
สานฝัน ปันรักกับเยาวชนชายแดนใต้
ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวต่อไปในอนาคต เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ร่วมกับ บริษัท สยามฮีโร่ จำกัด โดย พันเอกอดุลย์ภักดี มะลิพันธุ์ นำเหล่าฮีโร่ทั้งทัพนักกีฬาและศิลปินดารา อาทิ พันโทวันชนะ สวัสดี พระเอกจากตำน
น้องๆ อายุตั้งแต่ 10-12 ปี จำนวน 300 คน พร้อมเข้าชมภาพยนตร์ฟรี เรื่อง “บ้านฉัน ตลกไว้ก่อน..พ่อสอนไว้” ณ อินฟินีซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอน ซีนีเพล็กซ์
ภายในงานได้รับเกียรติจาก พลโทมาลัย คิ้วเที่ยง รองเลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) มาเป็นประธานเปิดงาน ร่วมกับ อุดร ยิ้มย่อง ผู้บริหาร บริษัท เมเจอร์ฯ พร้อม สมบัติ คุรุพันธ์ อธิบดีกรมพลศึกษา และ พันเอกโอสถ ภาวิไล นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย
พลโท มาลัย คิ้วเที่ยง รองเสนาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในฐานะประธาน บอกว่า นับเป็นโอกาสดีที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างให้ความสนใจและตระหนักถึงความสำคัญของเยาวชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้ร่วมกันจัดโครงการในครั้งนี้ขึ้น โดยเฉพาะศูนย์ กอ.รมน. นั้น ไม่ได้เน้นไปที่การป้องกันหรือปราบปรามความรุนแรงใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่ยังเน้นหนักไปในเรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่กำลังระบาดอยู่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้อีกด้วย
"วิธีการที่เรานำเข้าไป คือการเน้นให้เยาวชนของชาติหันมาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเล่นกีฬา การฝึกอาชีพ หรือการนำน้องๆ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกับบรรดาคนดังในแวดวงต่างๆ เพื่อเป็นการเพิ่มวิสัยทัศน์มากยิ่งขึ้น" รองเสนาธิการฯ กล่าว
ด้าน ด.ช.อัสมี ปูโจ๊ะ หรือ น้องมิง อายุ 12 ปี จาก โรงเรียนสุวรรณากร จังหวัดปัตตานี หนึ่งในเยาวชนจากภาคใต้ ที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ เล่าว่า นอกจากตนจะได้ไปทัศนศึกษายังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีโอกาสพบปะศิลปินดาราที่เคยเห็นแต่ในทีวี ได้ชมภาพยนตร์ในโรงดีๆ ที่ไม่เคยได้ชมมาก่อน
"รู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ชนิดที่ไม่เคยมีในห้องเรียนอย่างนี้"
สำหรับการใช้เวลาว่างของน้องมิง ยามว่างเว้นจากการเรียนหนังสือในห้องก็คือการเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้าน แมนดาริน ซึ่งน้องมิงบอกว่า นอกจากจะทำให้ตัวเองเพลิดเพลินสนุกสนานและห่างไกลยาเสพติดแล้ว ยังเป็นหนทางเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองอีกด้วย
“ผมหัดเล่นมา 4 ปีแล้วครับ ดีใจที่ได้มาแสดงให้เพื่อนๆ ดู มันเป็นเครื่องดนตรีพื้นฐานที่ใช้เล่นกับการแสดงลิเกกูลู ที่ผมชอบเล่นเพราะเวลาที่ได้ไปแสดงที่ไหน ผมจะได้เงินค่าจ้างครั้งละ 100 บาท ครับ แม้จะไม่ใช่เงินมากนัก แต่มันสร้างความสุขและกำลังใจให้ผมอยากเล่นต่อ เพราะเป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรงของผมเอง ที่สำคัญเงินที่ได้ทุกครั้งผมจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาในอนาคต”
ส่วน ด.ญ.สุธิกานต์ ผ่องอำไพ หรือ "น้องเวส" ชั้น ป.4 โรงเรียนวัดสุวรรณากร จังหวัดปัตตานี บอกว่าดีใจมาก ที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมสถานที่สำคัญต่างๆ อย่าง สนามกีฬาแห่งชาติ ท้องฟ้าจำลอง ฯลฯ ที่สำคัญมีโอกาสมาชมภาพยนตร์สนุกๆ ในโรงภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย แถมยังได้มีโอกาสพบศิลปินดารา นักกีฬาที่ชื่นชอบด้วย
น้องเวส เป็นคนหนึ่งที่ชอบเล่นไวโอลิน และเพลงที่เล่นประจำ คือ เพลงอาเนาะบุหลัน ซึ่งเป็นเพลงพื้นเมือง เล่นมาได้ 2 ปีแล้ว นอกจากจะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังมีรายได้เป็นของตัวเองอีกด้วย
หันมาทาง "น้องแพรว" ด.ญ.สุภัสสรา อาจวิไล อายุ 10 ปี โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ได้รับเชิญให้มาร่วมแสดงการเดาะบอลให้เพื่อนๆ จากภาคใต้ดู เล่าว่า ตื่นเต้นมาก พอรู้ว่าจะต้องมาเดาะบอลร่วมกับพี่ชาย (ฟร้องค์ ปรเมศย์ อาจวิไล เจ้าของแชมป์เดาะบอลเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย)
“เพิ่งเล่นได้ 2-3 ปีเองค่ะ เล่นเพราะอยากได้เงินมาช่วยครอบครัว ที่ผ่านมาพี่ชายเล่นกีฬาหาเลี้ยงครอบครัวมาเยอะแล้ว อยากช่วยพี่แบ่งเบาภาระบ้าง อยากให้เพื่อนๆ จากภาคใต้หันมาใส่ใจกับกีฬากันเยอะๆ แล้วโครงการที่เพื่อนๆ มากันวันนี้ หนูว่าดีมากๆ ค่ะ นอกจากจะได้ท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญต่างๆ แล้ว ยังได้พบปะศิลปินดาราได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน”
นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่นอกจากจะเปิดโลกทัศน์แล้วยังปลูกฝังจิตสำนึกให้รู้รักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน