
ตั้งศพ"รงค์ วงษ์สวรรค์"บำเพ็ญกุศล7วัน
"รงค์ วงษ์สวรรค์" ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ สิ้นลมแล้ว หลังแพทย์ระดมทีมยื้อปั๊มหัวใจ 3 ครั้ง รอลูกชายคนเล็กบินกลับมาดูใจ ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดสิงห์ฯ 7 วันแล้วเก็บไว้ 100 วัน เพื่อนนักเขียน-ศิลปิน ชี้เป็นครูที่ดี-เป็นพี่ที่มีแต่ให้ ขณะที่กวีซีไรต์ ยกย่อ
ความคืบหน้าอาการป่วยของนายณรงค์ วงษ์สวรรค์ วัย 77 ปี หรือ "รงค์ วงษ์สวรรค์" ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2538 ที่ยังคงรักษาตัวด้วยอาการเลือดออกในแกนกลางของสมอง ที่โรงพยาบาลเทพปัญญา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.05 น. วันที่ 15 มีนาคม "รงค์ วงษ์สวรรค์" เสียชีวิตลงอย่างสงบ ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและญาติมิตร
ต่อมาในเวลา 19.00 น. นายวงษ์ดำเลิง วงษ์สวรรค์ ลูกชายคนโต ได้ออกมาแถลงข่าวถึงการเสียชีวิตของบิดาอย่างเป็นทางการที่บริเวณห้องโถงชั้นล่างโรงพยาบาล
นายวงษ์ดำเลิง เปิดเผยว่า บิดาได้เสียชีวิตลงเนื่องจากหัวใจหยุดเต้น หลังจากแพทย์ได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะฉีดยากระตุ้นให้หัวใจทำงานแต่อาการเลือดคั่งในสมองพบว่ามีเป็นจำนวนมากทำให้ไปทำลายเซลในสมองร่างกายจึงไม่ตอบสนองตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 มี.ค.ที่มาโรงพยาบาล และหัวใจมาหยุดเต้นในเวลา 18.05น.ดังกล่าว
หลังบิดาเสียชีวิตครอบครัวได้หารือกับเพื่อนของพ่อทั้งที่อยู่ในเชียงใหม่และเพื่อนนักเขียนที่กรุงเทพฯตกลงกันว่า จะนำศพพ่อตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่ศาลาสหัสหงษ์ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ โดยกำหนดตั้งสวด 7 วันและตั้งใจว่าจะเก็บศพพ่อไว้ต่ออีก 100 วันเพื่อให้ได้อยู่ด้วยกับพวกเรานานๆ ส่วนในเรื่องของการขอพระราชทานเพลิงศพหรือไม่นั้นเรื่องนี้ต้องให้ทางคณะกรรมการศิลปินแห่งชาติเป็นผู้ตัดสินใจให้เขาดำเนินการกันไป
นายวงษ์ดำเลิง กล่าวว่า ส่วนเรื่องการรวบรวมผลงานเขียนหลังจากนี้คงต้องกลับไปดูเรื่องกฎหมาย ที่ผ่านมางานเขียนของพ่อมีอยู่หลายสำนักพิมพ์ที่ทยอยออกมาต้องขอเช็คดูเรื่องลิขสิทธิก่อนเพราะยังไม่ค่อยทราบเรื่องกฎหมาย
“ส่วนเรื่องการตั้งอนุสรณ์สถานนั้นยังไม่ได้คิด แต่โดยส่วนตัวแล้วพ่อไม่ได้ไปไหนยังอยู่ในความรู้สึกของผม แม่และน้องอยู่ตลอด เป็นการจากกันแค่กายแต่พ่อยังไม่จากไปไหน ส่วนบ้านสวนทูนอินที่ อ.โป่งแยงที่พ่อเคยอยู่นั้นร้อยสองร้อยปีจากนี้เราก็จะทำให้มันคงสภาพเดิม หลังเสร็จสิ้นพิธีศพแล้วในส่วนของอัฐิยังไม่รู้ว่าจะเผาหรือฝังดี” นายวงษ์ดำเลิงกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้ใครจะเป็นผู้ดูแลจะรับแม่ไปอยู่ด้วยที่ต่างประเทศหรือไม่ นายวงษ์ดำเลิง กล่าวว่า น้องชายคนเล็กมีกำหนดจะกลับมาอยู่เมืองไทยอยู่แล้วเร็วๆนี้ แต่คงต้องคุยกันอีกทีคงจะเป็นในลักษณะของการสลับกันรับแม่ไปอยู่ด้วยทั้งสองคน เพราะก่อนหน้านี้พ่อเคยพูดอยู่เสมอว่าฝากให้ผมช่วยดูแลแม่และน้องด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเคลื่อนศพของ "รงค์ วงษ์สวรรค์" นั้นทางญาติระบุว่าจะเคลื่อนออกจากโรงพยาบาลในเวลา 11.00น.วันพรุ่งนี้(16 มี.ค.) และจะเริ่มพิธีรดน้ำศพที่วัดพระสิงห์วรวิหารในเวลา 16.00น.
