
"ไก่อู" กุลสิรี อรรถจินดา สาวมั่นหลงใน "ธรรม"
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละคะว่าเจ้าแม่บิวตี้คนหนึ่งของเมืองไทย อย่าง "ไก่อู" กุลสิรี อรรถจินดา ผู้จัดการหน่วยโฆษณาและประชาสัมพันธ์ระดับอาวุโส แผนกการตลาดและการขาย บริษัท ชิเซโด้ (ไทยแลนด์) จำกัด จะชื่นชอบการเข้าวัดสวดมนต์ฟังเทศน์ ก็ด้วยบุคลิกที่โฉบเฉี่ยวผนวกก
"ตอนนี้ ไก่อู ก็วุ่นๆ กับงานด้วยหน้าที่ที่รับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งก็รวมทั้งแผนการโฆษณาและแผนการประชาสัมพันธ์ ยิ่งมีเครื่องสำอางต่างๆ ออกมามาก การวางแผนก็ต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีนะทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยผู้ผลิตก็ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีมากขึ้น ส่วนผู้บริโภคก็มีทางเลือกที่หลากหลาย แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากขึ้นเพียงแต่จะยุ่งขึ้นเท่านั้นเอง ซึ่งก็เป็นกลไกของตลาดและเราก็ต้องตอบโจทย์ให้แก่ลูกค้า จึงเป็นเรื่องสนุกสำหรับไก่อู ซึ่งถ้าให้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงก็ได้ไม่มีปัญหา เพราะงานคือความสุขส่วนหนึ่งในชีวิตเช่นกัน" ไก่อู เอื้อนเอ่ยเรื่องงานให้ฟังหลังจากที่พบกัน
ดูวุ่นๆ กับการงานอย่างนี้แล้วเธอแบ่งเวลามาเข้าวัดทำบุญอย่างไร พอได้ยินคำถามเธอตอบพร้อมรอยยิ้มกลับมาทันทีว่า สบายมาก เพราะเธอจัดสรรเวลาได้เป็นอย่างดี แม้ในขณะที่ทำงานเวลาส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นตัวของตัวเอง จะบอกว่าคนเราแม้จะทำงาน 24 ชั่วโมงก็ต้องมีเวลาเป็นตัวเอง นั่งพัก ทานอาหาร วาดรูป เต้นรำ ไปวัด นั่นแหละคือเวลาที่เธอมีเวลาให้ตัวเอง และความจริงแล้วจะบอกว่าเธอสามารถทำงานได้ติดต่อกันหลายวัน หรือจะเที่ยวหรือใช้เวลาเป็นของตัวเองติดๆ กันหลายวันก็ได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นอยู่ที่การจัดสรรเวลาให้ลงตัวนั่นเอง
ซึ่งระหว่างที่คุยกันนั้นเราก็ได้ยินเสียงพระสวดมนต์ เธอจึงสะกิดทีมงาน "คม ชัด ลึก" ขอตัวไปไหว้พระก่อน และด้วยท่าทีที่สำรวมทำให้ตอบโจทย์ได้ทันทีเธอน่ะของจริง...แล้วคำตอบของเธอก็ยืนยันมาว่า เรื่องการเข้าวัดทำบุญนั้นทำมาตั้งแต่เด็ก ด้วยตามพ่อแม่ไปวัด ทำบุญอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหมือนสิ่งหนึ่งที่ต้องทำเมื่อเรามีเวลาว่าง ที่สำคัญการได้เห็นผู้ใหญ่ในบ้านเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตามหลักของพุทธศาสนิกชน ยิ่งเป็นการปลูกฝังที่ดีสำหรับเธอ
"เห็นจากพ่อแม่นี่แหละ และที่จำได้เลยว่าท่านจะสอนให้เรามีศีล 5 ให้การดำเนินชีวิต ให้เราทำบุญ ตักบาตร เรื่อยมาจนโต ก็เริ่มที่จะหาหนังสือธรรมะมาอ่าน เริ่มศึกษาธรรมะ เริ่มเข้าวัดถือศีล อย่างศีล 5 อริยสัจ 4 หรือ มรรคองค์ 8 ถ้าใครปฏิบัติตามได้ก็จะดีกับชีวิต เพราะนำมาใช้กับการดำเนินชีวิตได้ในทุกเรื่อง หรือหลักธรรมข้ออื่นๆ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ก็สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทุกเรื่องทำได้ไม่ยาก ยิ่งถ้านึกถึงหลักธรรมทุกเรื่องในชีวิตจะง่ายขึ้นด้วยซ้ำ" สาวมั่นผู้หลงในธรรมกล่าว
พร้อมกันนี้ ไก่อู ยังเล่าให้ฟังในระหว่างที่เดินไปไหว้พระภายในบริเวณวัดด้วยว่า นอกจากการใช้หลักธรรมะในเรื่องการดำเนินชีวิตแล้ว การคิดบวกคือสิ่งสำคัญที่สุด เรื่องนี้ปรากฏให้เห็นชัดกับทุกเรื่องเช่นกัน ด้วยถ้าเราคิดในทางลบเรื่องต่างๆ ก็จะออกมาลบ สำคัญด้วยคือทำให้เราทุกข์ เครียด ไม่มีความสุข และนอกจากคิดบวกแล้วต้องมีเมตตา กรุณา อุเบกขา กับทุกๆ คน ไม่เฉพาะเจาะจงกับคนใกล้ตัวหรือคนที่เราทำงานด้วย ไล่เรียงไปถึงการรู้จักทำทาน สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้เธออยู่อย่างเป็นสุขในทุกวันนี้
"ไก่อูจะคิดบวกก่อนเสมอ รวมทั้งต้องมีเมตตาและคิดดีกับทุกๆ คน ทุกปัญหาจะแก้ได้เมื่อเราเปิดใจปราศจากอคติ ต้องใจเย็นแต่ไม่ใช่เย็นจนนิ่ง เฉยในทุกเรื่องอย่างนั้นไม่ใช่แล้ว ทุกอย่างต้องมีเหตุและผลต้องมีสติ คิดดี พูดดี ทำดี ก็ดีแล้ว นี่คือหลักที่ไก่อูใช้ทุกวันเลย รวมทั้งต้องคิดว่าความสุขอยู่ที่ตัวเรา และเชื่อว่าทุกคนรู้เรื่องใดเป็นสุข เรื่องใดเป็นทุกข์ แล้วทำไมคนชอบคิดให้เป็นทุกข์ก็ไม่รู้นะ และก็อยากให้ทุกคนทำทุกอย่างจากใจ อย่างอยากให้คนคิดดีกับเรา เราก็ต้องคิดดีกับเขา ให้ความสุขกับเขา ต้องจริงใจกับเขา แล้วก็ไม่ใช่ปฏิบัติและคิดเช่นนี้เฉพาะกับคนนะ กับสัตว์โลกก็ต้องคิดและปฏิบัติเช่นนี้เช่นกัน" สาวที่ชอบเข้าวัด กล่าวปิดท้ายก่อนจะขอตัวไปไหว้พระอย่างที่ตั้งใจ
เรื่อง... "กรรณิกา ใจจำนงค์"
ภาพ... "วันชัย ไกรศรขจิต"