ไลฟ์สไตล์

มองนอกดูใน  - พลังภาพ...พลังศรัทธา...พลังเด็ก...พลังธรรมะ

มองนอกดูใน - พลังภาพ...พลังศรัทธา...พลังเด็ก...พลังธรรมะ

18 มี.ค. 2552

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เสถียรธรรมสถานเปิดบ้านต้อนรับผู้คนมากมายหลายวัย ด้วยว่าในวันเสาร์ได้จัดให้มี นิทรรศการภาพ ‘กรุณาแห่งหัวใจ’

  คุณสมคิด ชัยจิตวนิช ตากล้องมือโปรได้เปิดคอร์สถ่ายทอดหลักการถ่ายภาพขั้นพื้นฐานด้วยกล้องดิจิทัล  ให้แก่เด็กๆ ที่มีอายุระหว่าง 7-15 ปี ด้วยการพาเด็กๆ ท่องโลกธรรมชาติ...ถ่ายภาพสวยผ่านเลนส์ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากเด็กๆ มากมาย

 เมื่อถึงภาคบ่าย ก็เป็นช่วงของการร่วมสัมผัสพลังอานุภาพแห่งภาพถ่าย ในงานแถลงข่าว ‘พลังภาพ...พลังศรัทธา’ ซึ่งเป็นการรวมตัวของมืออาชีพ ผู้ชำนาญการถ่ายภาพมาถ่ายทอดเรื่องราว ประสบการณ์ ทัศนะ มุมมอง และการสื่อสารด้วยภาพอย่างไรที่ก่อให้เกิดพลังศรัทธา ไม่ว่าจะเป็น คุณจำลอง บุญสอง บรรณาธิการท่องเที่ยว จากหนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์ คุณทวีชัย เจาวัฒนา บรรณาธิการภาพในเครือเดอะ เนชั่น คุณอนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง 1 ใน 200 ช่างภาพที่ดีที่สุด โดยนิตยสาร Archives  และหนึ่งในช่างภาพที่ร่วมบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ งานฉลองสิริราชสมบัติพระบาทสมเด็จพระอยู่หัวครบ 60 ปี  คุณสมคิด ชัยจิตวนิช ช่างภาพอิสระ ผู้บันทึกภาพสวยผ่านเลนส์ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รศ.ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์  รองคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี "คุณอุ้ม" สิริยากร พุกกะเวส ให้เกียรติเป็นผู้ดำเนินการสนทนา

 และนี่...คือทัศนะที่เก็บเกี่ยวจากวงสนทนาของงานในวันนั้น

 “สิ่งที่เราเห็นมีทั้งสวย มีทั้งงาม มีทั้งไม่สวย และมีทั้งไม่งาม  แต่ทั้งหมดมันเป็นธรรมชาติที่ถ่ายทอดผ่านหนังสือ หรือผ่านกล้อง จริงๆ แล้วก็ยังไม่ใช่ของจริง ของจริงต้องไปย่อยมันอีก  ถ้าเรามองไม่เห็นข้างใน  มองไม่เห็นความเป็นธรรมชาติ มองไม่เห็นความเป็นธรรมะ ถ้าเราไปติดภาพ  ติดพลัง พลังก็มีทั้งทางบวกและลบ ติดความสวยงามจนเรามองไม่เห็นมัน เราไม่ได้เอาไปย่อย เราก็ไปยึดติดมัน เต๋าบอกว่าหนังสือเป็นอุปสรรคของการนิพพาน ดังนั้น รูปก็เป็นอุปสรรคของการนิพพานเหมือนกัน เราจึงต้องมองให้ทะลุไปถึงเบื้องหลังของภาพ” คุณจำลอง บุญสอง

 “ภาพที่เป็นแรงบันดาลใจของเรามักอยู่ใกล้ตัวเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นคนไกล อาจเป็นพ่อแม่ก็ได้ เป็นคนที่เราศรัทธาก็ได้ วันหนึ่งพอเรามีลูก เราก็เริ่มรู้ว่า มันอยู่ใกล้ตัวเรา พอเราเห็นมือเขา เราเห็นรอยยิ้มเขา มันสร้างแรงบันดาลใจได้หมดเลย บางครั้งเราศรัทธาในความบริสุทธิ์ ไม่มีแรงต้าน ไม่มีลบ พอเราเข้าใจเรื่องนี้มันสนุก มันทำให้เวลาเราเจออะไร แพ้อะไรทางโลก แค่เห็นรอยยิ้มที่เรากดชัตเตอร์ มันก็ทำให้เราลุกขึ้นมาเดินใหม่ได้ การหยิบสิ่งใกล้ตัวโดยเอาเรื่องราวเสถียรธรรมสถาน ไม่ว่าจะเป็นรอยม้วนตัวของใบไม้ จังหวะน้ำที่ตกลงมา แล้วค่อยขยายออกไป ผมชอบรูปที่เริ่มจากสิ่งใกล้ตัวแล้วค่อยขยายออกไป ตรงนี้ถือว่าเป็นการสร้างพลังแรงศรัทธา ซึ่งดูจากหนังสือถือว่าเยี่ยมยอด” คุณทวีชัย เจาวัฒนา 

