ไลฟ์สไตล์

โลกใบนี้ดนตรีไทย - วิญญาณปู่

โลกใบนี้ดนตรีไทย - วิญญาณปู่

18 พ.ค. 2553

หลังจากเมื่อฉบับที่แล้วผมได้แต่งกลอนนิราศรถให้แก่ท่านผู้อ่านได้อ่านกันเล่นๆ ก็มีคำถามต่างๆ เข้ามาทาง WWW.KHUN-IN.NET มาหลายคำถาม ซึ่งบางคนก็ผสมคำชมพร้อมคำถามเข้ามา โดยมี คุณกบ ถามว่า การแต่งกลอนกับการแต่งเพลงไทยเดิม อันไหนยากกว่าก

  ซึ่งข้อนี้คือคำถามแรกที่ผมจะตอบ ก็คือ การแต่งกลอนกับการแต่งเพลงไทยเดิมมันยากไปคนละแบบ สุดแต่ว่าใครจะถนัดแบบไหนมากกว่ากัน แต่ทั้งสองอย่างก็จะเหมือนกันตรงที่ต้องใช้จินตนาการและอารมณ์บวกกัน ถึงจะแต่งออกมาได้ดีทั้งสองอย่าง

 คำถามต่อไปจาก คุณอเนก ซึ่งถามเข้ามา 2 ข้อรวด โดยข้อแรกถามว่า ผืนระนาดเอกที่อาจารย์ใช้ตีอยู่ตอนนี้ทำที่ไหนและใครเป็นคนทำและติดต่อได้ที่ไหน คือว่าผืนระนาดเอกที่ผมใช้ประจำอยู่ตอนนี้ ช่างที่เหลาชื่อ คุณลุงสวาท อยู่แถวย่านบางแขม นครปฐม ซึ่งคุณลุงเป็นโต้โผปี่พาทย์ ก็จะเหลาผืนระนาดเอาไว้ใช้เอง ไม่ขายให้ใคร แต่ถ้าสนิทสนมและพอใจใครก็จะให้ฟรี ซึ่งผืนระนาดของคุณลุงสวาททุกผืน จะมีเสียงดังและไพเราะ แถมตีเบามืออีกต่างหาก

 ข้อ 2 คุณอเนกถามว่า ลูกชายจะไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ถ้าจะเอาระนาดไปด้วยควรทำยังไงดี
 ง่ายๆ ก็คือ ไปจ้างช่างมาทำกล่องใส่ แล้วก็โหลดเข้าใต้ท้องเครื่องบิน ส่วนผืนระนาด แนะนำให้ม้วนใส่กระเป๋าหิ้วหรือลากขึ้นบนเครื่อง แต่ในปัจจุบันนี้เขาทำระนาดที่ถอดออกเป็นชิ้นและมีกล่องสำเร็จรูปใส่ พกพาสะดวก ถ้าอยากได้ก็เข้าไปที่ [email protected] <mailto:[email protected]> ผมจะให้เบอร์โทรศัพท์ของร้านไปคุยกันเอง  

 พอเขียนถึงลูกชายของคุณอเนกที่จะไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ก็เลยทำให้ผมนึกถึงโรงเรียนที่เมืองไทย ซึ่งช่วงนี้โรงเรียนในระดับประถมและมัธยมก็เริ่มทยอยเปิด เด็กๆ หลังจากได้พักไป 3 เดือนก็ต้องกลับเข้าไปเรียนตามเดิม ส่วนผู้ปกครองก็ต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ส่วนครูอาจารย์ก็ต้องทำหน้าที่อย่างวุ่นวาย เพราะว่าการเป็นครู ตามที่ผมได้ประสบกับตัวเองก็คือ ช่วงเปิดเทอมใหม่กับช่วงจะปิดเทอมนั้น จะเป็นช่วงที่มีภาระหน้าที่มากที่สุด และก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในทุกๆ ปี แต่ในขณะเดียวกันผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่า โรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานครนั้น จะได้เปิดเรียนตามปกติหรือไม่ เพราะในขณะที่ผมกำลังเขียนต้นฉบับอยู่นั้น ก็มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายและวุ่นวายสุดๆ ซึ่งเกิดจากอะไรผมคิดว่าพวกเราทุกคนก็คงจะรู้ๆ กันอยู่ 

