
ฟ้องไล่ที่
ดิฉันมีปัญหาเรื่องบ้านค่ะ คือว่ามีบ้านและที่ดินอยู่ 4 ไร่ อยู่ที่ต่างจังหวัดค่ะ แต่ตัวดิฉันเองไม่ได้อาศัยอยู่ เพราะเป็นสมบัติที่แม่ทิ้งไว้ให้ เห็นว่าไม่ได้ทำประโยชน์อะไร เมื่ออามาขอเพื่ออาศัยอยู่ โดยการขอปลูกบ้าน
ซึ่งขณะนั้นดิฉันก็เห็นว่าอามีปัญหา ก็เลยให้ปลูกบ้านในที่ดินของดิฉันได้ แล้วหลังจากนั้นอาก็เริ่มปลูกผลไม้ จนกลายเป็นสวน รวมเวลาที่อยู่อาศัยมาก็ประมาณเกือบ 10 ปีค่ะ
แต่ขณะนี้ดิฉันมีความจำเป็นต้องขายที่แปลงนั้น และเป็นช่วงจังหวะที่มีคนมาติดต่อขอซื้อพอดี ก็เลยกลับไปบอกกับอาว่าให้อาทางขยับขยาย เพราะดิฉันจะขายที่ดินผืนนั้นแล้ว ปรากฏว่า อาสะใภ้ บอกว่าไม่ยอมออก เพราะลงทุนกับสวน และการปลูกบ้านไปมากแล้ว ดังนั้น ถ้าจะให้ออกดิฉันต้องจ่ายค่ารื้อถอนให้
ดิฉันก็รู้สึกแปลกใจว่า เขามีสิทธิเรียกร้องอย่างนี้ได้เหรอคะ เพราะที่ดินเป็นของดิฉัน แล้วก็ให้อยู่เพราะเห็นว่าเดือดร้อน แต่พอจะเอาคืนทำไมเขาไม่ยอมออกไป ถ้าเขาไม่ยอมออกไปจริงๆ แล้วดิฉันไม่จ่ายเงินให้ จะทำอย่างไรได้บ้างคะ
ราตรี
ตอบ
ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชนอาจารย์ปราชญา อ่อนนาค คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำว่า เรื่องนี้ต้องกลับไปดูตั้งแต่เริ่มแรกที่คุณให้อาเข้าไปอยู่ ได้มีการทำสัญญาเช่า มีการทำหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรไว้หรือเปล่า เพราะถ้ามีสัญญาพวกนี้คุณก็ต้องให้อยู่จนครบกำหนดที่ให้เช่า หรือให้อาศัยอยู่ และยังพ่วงไปถึงเรื่องของการปลูกสร้าง หรือทำสวนด้วย เพราะ ถ้ามีสัญญาตัวนี้อยู่ก็จะมีกฎหมายออกมารองรับในเรื่องการให้เช่าทำสวน ซึ้งตรงนี้คุณต้องจ่ายค่าเสียหาย หากจะให้อาออกจากพื้นที่โดยที่ยังไม่ครบกำหนดสัญญา
แต่ถ้าไม่ได้มีการทำสัญญาอะไรเลย เป็นการให้อยู่อาศัยเพราะเป็นญาติกัน กรณีอย่างนี้ ก็สามารถบอกให้ออกได้เลย ส่วนเรื่องค่าเสียหาย หรือค่ารื้อถอนนั้นไม่ได้มีผลทางกฎหมายรองรับ แต่เป็นเรื่องของความเห็นใจกัน เพราะถ้ามีการให้เงินเพื่อเป็นการรื้อถอน ซึ่งเป็นการเจรจาตกลงกันได้ ก็จะง่ายกว่าการที่ต้องไปฟ้องร้องเพื่อขับไล่ให้อาออกไปจากที่ดินของคุณ
เนื่องจากถ้าตกลงกันไม่ได้ แล้วอาก็ไม่ยอมออกไปจากที่ดินของคุณ คุณก็ต้งฟ้องขับไล่ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้นการเจรจากันและอาจจะช่วยค่ารื้อถอนบ้าง ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าไปฟ้องร้องกันเอง
ลุงแจ่ม