 “ได้แรงจูงใจจากความจริงปรากฏ เป็นวัฏสงสารที่มนุษย์เวียนว่ายตายเกิดและมีเรื่องราวหลากหลาย บางทีตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราเกิดเป็นมนุษย์คนหนึ่งเราทำหน้าที่เป็นช่างภาพเราจะบันทึกอะไรดี  บันทึกแล้วรูปภาพเหล่านั้นนอกจากได้ความสวยงามแล้วก่อให้เกิดประโยชน์กับใครอีกบ้าง  สิ่งหนึ่งคือความจริงปรากฏและทำให้เรารู้ว่าโลกนี้มันมีอะไรอีกเยอะ” คุณอนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง

 “ในสมัยก่อนอาจใช้เทคนิคที่แพรวพราว แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจว่า ภาพถ่ายที่มีพลังไม่ได้อาศัยเทคนิค แต่อาศัยความสามารถในการมอง ภาพถ่ายที่มีพลังจะดูสงบ อุปกรณ์ต่างๆเป็นแค่เครื่องมือ การถ่ายภาพในระยะหลังจึงเรียบง่ายมากขึ้น  เราถ่ายในสิ่งที่เราเห็น เทคนิคในการถ่ายภาพก็ธรรมดา” คุณสมคิด ชัยจิตวนิช

 “ความจริงธรรมคือธรรมชาติ ศิลปะกับธรรมะต้องอยู่ด้วยกัน เพราะในแต่ละรูปมันจะมีมุม หลายรูปที่มองว่าสวย เขาอาจบอกว่าเขาไม่เคยเห็น แต่มันคือธรรมะ ถ้าเรามองอะไรโดยที่ไม่ดูรายละเอียด หรือถ้ามองในรายละเอียดแต่ไม่คิดบวก เราจะไม่เห็นความงดงามในนั้น บางครั้งเป็นอะไรที่ดูธรรมดามาก อาจเป็นมุมที่เล็กมากในสิ่งที่ใหญ่มาก แต่เวลาถ่ายออกมาแล้วมันงดงาม นี่ย่อมบอกว่าความสุขหรือความทุกข์อยู่ที่ใจมนุษย์คิด ความงดงามหรือไม่งามก็อยู่ที่ใจมนุษย์คิด มันเป็นภาพสะท้อนธรรมะที่ดีมาก นี่คือหนังสือเล่มนี้”  พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์

 “ณ วันนี้โลกใหม่ๆ เป็นโลกแห่งดิจิทัล เราไม่จำเป็นต้องมีกล้องถ่ายภาพก็ถ่ายภาพได้จากโทรศัพท์มือถือ ในเทคโนโลยีที่ดีที่สุด มันมีความจุของมัน หน่วยความจำอาจเต็ม เราต้องรู้จักตัด รู้จักวาง รู้จักเลือกที่จะทิ้งบางอย่างที่ไม่จำเป็น ตัดเรื่องที่ไม่ได้สร้างความประทับใจออกไป  และจะมีบางครั้งที่เราไม่ได้ตั้งใจลบภาพนั้นทิ้ง กล้องหาย หรือมือพลาดไปลบภาพทิ้ง  ทำให้ภาพที่เราชอบนั้นหายไป นั่นหมายความว่า เราต้องฝึกการตัดใจ ฝึกปล่อยวาง ไม่ต้องไปฝึกตัดใจจากที่ไหน ฝึกจากกล้อง จากมือถือที่ถ่ายได้ ว่าทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุกอย่างไม่เที่ยง มันสามารถหายได้และเราสามารถถ่ายมันใหม่ได้ มันอาจจะไม่เหมือนเดิม แต่ขอให้ระลึกไว้ว่า ภาพที่งดงามที่สุดคือภาพในความทรงจำของเรา  และภาพนั้นมันจะบันทึกอยู่ภายในใจเราตลอดไป หากเรานึกถึงภาพที่เราชอบอย่างน้อยวันละครั้ง ก็จะให้แรงบันดาลใจในชีวิตเราได้” รศ.ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์  

"ธรรมสวัสดี"


ขอเชิญเข้าร่วมอบรม ‘ธรรมชาติบำบัด...เพื่อชีวิตเป็นสุข’ ระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคม 2525 ณ เสถียรธรรมสถาน
รับสมัครถึงวันที่ 22 มีนาคมนี้ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.08-0288-4931, 0-2509-0085 หรือ www.sdsweb.org