"เล้ง-แสตมป์" ทำใจถูกตราหน้า "พระเอกวายเกรดล่าง" น้อมรับฉายา "คู่จิ้นโอทอป" | คมชัดลึก

จากค่ายเล็กสู่พลัง Soft Power ไทย ผ่านผ้าไทย แฟชั่น และบทบาทพิธีกร “Thailand Soft Power”  จากกระแสแรงของซีรีส์วายพีเรียด “ลอยแก้ว (Loykaew First Love)” ที่กวาดยอดวิวทะลุล้านในเวลาไม่นาน สร้างชื่อให้สองหนุ่มคู่จิ้นแห่งปี เล้ง–ณัฐพล นิลดอนหวาย และ แสตมป์–พรวศิน เรืองนุกูล จนแฟนคลับยกให้เป็น “คู่จิ้นโอทอป” คู่แรกของวงการวายไทย ที่เติบโตจากค่ายเล็กแต่พลังศรัทธาไม่เล็กตาม

 

 

 

 

แม้เส้นทางในวงการจะเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ และเคยถูกมองว่าเป็น “พระเอกซีรีส์วายเกรดล่าง” ไม่มีสังกัดใหญ่หนุนหลัง ถูกปฏิเสธงาน หรือถูกเมินในบางเวที แต่ทั้งคู่กลับไม่เคยย่อท้อ กลับเลือกจะ “เข้าใจ” และ “ใช้คำสบประมาทเป็นพลังบวก” จนวันนี้สามารถยืนหยัดได้ด้วยผลงานจริงและกระแสความนิยมที่ต่อเนื่อง
“เราเข้าใจทุกคนครับ เพราะเรามาจากค่ายเล็ก เคยถูกปฏิเสธให้ร่วมงานหรือถ่ายรูปด้วย แต่เราไม่โกรธ แค่ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด สุดท้ายวันนี้เราพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความตั้งใจและความจริงใจคือสิ่งที่คนดูสัมผัสได้จริง”

 

 

 

ปัจจุบัน “เล้งแสตมป์” ไม่ได้เป็นเพียงคู่จิ้นสายบันเทิงเท่านั้น แต่ยัง ก้าวขึ้นเป็น CEO แบรนด์ “LAMP” เครื่องสำอางผู้ชายคุณภาพมาตรฐานสากล ที่ตั้งใจสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และสื่อสารแนวคิด “ความงามในแบบของตัวเอง” ควบคู่กับความภูมิใจในรากไทย อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่กลายเป็นภาพจำ คือ สไตล์การแต่งตัวของทั้งคู่ ที่มักเลือกใส่ ชุดไทยหรือผ้าไทยร่วมสมัย ในทุกงานที่ออกสื่อ สร้างความโดดเด่นและได้รับคำชื่นชมว่าเป็น “คู่จิ้นสายวัฒนธรรม” ที่เผยแพร่ Soft Power ไทยผ่านแฟชั่นและการแต่งกายได้อย่างสง่างาม 

 

 “Thailand Soft Power” นำเสนอเรื่องราวของคนรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อน Soft Power ไทยในมิติต่าง ๆ ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม การออกแบบ และความคิดสร้างสรรค์ “ทุกครั้งที่เราใส่ผ้าไทย เรารู้สึกภูมิใจมาก เพราะมันคือรากเหง้าและอัตลักษณ์ของเรา อยากให้คนรุ่นใหม่เห็นว่า ความเป็นไทยไม่ใช่ของเก่า แต่เป็นความเท่ในแบบที่ร่วมสมัยได้”  แสตมป์ พรวศิน กล่าวทิ้งท้าย จากวันที่เคยถูกมองข้าม… วันนี้ “เล้งแสตมป์” กลายเป็นสัญลักษณ์ของพลังบวกในวงการบันเทิง ที่ไม่เพียงสร้างความสุขผ่านซีรีส์ แต่ยังใช้ชื่อเสียงของตนเพื่อยกระดับ “Soft Power ไทย” ให้ไปไกลในระดับโลก