ทั้งนี้หลังจากหารือกันระหว่างทางครอบครัวของรงค์และเพื่อนคนสนิทของรงค์แล้วทางญาติได้มีข้อสรุปและพิมพ์ออกมาเป็นใบแถลงการณ์ว่าในงานศพจะประกาศของดรับพวงหรีดแต่จะเปิดรับในสองส่วน ส่วนแรกคือจะรับเป็นเงินบริจาคเพื่อนำเงินที่ได้ไปสมทบกองทุน ”รงค์ วงษ์สวรรค์” เพื่อช่วยผู้ป่วยโรคไตที่ยกไร้ให้มีทุนทรัพย์ในการรักษา เนื่องจากที่ผ่านมาครอบครัวนี้ได้เล็งเห็นถึงความยากลำบากของผู้ป่วยโรคดังกล่าว และอีกส่วนจะขอรับเป็นกล้าไม้พันธุ์ต่างๆส่วนหนึ่งจะนำมาใช้ในการตกแต่งงานศพที่เหลือจะนำไปตกแต่งสร้างสีเขียวให้กับเมืองเชียงใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาญาติมิตรทราบดีว่า "รงค์ วงษ์สวรรค์" เป็นผู้มีใจชื่นชอบพันธุ์ไม้เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามตลอดทั้งวันที่ผ่านมา แพทย์พยายามยื้อชีวิตของศิลปินแห่งชาติรายนี้ มีการปั๊มหัวใจช่วยถึง 3 ครั้ง โดยเมื่อเวลา 12.30 น. นพ.นพพร นิวัฒนนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลเทพปัญญา แถลงว่า เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 14 มีนาคม ผู้ป่วยมีอาการหัวใจหยุดเต้น ทีมแพทย์ปั๊มหัวใจ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที หัวใจจึงกลับมาเต้นอีกครั้งด้วยอัตรา 111 ครั้งต่อนาที และทีมแพทย์ได้ให้ยากระตุ้นการทำงานของหัวใจเพิ่มอีก กระทั่งเวลา 11.00 น. วันที่ 15 มีนาคม ผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัว หายใจได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 119 ครั้งต่อนาที แต่ไม่สามารถวัดความดันโลหิตได้
กระทั่งเวลา 11.30 น. ผู้ป่วยมีอัตราการเต้นของหัวใจอ่อนมาจนอยู่ในระดับวิกฤติ ทีมแพทย์ช่วยปั๊มหัวใจอีกครั้งเพื่อยื้อชีวิต โดยใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที ซึ่งถือว่าการตอบสนองต่อการปั๊มหัวใจอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่เมื่อเวลา 12.15 น.ก่อนการแถลงข่าวเพียง 15 นาที ผู้ป่วยมีการเต้นของหัวใจที่อ่อนแรงมาก ทีมแพทย์จึงต้องปั๊มหัวใจอีกครั้ง ซึ่ง นพ.นพพร ระบุว่า อาการอยู่ในขั้นวิกฤติอย่างมาก ร่างกายไม่ตอบสนอง การทำงานของหัวใจลดลง ที่สามารถหายใจอยู่ได้เกิดจากการใช้การกระตุ้นหัวใจช่วยและไม่แน่ใจด้วยว่าจะสามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยได้จนถึงวันที่ 16 มีนาคม เพื่อรอนายสเริงรงค์ บุตรชายคนเล็กที่จะเดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกา ในเวลา 16.00 น.ได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้น "รงค์ วงษ์สวรรค์" มีอัตราการเต้นของหัวใจอ่อนมากที่ 30-40 ครั้งต่อนาที ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับวิกฤติโดยอัตราการเต้นของหัวใจระดับปกติอยู่ที่ 70-110 ครั้งต่อนาที ซึ่งการปั๊มหัวใจครั้งนี้ถือเป็นการยื้อชีวิตครั้งที่ 3 แล้วในรอบวัน
ตั้งแต่ช่วงเช้า นอกจากนางสุมาลี ภรรยาของ "รงค์ วงษ์สวรรค์" จะเฝ้าอาการอย่างใกล้ชิดแล้ว นายวงษ์ดำเลิง วงษ์สวรรค์ บุตรชายคนโต ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกาถึงสนามบินเชียงใหม่เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 15 มีนาคม ก็เข้าเยี่ยมพร้อมนำพระพุทธรูปไพรีพินาศ ปางมารวิชัย เข้าไปวางไว้บนหัวนอน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้บิดาด้วย
