7ผช.เจ้าอาวาสวัดโสธรยังไม่ได้รับหนังสือสั่งปลด | คมชัดลึก

 วันที่ 20 เม.ย.53 เวลา 18.30 น. พระครูโสภณสรกิจ หนึ่งใน 7 ของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ที่เตรียมถูกสั่งพักตำแหน่ง ตามลิขิต ที่ จญ.อ.27/2553 ลงวันที่ 9 เมษายน 2553 ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กล่าวว่า ยังไม่ได้รับทราบข่าวถึงเรื่องดังกล่าว แต่ที่ผ่านมาได้เคยถูกตั้งคณะกรรมการสอบมาตั้งแต่ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.52 แล้ว และได้มีการเรียกคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้งหมด ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรม ในการแต่งแต่งเจ้าอาวาสวัดโสธร รูปใหม่ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทั้ง 7 รูป ไปทำการสอบสวนเป็นรายตัวบุคคล ยังที่วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ (วัดเมือง)

 ซึ่งประกอบด้วย เจ้าคุณปริยัติกิจวิธาน พระครูภาวนากิจพิลาส พระครูโสภณสรกิจ พระครูปริยัติปัญญาธร พระครูศรีปริยัติวิมล พระครูปลัดสันติภัทร พระมหาปรีชา เตชวณฺโณ เมื่อวันที่ 2-3 เม.ย.53 ที่ผ่านมา โดยที่คณะกรรมการสอบสวนที่มาสอบสวนส่วนใหญ่นั้น ถูกแต่งตั้งโดยเจ้าคณะภาค 12 มาจากในกรุงเทพฯ เกือบทั้งหมด

 นอกจากนี้ที่ผ่านมา พระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เคยสั่งพักงาน เจ้าคุณปริยัติกิจวิธาน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ในตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ไปก่อนหน้าแล้ว ตั้งแต่เมื่อ วันที่ 27 ม.ค.53 ระหว่างที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยที่ได้ให้ พระมหามาโนช หรือ พระครูปริยัติธรรมกิจ เจ้าคณะอำเภอท่าตะเกียบ ซึ่งเป็นพระเลขาคนสนิท ของเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาการณ์เจ้าคณะอำเภอเมืองแทน

 การสั่งพักงาน หรือสั่งปลดคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ในครั้งนี้ เชื่อว่า มีการตั้งธงไว้ก่อนการสอบสวนแล้ว เพราะทราบจากคณะกรรมการสอบสวนบางท่าน ว่า เจ้าคณะภาค 12 ต้องการสั่งปลด คณะผู้ช่วยที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแต่งตั้งเจ้าอาวาสทั้งหมด 7 รูป ตามที่ พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ หรือพระราชมงคลรังสี เจ้าอาวาสวัดโสธรรูปปัจจุบัน เสนอไป ส่วนอีก 4 รูปนั้น ในระหว่างการเคลื่อนไหวต่อสู้ของพระสงฆ์ภายในวัดนั้น ได้เปลี่ยนใจกลับไปเป็นฝ่ายสนับสนุน ให้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสจากคนนอก จึงได้รอดพ้นการถูกกล่าวโทษไปในครั้งนี้

 ประกอบด้วยพระครูสุนทรกิจประยุต ผู้ดูแลเกี่ยวกับโรงเจ เจ้าคุณพระพิมลภาวนาพิธาน และ พระครูสิทธิวรารักษ์ ดูแลพระอุโบสถหลังใหม่ ส่วน พระครูโสภิตวรกิจพิพัฒน์ ดูแลโบสถ์ชั่วคราวหลังเก่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับแหล่งผลประโยชน์ และรายได้ของทางวัดทั้งสิ้น

 ขณะที่พระที่ออกมาร่วมกันเคลื่อนไหวต่อสู้นั้น ส่วนใหญ่เป็นพระครูที่ทำการสอนอยู่แต่ภายในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องรายได้ และผลประโยชน์ ของทางวัดแต่อย่างใด

 "นอกจากนี้ ที่ผ่านมานั้น คณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้ง 7 รูป ยังได้ถูก พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ หรือพระราชมงคลรังสี เจ้าอาวาสวัดโสธรรูปปัจจุบัน กดบีบเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่าย และตัดงบประมาณต่างๆ โดยไม่ให้การสนับสนุนต่อกิจกรรมภายในโรงเรียนพระปริยัติธรรม เกือบทั้งหมด "พระครูโสภณสรกิจ  กล่าว

 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมาหลังการเคลื่อนไหว ต่อต้านการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรรูปใหม่ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมานั้น ได้มีพระสงฆ์ ซึ่งเป็นครูผู้สอนสามเณร ภายในโรงเรียนพระปริยัตธรรม ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ได้ร่วมออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนั้น ได้ลาสิกขา สึกออกไปแล้ว 1 รูป คือ พระมหาปิยะบุตร ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเพราะความอึดอัดใจ ในระบบของกระบวนการปกครอง ในคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ที่ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อพระลูกวัด ชั้นผู้น้อย จึงได้ลาสิกขาออกไปในที่สุด