ไลฟ์สไตล์

เจาะแจ๊ะวิทยาศาสตร์-หมวกเมฆสีรุ้ง

เจาะแจ๊ะวิทยาศาสตร์-หมวกเมฆสีรุ้ง

13 มิ.ย. 2553

สวัสดีค่ะ น้องๆ กลับมาพบกับ พี่ฮัมมิ่งเบิร์ด เช่นเคยคะ ในช่วงเย็นของวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา น้องๆ ได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอันแสนงดงาม

ภาพของมวลเมฆขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใต้ริ้วแสงสีรุ้ง บนท้องฟ้าทางทิศตะวันตกในบริเวณกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง หรือเปล่าคะ เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ เลยคะ ว่าแต่ปรากฏการณ์ดังกล่าว คืออะไร.?? พี่มีคำตอบให้น้องๆ คะ...ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และผู้ก่อตั้งชมรมคนรักมวล เล่าว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าว เรียกว่า “หมวกเมฆสีรุ้ง” โดยเป็นการรวมตัวของเมฆก้อนใหญ่ที่เห็น ได้แก่ เมฆฝนฟ้าคะนอง (thundercloud) หรือที่นักอุตุนิยมวิทยาเรียกว่า คิวมูโลนิมบัส (cumulonimbus) ซึ่งตามปกติแล้วเมฆฝนฟ้าคะนองจะสูงในช่วง 7-10 กิโลเมตร แต่จากภาพและหลักฐานที่ปรากฏเชื่อว่าเมฆก้อนนี้น่าจะมีความสูงมากกว่า 10 กิโลเมตร (ข้อมูลวิชาการระบุว่า เมฆฝนฟ้าคะนองอาจมีขนาดสูงสุดได้ถึง 23 กิโลเมตร) ส่วนสิ่งที่ทำให้เมฆก้อนนี้มีความงดงามโดดเด่นเนื่องจากมีปรากฏการณ์อย่างน้อย 3 แบบหลักที่เกิดขึ้นในเวลาพร้อมๆ กัน ได้แก่ หมวกเมฆ (pileus) ปรากฏการณ์สีรุ้ง (irisation) และเงาเมฆ (cloud shadow) นอกจากนี้ยังมีปรากฏการณ์ย่อยอื่นๆ เช่น ขอบเงิน (silver lining) เป็นต้น
 “ปรากฏการณ์สีรุ้ง หรือ irisation (เรียกว่า iridescence ก็ได้) เกิดจากการที่แสงอาทิตย์สีขาวตกกระทบเม็ดน้ำขน
าดต่างๆ ในเมฆจางๆ ซึ่งเป็นเมฆที่มีจำนวนหยดน้ำไม่หนาแน่นมากนัก เมื่อแสงตกกระทบหยดน้ำแต่ละหยด จะเกิดการหักเหเปลี่ยนทิศทางไปจากแนวเดิม แต่เนื่องจากแสงสีต่างๆ (ที่ประกอบขึ้นเป็นแสงสีขาว) หักเหได้ไม่เท่ากัน ผลก็คือ แสงสีขาวแตกออกเป็นสีรุ้ง และเนื่องจากในเมฆจางๆ ที่ว่านี้มีเม็ดน้ำขนาดต่างๆ กัน ทำให้สีรุ้งสีหนึ่ง (เช่น สีเขียว) ที่หักเหออกจากเม็ดน้ำขนาดหนึ่งๆ ซ้อนทับกับสีรุ้งอีกสีหนึ่ง (เช่น สีเหลือง) ที่มาจากเม็ดน้ำอีกขนาดหนึ่ง จึงทำให้มองเห็นสีรุ้งมีลักษณะเหลือบซ้อนทับกันอย่างสลับซับซ้อน บางทีก็คล้ายสีรุ้งบนผิวไข่มุก บางทีก็ซ้อนกันเป็นชั้นๆ

 ปรากฏการณ์ของเมฆที่เกิดขึ้นนั้น ไม่เพียงเป็นความสวยงามจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาชมได้ยาก แต่ยังแฝงไปด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ที่นำมาใช้เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ที่น่าสนใจได้ โดยผู้ที่สนใจอาจแวะชมเว็บของชมรมได้ที่  http://portal.in.th/cloud-lover ได้นะคะ พบกันสัปดาห์หน้าคะ

[email protected]