
"ดร.แคทลีน มาลีนนท์" เลือกใกล้ชิดเพื่อตามทันความคิด "น้องเบรธ"
หากนึกถึงตัวละครในวรรณคดีไทยอันเลื่องชื่อ หลายคนคงจินตนาการรูปร่างหน้าตาผ่านตัวอักษรที่ถูกบันทึกไว้ในวรรณกรรมอันทรงคุณค่าของไทย แน่นอนว่าเด็กไทยทุกคนหากเปิดตำราภาษาไทยย่อมรู้จักตัวละครเหล่านี้เป็นอย่างดี ในขณะที่เด็กไทยที่เรียนโรงเรียนนานาชาติกลับไม่เป
เมื่อรู้ว่าช่วงปิดเทอมนี้ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ได้ฤกษ์เปิดม่านโลกใต้น้ำที่ปลุกจินตนาการสัตว์น้ำในวรรณคดีไทยให้ออกมาโลดแล่นกันอย่างสนุกสนาน คุณแม่แคทลีนเลยไม่รอช้า รีบจูงมือน้องเบรธมาเรียนลูกโลกแห่งจินตนาการนี้ทันที
"ปกติจะเล่านิทานให้เขาฟังเป็นประจำอยู่แล้ว แต่นิทานส่วนมากจะเป็นนิทานฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ อย่างเรื่อง แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ หนูน้อยหมวกแดง ลูกหมู 3 ตัว ซึ่งเขาก็ชอบให้เล่าว่าแต่ละตัวเป็นยังไง น้องเบรธจะคุ้นเคยกับนิทานเหล่านี้มากเพราะเล่าให้เขาฟังบ่อยๆ แต่การ์ตูนของไทยอย่างพวกสัตว์ในวรรณคดีจะไม่รู้จัก เพราะเขาเรียนโรงเรียนนานาชาติซึ่งไม่ได้มีสอนตรงนี้ แต่ตอนนี้ก็เริ่มที่จะให้เขาเรียนภาษาไทยเสริมบ้างแล้ว อยากจะให้เขาคุ้นเคยกับอักษร ก-ฮ เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นคนไทยคนหนึ่งควรจะรู้จักภาษาไทย ว่าเขียนยังไง ออกเสียงยังไง ตอนนี้เขาก็พอจำได้ครึ่งหนึ่งแล้ว" คุณแม่แคตตี้คนสวยเกริ่นนำ
ด้วยความชื่นชอบสัตว์นานาชนิด โลกใต้น้ำแห่งนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น้องเบรธชื่นชอบ ทำให้ความถี่ของการมาที่นี่อยู่ที่ 2 เดือนครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่น้องเบรธมาจะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง ยิ่งรู้ว่าช่วงนี้มีการแสดงใต้น้ำของสัตว์ในวรรณคดีไทยอย่าง ศฤงคมัสยา มัจฉานุ และ กุญชรวารี น้องเบรธจึงรีบวิ่งเข้าไปจับจองพื้นที่แถวหน้าสุดของ โอเชี่ยน เธียเตอร์ ทันที ทำเอาคุณแม่แคทลีนต้องรีบเดินตามลูกชายไปติดๆ
ระหว่างโชว์ทั้งสองดูจะสนอกสนใจกับการแสดงตรงหน้าเป็นอย่างมาก ขณะที่คุณแม่แคทลีนคอยอธิบายสิ่งต่างๆ ตามที่ลูกสงสัย การแสดงสิ้นสุดลงก็มุ่งหน้าไปยังบริเวณ ร็อกกี้ โชร์ (Rocky shore) เพื่อชมการแสดงสุดสาครปราบม้านิลมังกร ระหว่างเดินผู้บริหารสาวแห่งค่ายบีอีซี เทโร ก็หันมาคุยว่า
"น้องเบรธตั้งใจดูการแสดงมาก เพราะเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เขาสามารถแยกแยะได้ว่านี่ไม่ใช่ของจริง อธิบายให้เขาฟังในส่วนที่เขาสงสัยโดยเฉพาะศัพท์ภาษาไทยที่ยากๆ อย่างพาเขามาดูโชว์ครั้งนี้ เพราะอยากให้เขาเห็นอะไรหลายอย่างที่โรงเรียนไม่มี น้องเบรธชอบสัตว์มากเลยพยายามพาเขาไปสวนสัตว์เพื่อให้เขาได้เห็นของจริงว่าเป็นยังไง อย่างมาที่นี่เขาจะชอบปลาฉลามเพราะเขาเคยดูการ์ตูนเรื่อง ชาร์คเทล หรือปลากระเบน เขาจะรู้ว่าปลาชนิดนี้ทำให้ สตีฟ เออร์วิน (ครอกโคดายล์ ฮันเตอร์) ตาย" คุณแม่เล่าจบน้องเบรธก็รีบวิ่งไปบริเวณระบายสี เพื่อละเลงสีบนหน้ากากสัตว์น้ำในวรรณคดี ฝ่ายคุณแม่ที่พอเห็นลูกชายหยุดนิ่งกับกิจกรรมตรงหน้า จึงหันมาเล่าว่า
"ครอบครัวเราชอบไปเที่ยวกันช่วงสุดสัปดาห์ ก่อนจะไปจะวางแผนเอาไว้ว่าวันหนึ่งจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง ส่วนมากคุณแมทธิวจะเป็นคนจัดโปรแกรมแล้วก็พยายามทำตาม แต่ ไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหนจะสอนให้เขาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอด เพราะบางอย่างไม่มีในห้องเรียน กลับบ้านจะมาคุยกันว่าวันนี้สนุกหรือเปล่า ได้เรียนรู้อะไรบ้าง ทำไมถึงชอบ เขาจะบอกเราได้ว่าอะไรเป็นอะไร ชอบหรือไม่ชอบ ถือเป็นการพัฒนาการอย่างหนึ่งของเขาด้วยเหมือนกัน
ส่วนตัวจะให้ลูกเรียนรู้ทุกอย่างไม่ปิดกั้น ถ้าเขาอยากจะเล่นอะไรหรือทำอะไร อย่างเวลาเขาดูโทรทัศน์หรืออินเทอร์เน็ต เราจะเป็นคนคอยแนะนำและเปิดให้เขา หรือถ้าเราไม่อยากจะให้เขาทำอะไร ก็พยายามหากิจกรรมอย่างอื่นให้เขาทำ อย่างเล่นกีฬา พอเขาเล่นจนเหนื่อยเวลาที่จะทำอย่างอื่นก็เหลือน้อยลง
เด็กสมัยนี้ต่างจากเด็กสมัยก่อนมาก เด็กสมัยใหม่จะเป็นคนที่มีจินตนาการสูง มีความเป็นตัวของตัวเอง ดังนั้น การจะสอนเขาต้องมีทั้งตึงและหย่อน ต้องคอยสังเกตเขาตลอดเวลาว่าชอบอะไร กำลังทำอะไร ตอนนี้สนใจอะไร ตรงนี้จะทำให้เราตามความคิดของเขาทันและง่ายต่อการควบคุม ต้องบอกว่าโชคดีที่น้องเบรธคุยกับคุณแม่ เราใกล้ชิดกันมากเพราะนอกเหนือจากเวลางาน ก็จะเป็นเวลาของเขาทั้งหมด" คุณแม่แคทลีนกล่าวปิดท้าย ก่อนจะลงไปละเลงสีบนหน้ากากพร้อมกับลูกชายคนเก่งอย่างสนุกสนาน