
"ลองกองอินทรีย์"สวนลุงสุนทรแห่งแรกระยองขาย"พารากอน"
"สวนสุนทร" เป็นสวนผลไม้ของ ลุงสนทร ราชวัฒน์ ผู้ผ่านประสบการณ์ชีวิตและการทำงานตลอด 77 ปี ก่อนลงเอยยึดอาชีพเป็นเกษตรกรแห่ง ต.นาตาขวัญ อ.เมือง จ.ระยอง
โดยเริ่มจากสวนยางพารา ก่อนเปลี่ยนเป็นทำสวนผลไม้หลากชนิดที่ใช้วิถีเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่การันตีปลอดภัยต่อการบริโภค คุณภาพได้มาตรฐาน ส่งให้ "ลองกอง" สุดยอดผลไม้ของสวนเป็นที่ต้องการของห้างดังในเมืองกรุง จนแต่ละปีผลผลิตไม่พอแก่การส่งจำหน่าย
ลุงสนทรเล่าว่า ก่อนมาทำสวนผลไม้นั้น เคยทำสวนยางพาราและกิจการโรงเลื่อยอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี อยู่หลายปี แต่วิกฤติชีวิตที่พลิกผันทำให้ต้องกลับบ้านที่ระยอง พร้อมนำเอากิ่งพันธุ์ผลไม้ เช่น เงาะโรงเรียน ทุเรียนชะนี ทุเรียนหมอนทอง และมังคุด มาปลูกที่สวนซึ่งมีอยู่ 67 ไร่ ต.นาตาขวัญ อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งนั่นเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา
"สวนผลไม้เมื่ออดีตความไม่แน่นอนเรื่องราคามีสูงมาก บางปีก็ดี บางปีก็ไม่ดี ผมก็เลยมาคิดถึงลองกองตันหยงมัสของ จ.นราธิวาส ซึ่งช่วงนั้นเป็นผลไม้ใหม่ โด่งดังมากในจังหวัดชายแดนใต้ เพราะรสชาติหวานอร่อย เปลือกไม่มียาง เมล็ดเล็ก เมื่อเทียบกับลางสาดผลไม้แถวภาคกลางแล้วรสชาติดีกว่ามาก ผมจึงได้เสาะหากิ่งพันธุ์มาปลูก" ลุงสุนทรเล่าถึงจุดเริ่มต้นการปลูกผลไม้ชนิดนี้เมื่อราวปี 2523
ทว่านอกจากเป็นผลไม้ใหม่แล้ว ลุงสุนทรยอมรับว่า ขณะนั้นด้วยราคาที่แพงลิบลิ่วถึงกิโลกรัมละ 200-300 บาท ผลผลิตที่ออกสู่ท้องตลาดมีปริมาณจำกัด ขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคมีสูงมาก เป็นแรงผลักที่ทำให้เขานำมาปลูกที่ ต.นาตาขวัญ เป็นสวนแรก โดยใช้เวลาฟูมฟักถึง 8 ปี จึงให้ผลผลิตไปพร้อมกับไม้ผลชนิดอื่นๆ ปัจจุบันพื้นที่ 67 ไร่ เป็นลองกอง 700 ต้น มังคุด 300 ต้น ทุเรียนทั้งชะนี และหมอนทองอีก 200 ต้น
สวนของลุงสุนทรเมื่อในอดีตก็เหมือนสวนผลไม้ทั่วไป ที่หนักใช้สารเคมี ทำให้ต้นทุนสูง จนวันหนึ่งได้ไปเห็นการสาธิตทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ จึงเป็นจุดเปลี่ยนแนวทางการทำสวนผลไม้ จากค่อยๆ ลดสารเคมีมาใช้อินทรีย์ผสม จนท้ายที่สุดกลายเป็นสวนเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันสถานภาพ "สวนสุนทร" ถือเป็นสวนผลไม้แห่งแรกของ จ.ระยอง ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จากกรมวิชาการเกษตร
"จากเดิมปีหนึ่งๆ สวนใช้เงินค่าปุ๋ยเคมีเกือบ 4 แสนบาท แต่หลังจากปรับมาเป็นระบบอินทรีย์ ลดค่าใช้จ่ายเหลือแค่แสนเศษ เรียกว่าประหยัดต้นทุนได้มาก แถมระบบนิเวศในสวนก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด"
ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดจากการทำเกษตรระบบนี้ ลุงสุนทรบอกว่า นอกจากสิ่งมีชีวิตเช่น ไส้เดือน แมลง หรือแม้กระทั่งคุณภาพของต้นไม้สมบูรณ์ขึ้นแล้ว ไม้ผลอย่างมังคุด ซึ่งปกติเมื่อมีฝนตก มักมีอาการยางไหลส่งผลให้เนื้อในเป็นแก้ว แต่เมื่อใช้ปุ๋ยหมักที่ทำขึ้นเอง กลับไม่ปรากฏว่าเนื้อมังคุดเป็นแก้วเลย หรือมีก็น้อยมาก
"เมื่อปีที่แล้วเฉพาะลองกองที่สวนเก็บได้ 40 ตัน เกือบครึ่งส่งขายที่สยามพารากอน เอ็มโพเรี่ยม และเดอะมอลล์ ราคาขายส่งอยู่ที่ตันละ 8.7 หมื่นบาท หรือกิโลกรัมละ 87 บาท สำหรับปีนี้คาดว่าผลผลิตอยู่ที่ 30 ตันต้นๆ ผลผลิตน้อยกว่าปีที่ผ่านมา อาจเพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนตลาดก็ยังส่งห้างเดิม ราคาเหมาคัดเกรด เอ บี ก็ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว" ลุงสุนทรบอกด้วยความภาคภูมิใจ
นับเป็นอีกหนึ่งสวนผลไม้ที่ยึดวิถีเกษตรอินทรีย์จนประสบความสำเร็จ ทั้งแง่ผลผลิตที่มีคุณภาพ ความปลอดภัยในสุขอนามัยของผู้บริโภค ตลอดจนรักษาสิ่งแวดล้อม ส่วนท่านใดที่อยากลองชิมผลไม้สดๆ หากผ่านไปทางระยอง อย่าลืมแวะที่สวนแห่งนี้ หรือติดต่อที่ 08-6151-4393
ธานี กุลแพทย์