นูออโว พลัส-อรุณ พลัส จำกัด ผนึกกำลังสร้าง “เอ็นวี โกชั่น” ด้วยทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท ส่งแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสิร์ฟตลาดรถ EV ดันไทยสู่ผู้นำตลาดธุรกิจแบตเตอรี่
เทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เริ่มขยายตัวเพิ่มมากยิ่งขึ้น หลายคนเริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์ดีเซลหรือเบนซิน ส่งผลให้ปีนี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด หลายๆ บริษัทจึงเริ่มหันมาให้ความสนใจในการผลิตและส่งแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามารองรับความต้องการใช้งาน
และยังถือว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใสไม่แพ้กลุ่มธุรกิจผลิตและขายรถยนต์ไฟฟ้า โดย บริษัท นูออโว พลัส จำกัด (Nuovo Plus) บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท อรุณ พลัส จำกัด (Arun Plus) และ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นความสำคัญและต้องการที่จะผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน ให้คนไทยได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ล่าสุดได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับ Gotion Singapore Pte. Ltd. (Gotion) บริษัทในกลุ่มของ Gotion High-tech Co., Ltd. จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท เอ็นวี โกชั่น จำกัด (NV Gotion) ด้วยทุนจดทะเบียนไม่เกิน 600 ล้านบาท ในสัดส่วนการลงทุน 51% และ 49%
เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้าประกอบ จัดจำหน่ายโมดูลแบตเตอรี่และชุดแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อส่งมอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูงสู่ตลาดให้ผู้ใช้รถ EV
แบตเตอรี่หัวใจสำคัญต่อยอดสร้างระบบนิเวศธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า-พลังงานหมุนเวียน
สำหรับการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้านอกจากจะต้องคำนึงถึงคุณภาพแล้ว การดำเนินการผลิตแบตเตอรี่จะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะหากรถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นความหวังใหม่ที่จะเข้ามาช่วยลดมลภาวะให้แก่โลก กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ก็ถือว่าเป็นหัวใจหลักของกระบวนการรักษาโลกเช่นกัน
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด กล่าวว่า กระบวนการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อกักเก็บพลังงานและยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า
ดังนั้นการร่วมทุนจัดตั้ง NV Gotion ครั้งนี้ จึงเป็นไปตามทิศทางกลยุทธ์การลงทุนธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตของ กลุ่ม ปตท. เพื่อเร่งสร้าง Energy Storage and EV Value Chain ให้ครอบคลุมในทุกมิติทั้งด้านเทคโนโลยีและการให้บริการ การเพิ่มศักยภาพให้แข่งขันกับต่างชาติได้ อีกทั้งความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้งานแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลสู่ลูกค้าอุตสาหกรรมในไทยและอาเซียน
เป้าหมายสร้างแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงป้อนตลอดรถ EV
ดร.บุรณิน กล่าวต่อว่า หลังจากที่มีการร่วมมือในการก่อตั้งบริษัท NV Gotion แล้วนั้น เป้าหมายต่อไปคือการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการใช้งานของผู้ใช้รถยนต์ EV ทั้งในประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเชียน โดย NV Gotion จะเริ่มก่อสร้างโรงงานประกอบชุดแบตเตอรี่ขนาด 2 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
คาดว่าจะสามารถผลิตและส่งมอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูงแก่ตลาดได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2566 ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และผลักดันเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม NV Gotion ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2566 จะสามารถส่งแบตเตอรี่ออกสู่ตลาดด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี และขยายกำลังการผลิตเป็น 2 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีภายในปี 2568
ผนึกกำลังเสริมแกร่งศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจแบตเตอรี่รถ EV
การทำธุรกิจจะเติบโตไปคนเดียวไม่ได้หากไม่มีพาร์ทเนอร์ หรือผู้ร่วมลงทุนที่มีเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้นการผนึกกำลังของ NV Gotion ในครั้งนี้จึงถือว่าเป็นอีกแรงขับเคลื่อนในการเพิ่มขีดความสามารถให้ NV Gotion เติบโตไปเส้นทางอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
โดย Mr. Li Zhen, Chairman of Gotion High-tech Co., Ltd กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้ถือว่าเป็นการเสริมแกร่งศักยภาพให้ธุรกิจของ NV Gotion เติบโต ทัดเทียมสากล และสามารถพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่ของ กลุ่ม ปตท. ได้อย่างดี ผ่านพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ รวมทั้งผสานจุดแข็งของทั้งสองบริษัท ด้วยการนำเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้
เพื่อเป็นการเพิ่มขีดการแข่งขัน และยกระดับอุตสาหกรรมมยานยนต์ของประเทศไทยให้ได้มาตรฐานระดับโลก รวมทั้งผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว โดยการส่งแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงออกสู่ตลอดรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิอาเชียน
การร่วมทุนในครั้งถือว่าอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จของธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าขอไทยที่จะช่วยให้ผู้ใช้รถ EV ในประเทศไทยและอาเซียนได้มีทางเลือกที่ดีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงกระบวนการส่งแบตเตอรี่ออกสู่ตลอดที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้นำด้านธุรกิจผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง