
มศวชี้ขาดแพทย์อิงลิช2เม.ย.แพทยสภาดักคอดันทุรังเปิด-ไร้สิทธิสอบใบวิชาชีพ
สภา มศว ได้ฤกษ์พิจารณาหลักสูตรแพทย์ภาษาอังกฤษ 2 เม.ย.นี้ คณบดีเชื่อเป็นที่ยอมรับของประชาชน หากสภาฯ พิจารณาทันเดือน เม.ย. เปิดรับนักศึกษารุ่นแรกได้เทอมหน้าทันที ด้านแพทยสภายันเปิดหลักสูตรแพทย์ อิงลิชโปรแกรม ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข 4 ข้อ ดันทุรังเปิด สุดท้า
ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเสนอขออนุมัติหลักสูตรแพทย์ภาคภาษาอังกฤษ จากสภามหาวิทยาลัยว่า วันที่ 2 เมษายน สภามหาวิทยาลัยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา เพื่อหากรอบแนวทางการเปิดหลักสูตร โดยขณะนี้คณะแพทยศาสตร์ได้แก้ข้อปัญหาต่างๆ ที่สภามหาวิทยาลัยมีข้อสังเกตไว้แล้ว อาทิ ความเห็นร่วมของคณาจารย์ในคณะแพทย์ ประกอบกับความเห็นจากประชาชนทั่วไปในการสำรวจความเห็นโดยเอแบคโพลล์ ซึ่งมีประชาชนเห็นด้วยกับการเปิดหลักสูตรภาษาอังกฤษถึง 86% แม้ว่าความเห็นจากคณาจารย์ไม่เป็น 100% แต่ก็ไม่มีข้อขัดแย้งในการเปิดสอน จึงต้องถือตามเสียงส่วนใหญ่
“หากสภามหาวิทยาลัยพิจารณาหลักสูตรทันภายในเดือนเมษายน จะสามารถเปิดรับนักศึกษาได้ตามที่ประกาศไว้ภายในภาคเรียนหน้า แต่หากสภามหาวิทยาลัยไม่ผ่านหลักสูตรดังกล่าว ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าเพราะเหตุใด เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการเซ็นข้อตกลงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา สหรัฐอเมริกาแล้ว และเชื่อมั่นว่าคณะได้ทำตามเกณฑ์ กติกาที่วางไว้ทุกประการแล้ว สภาฯ น่าจะทำการพิจารณากรอบการดำเนินการรับนักศึกษา ส่วนเงื่อนไขที่แพทยสภาเขียนไว้ในการอนุมัติหลักสูตร เช่น การใช้ทุน หรือเกณฑ์การรับนักศึกษา เป็นเรื่องที่เกินอำนาจแพทยสภา เพราะมีอำนาจในการอนุมัติหลักสูตรเท่านั้น กรอบการรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจะพิจารณาอีกครั้ง ว่าจะรับนักศึกษาต่างชาติหรือไม่ ขณะนี้พบว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ก็มีการเปิดรับนักศึกษาต่างชาติไปแล้วทั้งที่ประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมมาก" ศ.นพ.สมเกียรติกล่าว
ด้า นศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า แม้แพทยสภารับรองหลักสูตรนี้แล้ว แต่เป็นแบบมีเงื่อนไข คือ 1.รับเฉพาะนักศึกษาที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น 2.นักศึกษาแพทย์ที่เรียนจบต้องใช้ทุนเช่นเดียวกับภาคปกติ 3 ปี 3.จะต้องประสานความขัดแย้งภายในมหาวิทยาลัยก่อน และ 4.ต้องรายงานการดำเนินหลักสูตรต่อแพทยสภาทุกๆ 6 เดือน หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานและข้อตกลงก็สามารถให้มีการแก้ไขปรับปรุงใหม่จนกว่าจะแก้ไขให้ถูกต้องและหากไม่ปฏิบัติตามอีก นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาก็จะไม่สามารถสอบใบประกอบโรคศิลปะได้



