ไลฟ์สไตล์

ก้าวสู่ปีที่26ม.รังสิตชูปั้นรากแก้วให้แผ่นดิน

ก้าวสู่ปีที่26ม.รังสิตชูปั้นรากแก้วให้แผ่นดิน

05 เม.ย. 2553

"ปีนี้มหาวิทยาลัยรังสิตครบรอบ 25 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ 26 ยังเป้าหมายตามปณิธานที่ตั้งไว้คือ การสร้างชาติด้วยการสร้างศึกษาเพื่อสร้างปัญญาให้ชาติ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยจะเติบใหญ่ไปเป็นรากแก้วของชาติ ถ้ารากแก้วมีความเข้มแข็ง

ประเทศชาติก็จะดีและเข้มแข็งอย่างแน่นอน และที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ปีนี้อาคารที่มหาวิทยาลัยสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 50 พรรษานั้นก่อสร้างเสร็จแล้ว และได้รับพระกรุณาธิคุณพระราชทานชื่ออาคารว่า "รัตนคุณากร" พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดอาคารนี้ในวันที่ 23  มิถุนายนนี้" ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ประกาศถึงปณิธานของมหาวิทยาลัยในโอกาสครบรอบ 25 ปี

 ดร.อาทิตย์ แจกแจงอีกว่า ในการเข้าสู่ปีที่ 26 มหาวิทยาลัยรังสิตยังเน้นจัดการศึกษาในสาขาแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น เภสัช แพทย์แผนตะวันออก รวมทั้งสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) ภาพยนตร์และดิจิทัล การออกแบบแฟชั่นดีไซน์ เนื่องจากเป็นจุดแข็งของมหาวิทยาลัยและประเทศไทยและต่างประเทศมีความต้องการบุคลากรในสาขาเหล่านี้อย่างมาก และเพื่อให้บัณฑิตของมหาวิทยาลัยรังสิตสามารถออกไปทำงานได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นมหาวิทยาลัยได้มุ่งพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้แก่นักศึกษา โดยค่อยๆ พัฒนา "หลักสูตรทุกสาขาให้เป็นหลักสูตรสองภาษา" แต่ละปีจะเพิ่มเนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษเข้าไปปีละ 10% 

 ขณะเดียวกันปีนี้ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ร่วมกับคณะเฮลท์แคร์ แอนด์ โซเชียล เวลแฟร์ มหาวิทยาลัยมาลาดาเลน Maladalen (MDU) ประเทศสวีเดน เปิด "หลักสูตรพยาบาลนานาชาติ" ขึ้น เพราะขณะนี้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังขาดแคลนพยาบาลเช่น สหรัฐอเมริกา เฉพาะมลรัฐแคลิฟอร์เนียรัฐเดียวขาดแคลนพยาบาลถึง 2.4 หมื่นคน โดยในปีการศึกษา 2553 รับนักศึกษารุ่นแรก 50 คน เปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ รับผู้จบ ม.ปลายสายวิทยาศาสตร์ มีทักษะภาษาอังกฤษดี เรียนในไทยในชั้นปีที่ 1-3 และชั้นปีที่ 4 ไปเรียนที่สวีเดน หลังเรียนจบจะได้รับปริญญา Bacherlor of Nursing Science จากมหาวิทยาลัยรังสิต และ Bacherlor of Nursing Science in Caring Science จากมหาวิทยาลัย Maladalen และขอสอบขึ้นทะเบียนประกอบวิชาชีพได้ทั้งในและต่างประเทศ

  อีกทั้งมหาวิทยาลัยได้มุ่งพัฒนาสาขานิเทศศาสตร์ โดยใช้งบประมาณ 600 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารดิจิทัล มัลติมีเดีย คอมเพล็กซ์ ของคณะนิเทศศาสตร์ ขณะนี้ก่อสร้างไปแล้วกว่า 90% คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้เปิดใช้ได้ ซึ่งภายในอาคารมีห้องปฏิบัติการต่างๆ เช่น สตูดิโอผลิตรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ห้องบันทึกและผสมเสียงระบบดิจิทัล 5 ห้อง ห้องตัดต่อลำดับภาพระบบดิจิทัล 17 ห้อง โรงภาพยนตร์ขนาด 250 ที่นั่ง 1 โรง ห้องปฏิบัติการถ่ายภาพ 2 ห้อง ฯลฯ

 นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้ง "คณะดิจิทัล อาร์ต" และแยกสาขาวิชาคอมพิวเตอร์อาร์ตออกมาจากคณะศิลปะและการออกแบบให้อยู่ภายใต้คณะดิจิทัล อาร์ต เน้นการเรียนการสอนเพื่อสร้างแอนิเมชั่นทั้ง 2D และ 3D ขึ้นมา เพื่อผลิตบุคลากรให้แก่อุตสาหกรรมภาพยนตร์และแอนิเมชั่นที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก คณะนี้เริ่มเปิดสอนในปีการศึกษา 2553 เกี่ยวกับ 2D, 3Dและแอนิเมชั่น ส่วนหลักสูตรปี 2554 จะเปิดสาชาวิชาเพิ่มเติม 2 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชา Visual Effect  และสาขาวิชา Digital IIIustration ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ใช้งบประมาณ 10  ล้านบาท จัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ Mclntosh และเครื่อง Motion Capture เพื่อใช้ในงานประเภท 3D และแอนิเมชั่น

 "มหาวิทยาลัยได้ขยายโอกาสทางการศึกษาด้วยการร่วมมือกับธนาคารไทยเครดิตให้นักศึกษากู้เงินค่าเล่าเรียนและหอพักตลอดหลักสูตร หากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันกู้ได้ 5 แสนบาท แต่ถ้ามีหลักทรัพย์ค้ำกู้ได้ถึง 3 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยอัตราต่ำ เปิดให้ยื่นกู้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2553 มีเงื่อนไขแต่ละเทอมเรียนได้เกรดเฉลี่ย 2.6 ขึ้นไป หลังจบใช้เงินกู้คืนภายใน 3 ปี" อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวทิ้งท้าย

 0ธรรมรัช    กิจฉลอง0