
เล่าขานคุณค่า "เทวราชกุญชร" พระอารามหลวง
"วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมเป็นวัดราษฎร์ชื่อ "วัดสมอแครง" เล่ากันว่าที่เรียกชื่อนี้เพราะมีต้นสมอร่องแร่งมาก บ้างก็สันนิษฐานว่าคำว่าสมอเพี้ยนมาจาก "ถมอ (ถะมอ)" คำเขมรที่แปลว่า "หิน" ถมอแครง จึงอาจจะหมายถึง
เมื่อเดินเข้ามาถึงบริเวณหน้าวัดจะมีพระอุโบสถขนาดใหญ่หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา ทิศเหนือเป็นวิหารสูง ทิศตะวันออกและตะวันตกเป็นวิหารเตี้ย มีกำแพงแก้วโดยรอบพระวิหารและมีเจดีย์อยู่ทั้ง 4 มุม พระประธานเป็นพระพุทธรูปโลหะหล่อลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ฝีมือช่างสมัยทวารวดีผสมอู่ทอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า "พระพุทธเทวราชปฏิมากร" เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2546 ส่วนจิตรกรรมฝาผนังด้านข้างเหนือช่องหน้าต่างทั้งสองด้านเขียนภาพเหตุการณ์เหล่าเทพยดามาชุมนุมกันขณะที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ด้านล่างระหว่างช่องหน้าต่างเป็นภาพพระภิกษุกำลังปลงอสุภกรรมฐาน (ปลงสังขาร) ส่วนผนังตอนล่างระหว่างช่องประตูหน้าเป็นภาพทศชาติเรื่องสุวรรณสาม และด้านหลังเป็นภาพวัดเทวราชกุญชรเดิมก่อนที่จะมาสร้างพระอุโบสถ
ขยับมาทางทิศเหนือของพระอุโบสถเป็น "วิหารเพชร" ประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยต่างๆ ที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร เทด้วยทองเหลืองลงลักปิดทองจำนวน 9 องค์คือ "ปางสมาธิ" ศิลปะสมัยทวารวดี, ลพบุรี, รัตนโกสินทร์ตอนต้นและตอนกลาง "ปางมารวิชัย" ศิลปะสมัยเชียงแสน, อู่ทอง, สุโขทัย "ปางลีลา" ศิลปะสมัยสุโขทัย และ "พระคันธารราษฎร์"
ส่วนที่ถือเป็นจุดแนะนำ ได้แก่ แหล่งการเรียนรู้อนุรักษ์และเผยแพร่ความรู้ด้านพระพุทธศาสนา "พิพิธภัณฑ์ไม้สักทอง" สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 75 พรรษาในปี 2550 โดยได้รับการบริจาคบ้านไม้สักทองทั้งหลังจาก ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานโครงการบูรณะพระอาราม และ ท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน รองประธานฯ ลักษณะเป็นบ้านทรงปั้นหยาประยุกต์ 2 ชั้น บริเวณด้านหน้ามีพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณหล่อด้วยสัมฤทธิ์สัญลักษณ์ประจำวัดเทวราชกุญชรประดิษฐานอยู่ที่หน้าพระอินทร์ฯ มีจุดพลังจักรวาลไว้ให้ยืนสำหรับขอพร ภายในพิพิธภัณฑ์มีเสาใหญ่ขนาดสองคนโอบถึง 59 ต้น ชั้นบนจัดแสดงพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา, พระพุทธรูปปรางห้ามสมุทร, รูปปั้นไฟเบอร์กลาสขนาดเท่าองค์จริงพร้อมประวัติของสมเด็จพระสังฆราชทั้ง 18 องค์ ส่วนชั้นล่างจัดแสดงประวัติความเป็นมาของวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร
เพื่อเป็นการระลึกถึงการบูรณะถาวรวัตถุรวมไปถึงเป็นการร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในวิถีชุมชนเมือง พระเทพคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร รองเจ้าคณะภาค 13 กรุงเทพมหานคร จึงร่วมกับสำนักงานเขตดุสิตจัดงานสมโภชแห่งปี "เทศกาลวัดเทวราชกุญชร 2553" ขึ้น โดยภายในงานจะเปิดให้ประชาชนได้สักการะพระพุทธรูปภายในวัด, ชมภาพยนตร์ 9 ปีแห่งการพลิกฟื้นวัดเทวราชกุญชรฯ, การแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอนขับเสภา, การแสดงละครในเรื่องอิเหนา, การแสดงหุ่นกระบอกเรื่องรามเกียรติ์ ตอนนางลอย และพลาดไม่ได้กับการแสดงแสงสีเสียงในชุด "รัตนมณี เบิกฟ้า วัดเทวราชกุญชร"
ใครที่ยังไม่มีโปรแกรมเที่ยวที่ไหน เชิญร่วมหวนสู่ความสงบเย็นใจด้วยการไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล ชมความงดงามทางสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมต่างๆ รวมไปถึงสัมผัสวิถีวัฒนธรรม ชมการแสดงมหรสพไทยตระการตาได้ที่งานเทศกาลวัดเทวราชกุญชร 2553 ระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายนนี้