
พอเพียงด้วยโครงการเลี้ยงไก่ไข่กับเยาวชน ร.ร.บ้านพรหมนิมิต
เกือบ 2 ปีแล้วที่โรงเรียนบ้านพรหมนิมิต ต.ไทยอุดม อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ดำเนิน "โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน" โดยความร่วมมือระหว่างบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กับมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท
สนับสนุนให้เด็กในโรงเรียนที่ขาดแคลนอาหารกลางวันและประสบกับปัญหาภาวะทุพโภชนาการมีอาหารกลางวันรับประทานและมีรายได้เพื่อใช้ในการพัฒนาโรงเรียนอย่างยั่งยืน และที่สำคัญ ได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมเกษตรร่วมกัน เป็นแนวทางการประกอบอาชีพในอนาคต
"สุปรี เบ้าสิงห์สวย" ผู้จัดการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท บอกว่า วัตถุประสงค์โครงการนี้ เน้นโรงเรียนที่อยู่ในเขตชายแดน โรงเรียนชนบท ที่ขาดแคลนงบประมาณอาหารกลางวันและกำลังประสบปัญหาภาวะทุพโภชนาการ มีสภาพพื้นที่เหมาะสมต่อการสร้างโรงเรือน ซึ่งโรงเรียนบ้านพรหมนิมิต เข้าหลักเกณฑ์ทุกข้อและมีความเข้มแข็งในการทำงานจึงประสบผลสำเร็จได้
โครงการนี้ช่วยให้นักเรียนมีอาหารกลางวันไว้รับประทาน ประสาน พรหมณา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านพรหมนิมิต บอกว่า เจ้าหน้าที่สัตวบาลยังช่วยฝึกทักษะการเลี้ยงไก่ไข่ที่ถูกต้องให้แก่นักเรียน การจัดสรรอาหารกลางวันอย่างถูกหลักโภชนาการ และการขายสินค้าเพื่อให้ได้กำไรอย่างเหมาะสม ตลอดจนสามารถบูรณาการความรู้และประสบการณ์สู่ผู้อื่นได้
"ขณะนี้มีเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์บางรายเข้ามาสอบถามวิธีการเลี้ยงไก่จากโรงเรียนของเรา ซึ่งจะมอบหมายให้นักเรียนเป็นผู้อธิบายวิธีการต่างๆ เพราะต้องการให้เขาภูมิใจในสิ่งที่ได้ทำ" ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านพรหมนิมิต กล่าว
ผลผลิตที่ได้จากการเลี้ยงไก่ไข่นั้น จะแบ่งไว้สำหรับทำอาหารกลางวันและขาย โดยใน 1 สัปดาห์ จะทำอาหารด้วยเมนูไข่ให้นักเรียนรับประทาน 2 วัน 3 วัน ที่เหลือจะเป็นเมนูอื่น โดยใช้วัตถุดิบที่มีในโรงเรียน ประกอบด้วย ผักหลากหลายชนิด ปลา และหมู ผลผลิตที่ได้เกิดจากการนำรายได้ที่ขายไข่ไก่ไปต่อยอดให้เกิดการหมุนเวียนเกิดผลผลิตใหม่ที่ได้ทั้งรายได้และเป็นอาหารกลางวันของนักเรียนได้ด้วย
กวาง หรือ ด.ญ.ธารารัตน์ คล้ายป้อม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านพรหมนิมิต มีหน้าที่รับผิดชอบเลี้ยงไก่ร่วมกับเพื่อนๆ อีก 3 คน ซึ่งเจ็ดโมงเช้าของทุกวัน กวางจะต้องไปให้อาหารแม่ไก่ "โนนนี่" ส่วนเพื่อนอีกคนมีหน้าที่ให้อาหารและเก็บไข่ อีกคนทำความสะอาด และดูแลไก่ป่วยหรือไม่ โดยสลับเวรกันเป็นวันเพื่อรายงานผลให้โรงเรียนรับทราบ
"ทุกวันเข้ามาทำความสะอาดให้โรงเรือนสะอาดอยู่เสมอและจะต้องเปิดวิทยุให้แม่ไก่คุ้นเคย เพื่อที่จะได้ไม่ตกใจเวลาที่ต้องได้ยินเสียงดัง บางครั้งก็เข้ามาพูดคุยกับแม่ไก่ ขอบคุณที่เขาไข่ให้เราได้กินได้ขาย" กวางเล่าด้วยใบหน้าอมยิ้ม
ขณะที่ ชู หรือ ชูเกียรติ ผาสุก หนุ่มน้อยวัยเดียวกัน มีหน้าที่เก็บมูลไก่ไปขายทุกสัปดาห์ เวลาว่าง ชู จะศึกษาวิธีการรักษาโรคในสัตว์ปีกเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่สัตวบาล เพราะตั้งใจไว้ว่าในอนาคตจะทำอาชีพเลี้ยงสัตว์ และนำความรู้ที่ได้ไปบอกต่อผู้ปกครอง ที่เลี้ยงเป็ดและไก่ชน ซึ่งมีวิธีการดูแลในลักษณะคล้ายกัน
ในมุมมองของตัวแทนซีพีเอฟ เกษม วิไลประสงค์ กล่าวว่า โรงเรียนบ้านพรหมนิมิตเป็นสถาบันที่มีความเข้มแข็งในการจัดการบริหารโครงการได้ดี ง่ายต่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืน เพื่อผลักดันให้โรงเรียนเป็นแกนนำเพื่อการขยายผลโครงการสู่โรงเรียนแห่งอื่นอีก 393 แห่ง
แม้โรงเรียนบ้านพรหมนิมิตร จะเป็นโรงเรียนขยายโอกาสขนาดเล็ก แต่มีศักยภาพในการพัฒนาสถาบันให้ยั่งยืนและตั้งอยู่บนพื้นฐานความพอดี ทั้งกาย ใจ ด้วยสติปัญญาและความสามารถที่มีในตัวเอง สมกับปรัชญาโรงเรียนที่ว่า "ปญญาว ธเนน เสยโย" ซึ่งมีหมายว่า ปัญญานั่นแหละประเสริฐกว่าทรัพย์ ถือเป็นตัวอย่างของการพึ่งพาตัวเองด้วยเศรษฐกิจพอเพียงได้เป็นอย่างดี