
กรมวิชาการได้ปาล์มพันธุ์ใหม่ ยอดปาล์มพันธุ์ดี "สุราษฎร์ธานี 7"
ความหวังของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันเริ่มสดใสอีกครั้งหลัง หลังกรมวิชาการเกษตรได้พัฒนาปาล์มน้ำมันลูกผสมพันธุ์ใหม่สำเร็จ ภายใต้ชื่อ สุราษฎร์ธานี 7 จุดเด่นให้ผลผลิตสูงถึง 3.64 ตันต่อไร่ต่อปี แถมน้ำมันดิบเฉลี่ย 881 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โด
"ในปีนี้กรมวิชาการเกษตรประสบความสำเร็จในการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ปาล์มน้ำมันพันธุ์ใหม่อีก 1 พันธุ์ คือ พันธุ์ลูกผสมสุราษฎร์ธานี 7 เป็นการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างพ่อพันธุ์ T159/398 กลุ่มแทนซาเนีย (Tanzania) กับแม่พันธุ์ D78/193 กลุ่มเดลิ ดูร่า (Deli Dura) โดยคณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืชได้พิจารณาประกาศเป็นพันธุ์แนะนำแล้ว เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันได้นำไปปลูกเพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้เป็นอย่างดี" สมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เผยในงานมหกรรมวิชาการเกษตร "เทคโนโลยีก้าวไกล ภาคใต้ก้าวหน้า" จัดขึ้น ณ ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี เมื่อเร็วๆ นี้
สมชาย ระบุอีกว่า ลักษณะเด่นของปาล์มน้ำมันลูกผสมพันธุ์ใหม่นี้ คือ ให้ผลผลิตทะลายสดสูง เฉลี่ย 3,646 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานของกรมวิชาการเกษตร ประมาณ 6.6% ขณะเดียวกันยังให้ผลผลิตน้ำมันดิบสูงเฉลี่ย 881 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี สูงกว่าพันธุ์ลูกผสมสุราษฎร์ธานี 3 ประมาณ 12.4% และสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 17% ทั้งยังให้เนื้อในต่อผลสูงเฉลี่ย 11% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานด้วย
"เมื่อปี 2544 ทีมนักวิจัยได้ปลูกทดสอบร่วมกับปาล์มน้ำมันคู่ผสมอื่นๆ จำนวน 23 คู่ และใช้พันธุ์ลูกผสมสุราษฎร์ธานี 3 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบระหว่างปี 2546-2552 และคัดเลือกได้ปาล์มน้ำมันลูกผสมพันธุ์ใหม่ที่มีศักยภาพสูงดังกล่าว ซึ่งนอกจากจะเป็นทางเลือกที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมันให้เกษตรกรแล้ว ยังช่วยลดปริมาณการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศได้ค่อนข้างมาก"
สมชายกล่าวอีกว่า พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับปลูกปาล์มน้ำมันลูกผสมสุราษฎร์ธานี 7 ควรมีปริมาณน้ำฝนประมาณ 1,400-1,800 มิลลิเมตรต่อปี มีช่วงแล้งติดต่อกันไม่เกิน 1-3 เดือน หรือมีสภาพการขาดน้ำประมาณ 100-300 มิลลิเมตรต่อปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยที่เหมาะสม 25-29 องศาเซลเซียส หากดินมีการระบายน้ำที่ดีและความอุดมสมบูรณ์ดี จะสามารถให้ผลผลิตทะลายปาล์มสดได้มากกว่า 3 ตันต่อไร่ต่อปี
การปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์นี้ควรใช้ระยะปลูก 9x9x9 แบบสามเหลี่ยมด้านเท่า ตามแนวเหนือ-ใต้ เกษตรกรควรมีการจัดการสวนปาล์มน้ำมันอย่างดี โดยปฏิบัติตามหลักจีเอพีปาล์มน้ำมันของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งจะมีอายุเก็บเกี่ยวทะลายสด 5-6 เดือน มีช่วงอายุเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นานถึง 25 ปี ทั้งนี้ เนื่องจากพันธุ์สุราษฎร์ธานี 7 เป็นลูกผสมชั่วที่ 1 (F1) จึงไม่สามารถนำเมล็ดที่ได้ไปทำพันธุ์เพื่อปลูกต่อได้เพราะอาจเกิดการกลายพันธุ์ขึ้น
“ขณะนี้ได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี เร่งผลิตพันธุ์ปาล์มน้ำมันลูกผสมสุราษฎร์ธานี 7 เพื่อรองรับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งช่วงปีแรกนี้ (2553-2554) คาดว่าจะสามารถผลิตเมล็ดงอกได้ไม่น้อยกว่า 1 แสนเมล็ด และปีถัดไปคาดว่าจะผลิตได้เพิ่มขึ้นถึง 2 แสน เมล็ด ปกติศูนย์จะมีกำลังการผลิตเมล็ดงอกปาล์มน้ำมันลูกผสมสุราษฎร์ธานี 1-7 ได้ปีละ 4-5 ล้านเมล็ดงอก ขึ้นอยู่กับความต้องการของเกษตรกรและผู้ประกอบการที่สั่งจอง” อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวทิ้งท้าย
นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวของกรมวิชาการเกษตร ภายใต้การนำของ "สมชาย ชาญณรงค์กุล" ที่เน้นนโยบายมุ่งมั่นพัฒนางานด้านเกษตรกรรม ด้วยการนำผลงานวิจัยมาต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ อันจะนำมาซึ่งอาชีพและรายได้ของเกษตรกรที่มั่นคงและยั่งยืนสืบไป
"สุรัตน์ อัตตะ"