 ซึ่งโดยปกติแล้วตัวผมเองก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องการเมืองเท่าไหร่ แต่เนื่องจากว่าตัวผมเองเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด มันก็เป็นธรรมดาเหมือนคนทั่วไป ก็คือไม่อยากให้บ้านเกิดเมืองนอนกลายเป็นสถานที่ที่หาความสงบสุขไม่ได้ เดี๋ยวก็ตำรวจโดนยิง ทหารระดับเสธ.ก็โดนยิง คนขับแท็กซี่ก็โดนเหมือนกัน และแถมยังไม่รู้อีกว่าใครเป็นคนยิง แต่สรุปแล้วก็คือคนไทยยิงกันเอง และเป็นลักษณะที่เรียกว่าแอบยิง ซึ่งในลักษณะนี้มันจะต่างกับตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งชื่ออะไรผมจำไม่ได้ ที่เมื่อเร็วๆ นี้เขายิงลูกชายของแฟนเขาตาย คือผมไม่ได้บอกว่าการกระทำของเขาเป็นเรื่องดี แต่อย่างน้อยเขาก็แสดงให้เห็นว่ายิงเอง ไม่ได้แอบ ไม่ต้องใช้คนอื่น 

 แต่อะไรก็แล้วแต่ ผมคิดว่า พี่ตำรวจคนนั้นเขาคงลืมไปว่า คนที่เขายิงนั้นมันยังเป็นเด็กอยู่ และความจริงแล้วจะแอบยิงหรือยิงซึ่งๆ หน้ามันก็ไม่ดีทั้งนั้น การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตที่ถือว่ามันเป็นบาปกรรมอย่างหนัก มันไม่ได้อยู่ในความรู้สึกนึกคิดกับคนสมัยนี้บ้างเลยหรือ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ผมคิดถึงสมัยตอนเป็นเด็กอีกครั้ง เมื่อคราวที่เพื่อนผมไปต่อยกับรุ่นพี่ และพวกผมก็จะตามไปลุ้น ซึ่งครั้งนั้นผมคิดว่ามันเป็นการต่อสู้แบบเด็กๆ แต่ก็เป็นไปแบบลูกผู้ชาย ไม่ใช้อาวุธเป็นเครื่องทุ่นแรง ก็เลยคิดว่าทำไมคนสมัยนี้ถึงไม่ใช้วิธีนี้กันบ้างนะ 

 อย่างเช่น พี่มือปืนที่ยิง เสธ.แดง เขาไม่ยิงแต่กลับเดินไปใกล้ๆ แล้วพูดว่า “พี่แดง พี่เจ๋งจริงมาต่อยกับผมตัวต่อตัวไหมล่ะ” ฝ่ายเสธ.แดงบอกว่า “ได้เลยไอ้น้อง” พอสิ้นเสียงเสธ.แดง เจ้ามือปืนก็ปล่อยหมัดซ้ายตรงเข้าใส่ใบหน้าเสธ.แดง แต่เสธ.แดง ด้วยความเป็นนักมวยเก่าก็ก้มหลบ พร้อมใส่หมัดสวิงซ้ายเข้าใส่ เป้าหมายอยู่ที่กกหูด้านขวาของเจ้ามือปืน แต่เจ้ามือปืนก็ไวทายาดยกแขนขวาขึ้นกันพร้อมประเคนแข้งซ้ายเข้าใส่ แต่เสธ.แดง ใช้วิธีสืบเท้าขวาเข้าประชิดตัวพร้อมทั้งปล่อยหมัดซ้ายตรง เข้าบริเวณครึ่งปากครึ่งจมูก จึงทำให้ร่างของเจ้ามือปืน เซถลาไป... เอ้า พอล่ะ เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ คือตอนนี้ผมกำลังเขียนนิยายอยู่ มันก็เลยทำให้เลยเถิดไปหน่อย

 สรุปว่า... คนสมัยนี้เอะอะก็เป็นยิง สงสัยว่ามันจะดูภาพยนตร์ เรื่อง "บางกอก แดนเจอรัส" มากไปหน่อย พอพูดถึงสมัยตอนเป็นเด็ก มันทำให้ผมนึกถึงเพลงปลุกใจเพลงหนึ่ง ซึ่งสมัยก่อนจะชอบเปิดตามสถานีวิทยุอยู่บ่อยมาก แต่ว่าผมจำชื่อเพลงนี้ไม่ได้ แต่ก็จะพอจำเนื้อร้องเพลงได้บ้าง โดยตอนท้ายของท่อนฮุก เขาจะร้องซ้ำ 2 ครั้งติดกันว่า วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจัญไร วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจัญไร  

 เพลงนี้คนแต่งเหมือนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าเลยนะ…ไปก่อนล่ะ สวัสดี

"ขุนอิน"