ขณะเดียวกันยังมีเพื่อนสนิททั้งนักเขียนและศิลปินแขนงต่างๆ ที่ทราบข่าว ทยอยเดินทางเข้าเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง เช่น นายสุพีร์ ปศุตนเวทิน เพื่อนสนิทซึ่งเป็นนักเขียน "หนังสือฟ้าเมืองไทย" เคยร่ำเรียนกับ"รงค์ วงษ์สวรรค์" ที่อเมริกามาตั้งแต่เด็กและเป็นบิดาของพิธีกร-ดารานักแสดงชื่อดัง "ท็อป" ดารณีนุช โพธิปิติ นายนรา เขียวแก้ว น้าของศิลปินนักร้อง "ปั่น" ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ "รงค์ วงษ์สวรรค์" ได้นำเอาชีวิตจริงมาเขียนเป็นหนึ่งในตัวละครที่ชื่อ "เอื้อนขจี" ซึ่งปรากฏในเรื่องสั้นชื่อ "ใต้ถุนป่าคอนกรีต", บินหลา สันกาลาคีรี นักเขียนซีไรต์, แสงดาว ศรัทธามั่น กวีล้านนา, ศิลปินนักร้อง ฮวด สุดสะแนน ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดได้ลงนามในสมุดเยี่ยมและทราบว่าจะมีเพื่อนศิลปินรุ่นใหญ่น้อยทั้งแขนงวรรณกรรมและดนตรีอย่าง หงา คาราวาน และอีกจำนวนไม่น้อยที่ทราบข่าวและอยู่ระหว่างเดินทางกันมา
นายนรากล่าวว่า ในแวดวงเพื่อนสนิททุกคนติดตามอาการป่วยมาตลอด "รงค์ วงษ์สวรรค์" อาวุโสและตรากตรำทำงานมามากแล้ว ร่างกายก็ไม่ปกติเพราะต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งจะเอาแรงที่ไหนมาสู้และยังมีโรคแทรกซ้อนอีก แต่นับถือว่าหัวใจแข็งแกร่งมากเพราะปั๊มหัวใจทีไรก็เต้นขึ้นมาแรงทุกที เบื้องต้นญาติและกลุ่มเพื่อนสนิทได้เตรียมหารือประสานวัดพระสิงห์ฯ อ.เมืองเชียงใหม่ไว้แล้วเพื่อเตรียมจะใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรม
" รงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นเพื่อนที่ดี และเป็นครูที่ดีของนักเขียนรุ่นหลังที่เข้ามาเป็นลูกศิษย์ลูกหาขอคำปรึกษาทั้งนักเขียนและนักดนตรี ชีวิตที่ผ่านมา คือลักษณะการเป็นพี่ มีแต่ให้คนอื่น ไม่เคยรับของใคร" นายนรากล่าว
นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ปี 2536 กล่าวว่า "รงค์ วงษ์สวรรค์" เป็นผู้สร้างสรรค์งานเขียนหนังสือที่แตกต่างไปจากนักเขียนท่านอื่นๆ ในรุ่นราวเดียวกัน มีคลังภาษาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนอย่างที่กล่าวขานกันว่าพญาอินทรีสวนอักษร เขียนได้อย่างโดดเด่นอลังการเฉิดฉายและน่าอ่าน มีลีลาภาษาที่เรียกว่านอกขนบ แม้แต่นักเขียนในปัจจุบันไม่มีใครทำได้ ตนขอยกย่องเป็นอักขราจารย์ทางด้านวรรณศิลป์คนหนึ่งของเมืองไทย จึงอยากให้สถาบันการศึกษาได้นำงานเขียนของ "รงค์ วงษ์สวรรค์" มาให้นักเรียนนักศึกษาที่สนใจงานเขียนวรรณกรรมได้ศึกษาหาอ่านจะทำให้เห็นการใช้ภาษาเขียนและช่วยให้มีคลังภาษามากขึ้น
"รงค์ วงษ์สวรรค์" ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2538 เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2475 ที่ จ.ชัยนาท งานเขียนของ"รงค์ วงษ์สวรรค์" มีหลายประเภท ตั้งแต่คอลัมน์ในนิตยสารและหนังสือพิมพ์ เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี บทภาพยนต์ และปกิณกะอื่นๆ อีกเป็น จำนวนมาก "รงค์ วงษ์สวรรค์" เริ่มมีชื่อเสียงมาจากงานเขียนคอลัมน์รำพึง โดย "ลำพู" ในหนังสือพิมพ์ สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ เอกลักษณ์งานเขียนของเขาคือ ลีลาการใช้ภาษาที่โดดเด่นเป็นพิเศษ กระทั่งวันที่ 15 ธันวาคม 2538 คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศเชิดชูเกียรติให้ "รงค์ วงษ์สวรรค์" เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
ผลงานที่โดดเด่น ได้แก่ สนิมสร้อย, บางลำพูสแควร์, คืนรัก, ใต้ถุนป่าคอนกรีต ขบวนหนึ่ง, เสเพลบอยชาวไร่, ใต้ถุนป่าคอนกรีต ขบวนสอง, แดง รวี, ใต้ถุนป่าคอนกรีต ขบวนสาม, นักเลงโกเมน, กรุงเทพฯ รจนา, คึกฤทธิ์แสบสันต์, เทวี-เทวา ศักดินาดอลลาร์ ดารา Hollywood, Casino ดอกไม้บาป และบักสีอีจำปา เป็นต้น
ช่วงบั้นปลายชีวิต "รงค์ วงษ์สวรรค์" ไปใช้ชีวิตพักผ่อนและเขียนหนังสือที่สวนทูนอิน ซึ่งเป็นบ้านพักบนดอยในหมู่บ้านโป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยมีเพื่อนในวงการนักเขียนไปเยี่ยมเยียนเป็นประจำ