ่งแล้วใหญ่ 4 วันมีเด็กสนใจมาสมัครงานแค่ 1,910 ราย

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการอธิบายปรากฏการณ์นี้ว่าไม่แปลกที่นักเรียน นักศึกษาจะสนใจร่วมงานกับธุรกิจฟาสต์ฟู้ดชื่อคุ้นหูเหล่านี้ เพราะสินค้าเหล่านี้ให้ภาพลักษณ์ที่ทันสมัย มีเอกลักษณ์ผ่านการโฆษณา มีพรีเซ็นเตอร์เป็นคนหนุ่มสาววัยเดียวกับพวกเขา ทำให้นักเรียน นักศึกษา ไม่รู้สึกอายเมื่อทำงานกับบริษัทเหล่านี้

 "แต่ก่อนการทำงานหาเลี้ยงตัวเองเป็นเรื่องน่าอายตอนนี้ค่านิยมเริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะในสภาพที่มีปัญหาเศรษฐกิจ เด็กต้องช่วยครอบครัวทำงานหารายได้ และการที่ได้ทำงานในธุรกิจภาพลักษณ์ทันสมัยเหล่านี้ มีระบบทำงานที่ทันสมัย ทำให้พวกเขารู้สึกสนุกไปกับการทำงาน และไม่ต้องกังวลเรื่องการยอมรับจากเพื่อน"  ปลัดศธ.กล่าว

ไม่ว่าจะทำงานอะไรแต่ปลัดศธ. เห็นว่าการที่นักเรียนนักศึกษา ได้มีโอกาสทำงานในช่วงที่มีเวลาว่างนั้น เป็นประโยชน์ เพราะช่วยเติมเต็มให้ตัวนักเด็กเอง สิ่งที่เด็กจะได้จากการทำงานนั้น ไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ชีวิต ทักษะการทำงาน ได้ค้นหาตัวเอง ฝึกการเข้าสังคม ปรับตัวให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ฝึกความอดทน และสอนให้เด็กรู้จักคุณค่าของเงิน โดยเฉพาะในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อนั้น หากวัยรุ่นใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ จะป้องกันการถูกชักจูงให้ไปในทางที่ผิดได้

เพราะฉะนั้นรัฐบาลควรสานต่อโครงการนี้ให้ต่อเนื่องสำหรับปีนี้กระทรวงศึกษาธิการได้งบประมาณ 32.9 ล้านบาทสำหรับเตรียมตำแหน่งงาน 2 หมื่นตำแหน่งไว้รองรับนักเรียน นักศึกษา ซึ่งไม่อยากให้รัฐบาลจัดงบประมาณสนับสนุนโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ภาคราชการเป็นแกนนำระดมภาคเอกชน มาทำโครงการจ้างนักเรียน นักศึกษา ทำงานในช่วงปิดเทอมต่อไป

สุรศักดิ์วิเศษชาติ หรือ โจ้ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง จาก จ.ศรีสะเกษต้องกู้เงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เรียนต่อในระดับปริญญาตรี เป็นคนหนึ่งที่สมัครงานในวันเปิดบูธ (3 มี.ค.) โจ้เล่าว่า ตลอดเวลาที่เรียนปริญญาตรี ต้องทำงานส่งตัวเองเรียนตลอด เพราะเงินกู้ กยศ. ที่ให้ใช้เดือนละประมาณ2,500 บาทไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายจริงเพราะฉะนั้น ที่ผ่านมา จึงทำงานไม่เลือกทุกประเภท เช่น โรงงานผลไม้ ร้านอาหาร ร้านหนังสือ อะไรก็ได้ขอให้ได้เงินมาเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างเรียน และในครั้งนี้ ก็พร้อมทำงานทุกอย่าง ขอเพียงให้เป็นงานที่มีเวลาว่างเหลือพออ่านหนังสือได้บ้างเท่านั้น

ขณะที่กิตติยาแก้วพิลา ร.ร.กรุงเทพการบัญชีวิทยาลัยบอกว่า ต้องการทำงานในช่วงปิดเทอมเพื่อสะสมเงินช่วยพ่อแม่ จ่ายค่าเทอม แม้ว่าฐานะทางบ้านจะไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ อยากลองทำงานหาเงินด้วยตัวเองบ้าง และงานที่มองๆ ไว้ เช่น เคเอฟซี หรือแมคโดนัลด์  เพราะจริงๆ แล้วการทำงานนั้นจะได้ประสบการณ์มากมาย ที่หาไม่ได้ในห้องเรียน แถมได้ค่าขนมอีกต่างหาก

0 สุพินดา ณ มหาไชย 0