"ซีสต์และเนื้องอกต่างกันอย่างไร" แบบไหนอันตราย เช็คอาการเบื้องต้น

เมื่อเริ่มอายุย่างเข้าสู่วัย 25 ไปจนถึง 50 ปี หลายคนคงคุ้นชินไปกับว่า ซีสต์ หรือ เนื้องอก ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมากยิ่งขึ้น โดยทั้ง ซีสต์ และ เนื้องอก สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่ตามส่วนต่าง ๆ ในอวัยวะของร่างกาย สำหรับในประเทศไทยเรามักจะพบว่า หญิงไทยที่อยู่ในช่วงวัยมีประจำเดือนหลายคนมักจะเกิดถุงซีสต์ หรือ เนื้องอก ในอวัยวะสำคัญไม่ว่าจะเป็นมดลูก เต้านม  ส่งผลให้ต้องตรวจร่างกาย เพื่อเช็คว่าในมดลูก หรือเต้นนม เกิดความผิดปกมีซีสต์ หรือ เนื้องอกอยู่ภายในหรือไม่

 

แต่เชื่อว่าหลายคนกำลังสับสนและสงสัยว่า "ซีสต์เนื้อและงอกต่างกันอย่างไร"  โดยเฉพาะในภาวะที่เกิดขึ้นในมดลูก หรือ รังไข่ หรือภายในเต้านม โดยเฉพาะความอันตราย ความรุนแรง อาการ รวมไปถึงการรักษา และภาวะในการเกิดความผิดปกติทั้ง 2 อย่างในร่างกาย

"ซีสต์และเนื้องอกต่างกันอย่างไร"  

 

ชีสต์ คือ ก้อนเนื้อหรือตุ่มที่เจริญเติบโตบนร่างกาย ภายในชีสต์มีลักษณะเป็นถุงบรรจุอากาศ ของเหลว ไขมัน น้ำ แต่อาจจะมีเนื้อเยื่อผสมอยู่ด้วย ชีสต์ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซีสต์ นั้นจะมีอาการเจ็บปวดไม่อันตราย  ขนาดที่ต้องรักษาจะอยู่ที่ประมาณ 5 ซ.ม. หากมีขนาดเล็ก ไม่ต้องไปทำอะไร และไม่มีอาการปวด ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยา เพียงแต่ให้ติดตามอย่างใกล้ชิดเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากเป็น ซีสต์ แต่มี เนื้อเยื่อผสมอยู่ในถุง ซีสต์ อาจพัฒนากลายเป็นมะเร็งได้เช่นกัน

 

 

เนื้องอก คือ เนื้อเยื่อที่มีการแบ่งตัว มีการเจริญเติบโตแบบผิดปกติ จนเกิดก้อนเนื้อที่งอกเพิ่มขึ้นมาในบริเวณร่างกาย ทั้งนี้เนื้องอกมีหลายประเภท ทั้งแบบที่อันตราย และไม่อันตรายต่อร่างกาย สำหรับ เนื้องอก ที่เป็นอันตรายคือก้อนเนื้อร้ายที่มีโอกาสจะพัฒนาเป็นมะเร็งละลุกลามไปส่วนอื่นของร่างกาย  

 

ซีสต์  กับ  เนื้องอก แบบไหนอันตรายกว่ากัน

 

ซีสต์ เป็นโรคที่ไม่อันตรายมากสามารถทำการักษาได้ด้วยวิธีการผ่าตัดน้ำถุงชีสต์ออก ซึ่งชีสต์ขนาดเล็กจะไม่ส่งผลร่างกาย ไม่ทำให้ร่างกายเจ็บปวด แต่หากมีขนาดใหญ่มากขึ้นอาจทำให้ถุงชีสต์เกิดการบิด จนเลือดไม่ไหลเวียน หรือไปเบียดเบียนอวัยวะส่วนอื่น ๆ ถุงชีสต์อาจแตก เน่า และนำมาสู่อันตรายในที่สุด

 

เนื้องอก เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการผ่าตัด ซึ่งถ้าเนื้องอกมีขนาดเล็กและไม่ได้อยู่บริเวณจุดสำคัญก็ไม่มีความจำเป็นต้องผ่าตัด แต่ข้อควรระวังคือเนื้องอกที่เป็นเนื้อร้ายอาจพัฒนากลายเป็นมะเร็งได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

 

 

อาการของ "ซีสต์และเนื้องอกต่างกันอย่างไร"  

 

ซีสต์ จะมีอาการเบื้องต้น ดังนี้

• คลำเจอก้อนที่หน้าท้อง หรือ หน้าอก
• ปวดหน่วง ๆ บริเวณท้องน้อย หรือปวดบริเวณหน้าอก
• ประจำเดือนมาผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย หรือมามากผิดปกติ
• ท้องอืด แน่นท้อง
• ปัสสาวะบ่อยขึ้น
• ปวดท้องน้อยเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากมีถุงน้ำรังไข่แตก  หรือมีการบิดของถุงน้ำ หากเป็นในกรณีนี้ควรรีบพบแพทย์      

 

เนื้องอก จะมีอาการเบื้องต้น ดังนี้

• ปวดท้องประจำเดือนมากกว่าปกติ
• ปวดท้องแบบหน่วงๆ ทั้งที่ไม่มีประจำเดือน
• มีเลือดออกมากระหว่างรอบเดือน มีลิ่มเลือดปนเป็นก้อน
• ปัสสาวะบ่อยขึ้นแต่ออกไม่มาก
• มีอาการท้องผูกผิดปกติ

 

อย่างไรก็ตามทั้ง ซีสต์ และ เนื้องอก สามารถเกิดขึ้นที่อวัยวะอื่น ๆ นอกเนื้อไปจากมดลูก เต้านม ได้เช่นกัน  อาทิ เนื้องอกในสมอง เนื้องอกในปอด เนื้องอกในลำไส้ และหากไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยแบบทันถ่วงทีอาจจะนำไปสู่เนื้อร้ายได้เช่นกัน