Lifestyle

21 ตุลาคม "วันรักต้นไม้แห่งชาติ" National Annual Tree Care Day

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

21 ตุลาคม "วันรักต้นไม้แห่งชาติ" National Annual Tree Care Day ให้ความสำคัญบำรุงรักษาต้นไม้ ฟื้นฟูสมดุลของธรรมชาติ

"วันรักต้นไม้แห่งชาติ" หรือ วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ National Annual Tree Care Day ที่ถือกำเนิดขึ้นจากแรงปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ที่ทรงให้ความสำคัญต่อการบำรุงรักษา ต้นไม้ และต้องการฟื้นฟูความสมดุลของ ธรรมชาติ ให้มากขึ้น โดยทรงปลูกและบำรุง ต้นไม้ ด้วยพระองค์มาโดยตลอดและทรงให้ความสำคัญของการบำรุงรักษา ต้นไม้ ที่ปลูกว่ามีความสำคัญและน่าเป็นห่วงมากกว่าการปลูก

ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงควากตัญญูกตเวทิตาต่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ทรงงานพัฒนาชนบทของประเทศไทย โดยเฉพาะการฟื้นฟูความสมดุลของ ธรรมชาติ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2533 คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการกำหนดให้วันพระราชสมภพของพระองค์คือวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันบำรุงรักษาต้นไม้ประจำปีของชาติ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการระดมความเห็นจากบุคคลทั่วไป เพื่อเสนอชื่อที่เหมาะสมซึ่งจากการระดมความคิดเห็นปรากฎว่าชื่อที่เหมาะสมคือ "วันรักต้นไม้แห่งชาติ" และได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบแล้วเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2533 เพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้มีโอกาสแสดงความเสียสละแรงกายแรงใจความสามัคคีน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นราชสักการะแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ด้วยการร่วมกันบำรุงรักษา ต้นไม้ ที่ปลูกไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ อันเป็นช่วงปลายฤดูฝนของทุกปี

 

 พระบรมรูป สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

 

เนื่องด้วยวันนี้เป็น "วันรักต้นไม้แห่งชาติ" จึงมาแจก 10 วิธีดูแลและรักษาต้นไม้

 

1. ปกป้องรากด้วยเปลือกไข่
สำหรับต้นไม้เล็ก ๆ ที่เพิ่งงอกใหม่หรือเพิ่งนำลงดินและรากยังไม่แข็งแรง ให้นำเปลือกไข่บดหยาบ ๆ มาโรยรอบโคนต้นไม้ เพราะเปลือกไข่ช่วยป้องกันการชะล้างหน้าดินของน้ำฝนได้

 

2. กำจัดวัชพืช
ถึงแม้ว่าศัตรูพืชจะเหี่ยวแห้งไปแล้วในช่วงที่แดดแรง แต่เมื่อโดนฝนก็อาจกลับมาเจริญเติบโตอีกครั้งถ้ารากยังอยู่ ฉะนั้นจึงควรกำจัดด้วยการถอนทั้งราก เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าวัชพืชฟื้นคืนมาได้อีก

 

3. กำจัดแหล่งน้ำขัง
เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายแล้ว เมื่อทิ้งไว้นาน ๆ แหล่งน้ำขังอาจจะส่งกลิ่นเหม็นเน่าตามมาอีกด้วย ดังนั้นจึงควรให้เทภาชนะที่มีน้ำขังทิ้ง ล้างด้วยน้ำเปล่า จากนั้นคว่ำเก็บไว้ให้เรียบร้อย

 

ดูแลรักษาต้นไม้

 

4. ขุดทางระบายน้ำ
เพื่อป้องกันน้ำขังในสวนและน้ำท่วมต้นไม้ ในสวนควรจะมีทางระบายน้ำเพิ่ม วิธีทำง่าย ๆ คือให้ขุดดินเป็นร่องเล็ก ๆ ตามขอบสนามหญ้าต่อไปยังทางระบายน้ำออก 

 

5. ใช้ผ้ายางคลุมรักษาหน้าดิน
หน้าดินที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อพืชจะถูกน้ำฝนชะล้างตอนฝนตก ให้รักษาหน้าดินด้วยการนำผ้ายางหรือแผ่นพลาสติกเจาะรูเล็ก ๆ ไว้สำหรับคลุมหน้าดินตอนฝนตกและพอให้มีช่องว่างระบายอากาศ

 

6. ย้ายต้นไม้หาแสงแดด
เนื่องจากอากาศช่วงหน้าฝนมักจะมีเมฆมาก มืดครึ้ม แสงแดดจึงอาจไม่เพียงพอสำหรับต้นไม้ที่ชอบแดดจัด ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโต ฉะนั้นจึงควรย้ายต้นไม้เหล่านั้นมาไว้ในจุดที่มีแสงแดดส่องทั่วถึงบ้าง

 

ดูแลรักษาต้นไม้

 

7. ลดการให้น้ำ
ต้นไม้ได้รับน้ำที่เพียงพอแล้วในหน้าฝน ฉะนั้นควรงดการรดน้ำบ้างบางวัน แต่ทั้งนี้ต้องคอยสังเกตดินบริเวณรอบต้นไม้ด้วย ถ้าดินแห้งแสดงว่าน้ำฝนระเหยจากดินหมดแล้ว ก็ควรจะรดน้ำเพิ่ม

 

8. หลีกเลี่ยงการเดินในสวนหลังฝนตก
หลังฝนตกดินในสวนจะชื้น แฉะ เละ เพื่อรักษาสภาพของดินและหญ้าให้หลีกเลี่ยงการเดินย่ำลงดินโดยตรง เพราะจะทำให้สวนเละได้ ควรหาแผ่นไม้มารองตามทางเดินแทน  

 

ดูแลรักษาต้นไม้

 

9. ใช้ปุ๋ยหมักธรรมชาติ
 แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยเคมี เนื่องจากฝนจะชะล้างปุ๋ยไปตามดิน ซึ่งถ้าใช้ปุ๋ยเคมีไส้เดือนที่ช่วยพรวนดินให้ต้นไม้อาจจะโดนสารเคมีที่มาจากน้ำและตายได้ เพื่อเป็นการรักษาสภาพดินและไส้เดือนในดินควรใช้ปุ๋ยหมักแทน

 

10. ปลูกต้นไม้
สภาพอากาศหน้าