Lifestyle

"หลวงพ่อเจ้าสัว” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ แห่งวัดนาคปรก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วัดนาคปรก มีฐานะเป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๓๔๒ ถนนเทอดไท ๔๙ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม.

 ตามประวัติเล่าสืบกันว่า เมื่อสมัยอยุธยาตอนปลาย-กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น (รัชกาลที่ ๓-๔) มีพ่อค้าเรือสำเภาชาวจีนชื่อ เจ้าสัวพุก แซ่ตัน เดินทางมาประกอบการค้าขายที่พระนคร ฝั่งธนบุรี ย่านตลาดพลู จนเป็นที่ไว้วางใจ กระทั่งได้รับบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าคุณที่ "พระบริบูรณ์ธนากร" โดยได้ตั้งรากปักฐานและแต่งงานกับหญิงไทย

 ภรรยาของเจ้าสัวพุก เป็นหญิงที่มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ชักชวนเจ้าสัวพุกทำบุญบูรณะวัดที่ถูกทิ้งร้าง เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรม กิจกรรม และศาสนกิจทางพระพุทธศาสนา

 ในขณะนั้นวัดนาคปรกเป็นวัดที่ถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (สร้างใน พ.ศ.๒๒๙๑ ก่อนจะเสียกรุงศรีอยุธยา ๑๙ ปี) สภาพอุโบสถเหลือแต่หลังคา และผนังเท่านั้น

 เมื่อบูรณะอุโบสถแล้วเสร็จ เพื่อเป็นการตอบแทนคุณชาวไทยที่ทำให้การค้าขายของตนเติบโตก้าวหน้า ท่านได้จ้างช่างวาดภาพจากเมืองจีนให้มาเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นเครื่องบูชามงคลของชาวจีนโบราณ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ตนเอง

 นอกจากนี้แล้ว ยังสร้างวิหารลักษณะทรงไทยเป็นอนุสรณ์แก่ภรรยา เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังลายไทย เล่าเรื่องราวการเสด็จลงจากดาวดึงส์ และเรื่องราวการชนะมารของพระพุทธเจ้า

 ครั้นแล้วได้อัญเชิญพระพุทธรูปปางมารวิชัย ๒ องค์ มาจากเมืองสุโขทัย โดยองค์หนึ่งประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถ ซึ่งภายหลังชาวบ้านเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อเจ้าสัว”

 ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเจ้าสัวนี้ ในแต่ละวันมีคนเดินทางมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะการขอพรเรื่องความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน และการประกอบธุรกิจต่างๆ ดังเจ้าสัวพุกในอดีต

 ส่วนอีกองค์หนึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้กัน เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งประดิษฐานเป็นองค์พระประธานในวิหาร มีพญานาค ๗ เศียรแผ่พังพาน เป็นรูปปูนปั้น องค์พระเป็นพระปางมารวิชัยสัมฤทธิ์ ชาวบ้านจึงได้เรียกว่า “วัดนาคปรก” ตามลักษณะพระพุทธรูป

 ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปองค์นี้ วัดได้จากสับปะรดที่มีผู้บนบานศาลกล่าวนำมาแก้บน โดยหนึ่งในจำนวนนี้คือ นายบงกชธร (คำนวร) บำรุงพืช ผู้ชำนาญพระพุทธรูปยุคเก่า รวมทั้งพระชุดเบญจภาคี ที่ปวารณาตัวจัดสร้างพระถวายวัด เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนยกโบสถ์ โดยไม่ได้หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

 ปัจจุบัน วัดนาคปรก มีพระครูวรกิตติโสภณ (เศรษฐกิจ สมาหิโต) หรือหลวงพ่อเศรษฐี เป็นเจ้าอาวาส โดยที่มาของชื่อหลวงพ่อเศรษฐีนั้น เป็นชื่อที่คนไทยในต่างประเทศเรียกขานกัน ซึ่งแรกเริ่มนั้นญาติโยมจะเรียกท่านสั้นๆ ว่า “หลวงพ่อเศรษฐกิจ” เรียกไปเรียกมาจนกลายเป็นหลวงพ่อเศรษฐี

 ส่วนญาติโยมในเมืองไทยจะเรียกท่านว่า “หลวงพ่อเจ้าอาวาส” ส่วนใครจะเรียกแบบไหนก็ตามสะดวก  
  อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่หลวงพ่อมีประสบการณ์เผยแผ่พุทธศาสนาในต่างประเทศหลายประเทศ เช่น อินเดีย ศรีลังกา จีน สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ ฯลฯ รวมทั้งมีพรสวรรค์ทางวาทศิลป์ มีมนุษยสัมพันธ์อันดีเยี่ยม รวมทั้งมีอัธยาศัยโอบอ้อมอารีให้เกียรติเพื่อนสหธรรมิก และสาธุชนทุกหมู่เหล่า

 ก่อนที่จะมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนาคปรกนั้น ท่านเป็นประธานสงฆ์เผยแผ่พระพุทธศาสนาที่วัดพุทธสามัคคี นครไครสต์เชิร์ส ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อมารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านได้ตั้งปณิธานในการบริหารและพัฒนาวัดไว้ว่า “ตื่นแต่เช้า ก้าวไปข้างหน้า แข่งกับเวลา เพื่อพัฒนาตนเอง และสังคม”

 ขณะเดียวกัน หลวงพ่อเศรษฐียังจัดทำโครงการต่างๆ หลายโครงการ แต่มีอยู่ ๒ โครงการที่ได้รับความนิยมจากญาติโยม คือ โครงการปฏิบัติธรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และโครงการบวชเนกขัมมปฏิบัติ โดยจัดทุกวันสำคัญทางศาสนา ระยะเวลา ๓-๗ วัน

 โดยผู้ร่วมโครงการต้องนุ่งขาวห่มขาว รักษาศีล ๘ มีการเทศน์ บรรยายธรรม รวมทั้งฝึกสมาธิตลอดโครงการ
 เหตุผลที่คนไปร่วมโครงการนี้กันมากคือ หลวงพ่อเศรษฐีท่านเป็นอาจารย์สอนที่จิตภาวันวิทยาลัยในยุคแรกเริ่ม และจบอภิธรรมบัณฑิต

 พุทธศาสนิกชนที่จะเดินทางไปกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อเจ้าสัว หลวงพ่อนาคปรก รวมทั้งร่วมโครงการปฏิบัติธรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ติดต่อสอบถามหรือสมัครได้ที่ สำนักปฏิบัติธรรมวัดนาคปรก โทร.๐-๒๔๖๗-๒๓๘๐, ๐-๒๔๖๗-๑๕๐๑, ๐๘-๐๒๐๑-๒๕๐๗ หรือหาข้อมูลได้ที่ “www.watnakprok.org”

บุญยกอุโบสถอายุ ๒๖๓ ปี
  “ผมเป็นคนแถวนี้ ทุกครั้งที่มีอะไรติดขัด หรือไม่สะดวก ผมจะเดินทางมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อเจ้าสัว และหลวงพ่อนาคปรก หลังจากนั้นก็สำเร็จสมความตั้งใจทุกครั้ง เมื่อวัดมีโครงการบูรณะยกโบถส์เก่าแก่ที่มีอายุประมาณ ๒๖๓ ปี ผมจึงจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา โดยออกทุนเองทั้งหมด ถวายวัด” นี่คือพลังศรัทธาของนายบงกชธร ในการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นบูรณะอุโบสถ ปี ๒๕๕๓

 ทั้งนี้ ได้มีพระพรหมโมลี วัดพิชัยญาติฯ เป็นประธานเททองหล่อพระสังกัจจายน์ พระสิวลี และพระพิฆเนศ ทั้งนี้ได้ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกไปแล้วเมื่อวันที่ ๒๖-๒๗ พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายสิบรูป ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต เช่น สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม หลวงพ่อเลิศ วัดปราโมทย์ หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม และหลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์ เป็นต้น

 ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ใหญ่ในวงการพระเครื่องไปร่วมงานหลายสิบคน โดยเฉพาะนายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมพระเครื่องและพระบูชาไทย หรือต้อย เมืองนนท์

 พร้อมกันนี้ นายบงกชธร ยังบอกด้วยว่า ในฐานะที่อยู่วงการพระเครื่อง เมื่อมีโอกาสเราก็ควรทำบุญทำนุบำรุงศาสนาอย่างเช่นคนในยุคก่อนทำสืบทอดกันมา ประกอบกับความเชื่อที่ว่าการทำบุญยกโบสถ์ เหมือนกับยกชีวิต ยกฐานะให้สูงขึ้น จึงอยากเชิญชวนทุกท่านมาร่วมทำบุญใหญ่ในครั้งนี้ ซึ่งจากการพูดคุยกับหลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านบอกว่า ต้องใช้ปัจจัยทั้งหมดประมาณ ๑๕ ล้านบาท

เรื่อง... "ไตรเทพ ไกรงู"
ภาพ... "ประเสริฐ เทพศรี"

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