ชี้ 6 พิกัด รับลมหนาว สุดฟิน ณ ดินแดน "สุโขทัย-เชียงใหม่-ลำปาง"

ช่วงที่อากาศเย็นๆ โชยมากระทบผิว วันนี้เรามาชวนสายเที่ยวแพ็คกระเป๋าเปิดประสบการณ์บินลัดฟ้าไปสัมผัส ลมหนาว กันที่เมืองเหนือของประเทศไทย ด้วย 6 พิกัดที่เที่ยว หน้าหนาว สุดฟิน ณ ดินแดน “สุโขทัย-เชียงใหม่-ลำปาง” ที่จะพาทุกคนได้ออกไปท่องเที่ยวเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติ และตื่นเต้นไปกับการสร้างความทรงจำสุดพิเศษกับคนรัก ครอบครัว แก๊งเพื่อน ที่แม้ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ ทุกคนก็สามารถฟรีซความสุขกักตุนได้ตลอดปี 

1.สัมผัสวิถีชุมชน-ไอหมอกยามเช้าสุดฟิน ณ “จุดชมวิวห้วยต้นไฮ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย” 

เริ่มต้นจุดหมายแรก เปิดประสบการณ์สุดคุ้มค่าที่ จ.สุโขทัย เมืองที่ไม่ได้ดีเพียงมรดกทางวัฒนธรรมและโบราณสถานอันงดงามวิจิตรเพียงอย่างเดียว เพราะสุโขทัยยังมีจุดชมวิวที่โดดเด่นด้วยทัศนียภาพที่ไม่แพ้ใครอย่าง จุดชมวิวห้วยต้นไฮ อำเภอศรีสัชนาลัย ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ‘บ้านนาต้นจั่น’ พร้อมเปิดให้บรรดานักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสวิถีชุมชน-ธรรมชาติ ชมความงามของไอหมอกยามเช้าที่กระจายไปตามทิวเขาที่สลับซับซ้อน และห้ามพลาด เก็บภาพบรรยากาศพระอาทิตย์อัสดงในยามเย็น พร้อมสูดลมหายใจสดชื่นท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ที่สำคัญรอยยิ้มจริงใจจากชาวบ้านนาต้นจั่น ช่วยเติมพลังบวก ชาร์จแบตจนใจฟูได้ดีเลย

2.ชมวิวที่จุดสูงสุดบนเขาแบบ 360 องศา ที่ “เขาหลวง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย” 

สำหรับใครที่อยากจะสัมผัส อากาศหนาว ที่แท้จริงต้องมาให้ถึงจุดสูงสุดของสุโขทัย ณ เขาหลวง (อุทยานแห่งชาติรามคำแหง) อำเภอคีรีมาศ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี พร้อมไฮไลท์เด็ดที่ช่วยสลายความเหนื่อย เพราะนอกจากจะมีทะเลหมอกที่สวยที่สุดแล้ว ยังสามารถมองเห็นทัศนียภาพป่าเขาสลับซับซ้อน และธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ได้แบบ 360 องศา ในพิกัดที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,200 เมตร สำหรับใครที่ต้องการเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ อย่าลืมเตรียมฟิตร่างกายให้พร้อม เพราะต้องเดินทางเท้าขึ้นไปสู่ยอดเขาในระยะทางเกือบ 4 กิโลเมตรทีเดียว

3.เช็คอินแลนด์มาร์คหนาวติดท็อปเมืองไทย ที่ “กิ่วแม่ปาน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่” 

ขยับขึ้นมารับ ลมหนาว ทางเหนืออีกนิดที่ กิ่วแม่ปาน อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ อีกหนึ่งพิกัดสำคัญที่ไม่ควรพลาด ขึ้นชื่อหนาวติดอันดับท็อปของเมืองไทยในอุณภูมิต่ำสุดถึง 0 องศา และเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น วิวทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของดอยอินทนนท์ ที่ไม่ว่านักท่องเที่ยวคนไทยหรือชาวต่างชาติต่างก็ต้องรีบตื่นเช้าขึ้นมารับแสงแรกของวันใหม่ นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์สุดพิเศษที่เรียกได้ว่าบรรดานักเดินทางต่างเฝ้าคอย นั่นก็คือปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘เหมยขาบ’ สามารถพบได้ในช่วงที่อากาศบนยอดดอยต่ำสุดที่ 1 – 4 องศา ให้ทุกคนได้ลั่นชัตเตอร์เก็บภาพความประทับใจของความงามในธรรมชาติเป็นที่ระลึก

4.สายเดินป่า-กางเตนท์ต้องเลิฟ “ดอยม่อนจอง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่” 

เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโปรดสำหรับใครที่ชื่นชอบกิจกรรมเดินป่า แต่ไม่อยากเหนื่อยล้าจนเดินไป เพราะที่ ดอยม่อนจอง อำเภออมก๋อย สามารถเดินขึ้นไปได้แบบไม่ยากลำบาก และใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง โดยสามารถขึ้นได้จาก 2 เส้นทาง ทั้งจากทางบ้านมูเซอและห้วยปูลิง ซึ่งเปิดให้เข้าเฉพาะช่วง หน้าหนาว ตลอดถึงเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น หากขึ้นไปถึงแล้วจะพบกับทิวทัศน์ของธรรมชาติที่เป็นลานทุ่งหญ้าสีทอง โดยสามารถกางเต๊นท์นอนค้างแรมได้ที่นี่เพื่อรอชมท้องฟ้าประกายแสงดาวในยามค่ำคืน

5.เมืองรถม้า มัดรวมโลเคชั่นสวยๆ “เหมืองแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง” 

ถัดมาเที่ยวที่จ.ลำปาง กันบ้าง คงต้องยกให้เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่สายคอนเท้นต์ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองรถม้าแห่งเขลางค์นคร ณ เหมืองแม่เมาะ เรียกได้ว่ามัดรวมโลเคชั่นสวยๆ มาให้แบบจัดเต็ม ภายในสถานที่แห่งนี้ประกอบด้วยพิกัดถ่ายรูปชวนฝันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกบัวตอง ที่บานสระพรั่งบนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ในสวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ทุ่งดอกคอสมอส หอชมนก หอคอยชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา และจุดชมวิวสะพานสกายวอร์ค ที่เป็นซิกเนเจอร์ของสถานที่แห่งนี้

6.สุดฟินแหล่งอันซีนไทยแลนด์ “หล่มภูเขียว อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท อ.งาว จ.ลำปาง”

สำหรับใครที่ชอบอากาศแบบเย็นสบาย แต่ไม่กับถึงกับหนาวสุดขั้วแบบบนยอดเขา ขอส่งท้ายด้วยสถานที่เด็ดอีกหนึ่งของ จ.ลำปาง ที่ต้องปักหมุดอย่าง ‘หล่มภูเขียว’ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท อำเภองาม สถานที่ท่องเที่ยวสุดวิจิตรตระการตาประหนึ่งผลงานศิลปะชิ้นเอก ที่ถูกยกให้เป็นอันซีนไทยแลนด์ โดดเด่นด้วยแอ่งน้ำสีฟ้าอมเขียวมรกตใสราวกับกระจกแก้ว จนทำให้สามารถมองเห็นตัวปลาได้อย่างชัดเจน ให้ทุกคนได้สัมผัสกับบรรยากาศการผจญภัยในป่าท่ามกลางอากาศเย็นสบายและรายล้อมไปด้วยภูเขาหินปูน 

...รู้พิกัดชัดๆ กันแล้ว ก็รีบจัดกระเป๋า เตรียมตัวเดินทางกันเล้ย…ร่วมออกเดินทางไปสัมผัสอากาศหนาวพร้อมอัปเดตข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.bangkokair.com