
นิพิฏฐ์ประกาศนำขรก.วธ.ปกป้องสถาบัน
นิพิฏฐ์ไฟแรงทำงานวันแรกประกาศนำข้าราชการปกป้องสถาบัน-ทำงานเพื่อในหลวง พร้อม รีแบรนดิ้ง ลบภาพกระทรวงเก่าคร่ำครึ ให้ทันสมัย ติดตลาด
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เวลา 09.00 น.ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดวธ. พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สส.พัทลุง และคณะที่ปรึกษากว่า 100 คน ได้ให้การต้อนรับนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(รมว.วธ.)คนใหม่กันอย่างคึกคัก เมื่อนายนิพิฏฐ์เดินทางมาถึงได้ถือฤกษ์เวลา 09.19 น. เข้าสักการะพระพรหมณ์สิ่งศักดิ์สิทธิ์หน้ากระทรวงวัฒนธรรม หลังจากนั้นได้ร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ จุดให้บริการลงนามถวายพระพรที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของอาคาร ก่อนเดินทางขึ้นห้องทำงานรัฐมนตรีที่ชั้น 23 เพื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และในเวลา 10.00 น. นายนิพิฏฐ์ ได้เข้าร่วมรับฟังและมอบนโยบายเกี่ยวกับภาระหน้าที่ในการทำงานของกระทรวงร่วมกับเหล่าข้าราชการ
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า นโยบายแรกในการทำงานของ วธ. นั้น จะมุ่งเน้นการทำงานเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก ซึ่งถือเป็น 1 ในแผนปรองดองแห่งชาติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตนขอให้ข้าราชการ วธ. ที่มีอยู่ราว 4,900 อัตรา รวมถึงเครือข่ายที่มีอีกกว่า 1.3 ล้านคนทั่วประเทศ ถอดหัวใจเพื่อทำงานให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ตนจะให้ความสำคัญในการใช้บทบาทกระทรวงเพื่อร่วมสร้างความปรองดองตามเป้าหมายของแผนปรองดองฯ ของรัฐบาลเป็นสำคัญ
“เรื่องเร่งด่วนในขณะนี้คือการสนับสนุนนโยบายปรองดองของนายกฯ ส่วนตัวมองว่างานด้านวัฒนธรรมเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความสุขของคนในชาติ โดยเบื้องต้นมีแนวคิดจะนำบุคคลผู้มีความสำคัญในงานด้านวัฒนธรรม อาทิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ตลอดจน ศิลปินพื้นบ้าน ศิลปินแห่งชาติ และนักปราชญ์ทั้งหลายมาร่วมหารือสร้างความปรองดองด้วยความสุข และคิดว่านโยบายนี้สามารถทำได้ทันที” รมว.วธ. กล่าว
นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับความจริงว่าระยะเวลาของรัฐบาลเหลือไม่ถึง 2 ปี ดังนั้นจะกำหนดนโยบายที่สามารถดำเนินการเป็นรูปธรรมได้ในระยะเวลาที่จำกัด อย่างไรก็ดีตนได้มอบนโยบายต่อข้าราชการแล้วว่า การทำงานกระทรวงวัฒนธรรม ถือเป็นงานที่มีความน่าภาคภูมิใจดังนั้นอยากขอให้ข้าราชการทุกคนทุ่มเทและให้ใจในการทำงานเพื่อกระทรวง โดยขอฝากให้พิจารณาการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่กระทรวงจากกระทรวงนุ่งผ้าม่วง โจงกระเบน ให้มีความทันสมัย แต่ยังคงดำรงไว้ซึ่งความเป็นวัฒนธรรมไทย