ไลฟ์สไตล์

เปิดโลกการศึกษามุสลิมตอน : เอกลักษณ์มุสลิมและมุสลิมะห์ไทย

เปิดโลกการศึกษามุสลิมตอน : เอกลักษณ์มุสลิมและมุสลิมะห์ไทย

09 มิ.ย. 2553

หากพูดถึงเรื่องของสุภาพสตรีที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศไทยแล้ว สังคมส่วนใหญ่จะนึกถึงการแต่งกายของมุสลิมะห์ เป็นอันดับแรก และที่ตามมานั่นก็คือความแตกต่างและปัญหาในการเข้าสังคมว่าในสังคมนักศึกษา

 สังคมในที่ทำงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ไม่ใช่อิสลาม แต่ทุกวันนี้เรื่องการแต่งกายของมุสลิมะห์ได้เป็นที่ยอมรับและแพร่หลายไปทั่ว โดยเฉพาะทางภาคใต้ของไทยนักศึกษาสามารถแต่งกายตามหลักศาสนาได้ตั้งแต่อนุบาลจนถึงระดับมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่สังคมการทำงาน เป็นนโยบายของรัฐบาลที่เปิดทางสร้างความเสมอภาคของการปฏิบัติตามหลักการของศาสนาต่างๆ ในประเทศไทย

         จะเป็นการดีไม่น้อย หากจุฬาราชมนตรีคนใหม่ มีส่วนทำให้มุสลิม (ผู้ชายนับถือศาสนาอิสลาม) และมุสลิมะห์ (ผู้หญิงที่นับถือศาสนาอิสลาม) มีโอกาสได้ปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามหลักศาสนา ในระหว่างปฏิบัติงาน หรือศึกษา อนุญาตให้มุสลิมได้ไปละหมาดยุมะอะห์ (ละหมาดวันศุกร์เฉพาะผู้ชาย) ในวันศุกร์ โดยออกก่อนเวลางานเพื่อไปร่วมพิธีการละหมาด และกลับหลังเวลางานโดยจะปฏิบัติงานชดเชยเวลาที่ใช้ไปในช่วงนั้นแทน

 รวมทั้งอนุญาตให้มุสลิมะห์แต่งกายถูกต้องตามหลักศาสนาการคลุมฮิญาบ (การคลุมผม) โดยไม่ถือเป็นการผิดระเบียบในสถานที่ศึกษาและสถานที่ทำงาน จัดห้องห้องสำหรับประกอบศาสนกิจห้องละหมาด เพื่อความสะดวกในการละหมาดของพนักงานหรือนักศึกษาที่นับถือศาสนาอิสลามได้ปฏิบัติศาสนกิจ และ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทางภาครัฐให้ความสำคัญและสนับสนุนในกิจกรรมต่างๆ ของสังคมมุสลิมหรือให้พนักงานหรือนักศึกษาได้หยุดเพื่อร่วมวันสำคัญต่างๆ ของศาสนา

  อันที่จริงถ้าพูดถึงเรื่องการแต่งกายตามหลักศาสนาแล้วไม่ใช่เรื่องที่น่าจะสร้างความแตกแยกถึงแม้จะแตกต่างก็ตาม แต่จะเป็นการดีไม่น้อยหากภาครัฐและคนไทยมุสลิมมาช่วยกันจัดระเบียบการอิสลามว่าด้วยเรื่องการแต่งกายให้ออกมาดูดีและเป็นมุสลิมไทยอย่างสวยงาม เพราะทุกวันนี้มีความพยายามใช้ความคิดและเก็บเอาวัฒนธรรมการแต่งกายของประเทศอาหรับมาใช้ในประเทศไทย จนไม่มีความเป็นเอกลักษณ์ของมุสลิมไทย ขอฝากทุกสังคมมุสลิมในประเทศไทยในเรื่องนี้ด้วยนะครับ เพื่อความเป็นหนึ่งในมุสลิมและหนึ่งในการยอมรับของสังคมที่ไม่ใช่อิสลาม...อามีน...ยาร็อบ