ไลฟ์สไตล์

ไวรัสตับอักเสบ ตัวการก่อ "มะเร็งตับ"

ไวรัสตับอักเสบ ตัวการก่อ "มะเร็งตับ"

10 พ.ค. 2553

ตับเป็นอวัยวะที่อยู่บริเวณใต้ชายโครงขวามี 2 กลีบ ตับอักเสบ (Hepatitis) มักเกิดจากอาการที่พบบ่อย อาทิ ตับบวม อ่อนเพลียจากการทำงานผิดปกติ คลื่นไส้ ดีซ่าน ถ้ามีภาวะตับแข็งอาจพบท้องมาน ขาบวมกดบุ๋ม เส้นเลือดขอดและมีเลือดออกในหลอดอาหาร

 พบโรคนี้ได้ในทุกวัย ทั้งภาวะตับอักเสบเฉียบพลันและเรื้อรัง นอกจากนี้ภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ยังอาจนำไปสู่ภาวะตับแข็ง และมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ตับวาย และมะเร็งตับได้
 สาเหตุ พบบ่อยคือ การติดเชื้อไวรัส นอกจากนี้ยังเกิดจากพิษสุรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อโปรโตซัว เลปโตสไปโรซิส พยาธิ ยาบางชนิด และผู้ป่วยหากได้ acetaminophen (พาราเซตามอล) ในขนาดสูงมากก็สามารถทำให้ตับถูกทำลายได้ และสารเคมี ฯลฯ โรคตับอักเสบที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส มีหลายชนิด เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ชนิดบี ชนิดซี ชนิดดี ชนิดอี เป็นต้น โดยชนิดที่อาจมีผลรุนแรงในระยะยาว คือ ไวรัสตับอักเสบบี และซี
 อาการ กรณีตับอักเสบเฉียบพลัน ตับจะบวมโต ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บแน่นบริเวณตับ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เหนื่อยง่าย บางรายมีไข้ต่ำๆ คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายตัวเหลือง ตาเหลือง
 1.ไวรัสตับอักเสบเอ ทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งในผู้ใหญ่อาการมักจะรุนแรงกว่าในเด็ก ติดต่อกันได้จากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อไวรัสเข้าไป
 การป้องกัน คือ รักษาอนามัยส่วนบุคคลให้ดี การฉีดวัคซีน
 2.ไวรัสตับอักเสบบี ผู้ป่วยอาจมีอาการอ่อนเพลียไม่มีแรง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ต่ำๆ ตาเหลือง ตัวเหลือง หรือที่เรียกว่า “ดีซ่าน” ปัสสาวะมีสีเข้ม ความร้ายแรงของโรคไวรัสตับอักเสบบี คือ ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นต่อไปได้ เรียกว่าเป็น “พาหะ” นอกจากนี้ ผู้เป็นพาหะมีโอกาสเกิดโรคเป็นมะเร็งตับสูงกว่าคนปกติ โดยเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งตับถึง 80% ของผู้ป่วยทั้งหมด โอกาสการเกิดโรคมะเร็งจะมีมากหากผู้ป่วยติดเชื้อชนิดนี้ตั้งแต่วัยเด็ก เช่น ติดมาจากมารดาขณะแรกเกิด เป็นต้น
 การติดต่อของโรคไวรัสตับอักเสบบี การรับถ่ายเลือด การใช้เข็มฉีดยาที่มีเชื้อปนเปื้อน การเจาะหู การสัก การทำฟันที่ใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้ที่มีเชื้อไวรัส การใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน การร่วมเพศ การสัมผัสกับเลือด น้ำเลือด น้ำคัดหลั่ง ผ่านเข้าทางบาดแผลโดยไม่รู้ตัว การถ่ายทอดเชื้อมาจากมารดาที่เป็นพาหะ หรือระหว่างอยู่ในครรภ์ หรือระหว่างคลอด
 การป้องกัน วิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพคือ การฉีดวัคซีนป้องกัน 
 3.เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซี (HCV) เป็นสาเหตุที่สำคัญของโรคตับอักเสบเรื้อรัง มักไม่มีอาการของตับอักเสบเฉียบพลัน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายหลังการได้รับเลือดหรือผลิตภัณฑ์จากเลือด การใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นเลือด การสักแบบฝังเข็ม การเจาะหูโดยการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด 
 การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซี พบในประชากรทั่วไปประมาณร้อยละ 2 ส่วนการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และจากแม่ไปลูกพบน้อย ระยะฟักตัวของเชื้อนี้ ประมาณ 15-160 วัน เฉลี่ย 2 เดือน ส่วนใหญ่ทำให้เกิดโรคตับอักเสบเรื้อรัง และเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับได้เช่นเดียวกับไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBV) ยังไม่มีวัคซีนสำหรับไวรัสชนิดนี้
ศูนย์โรคทางเดินอาหารและตับกรุงเทพ
โรงพยาบาลบกรุงเทพ โทร.1719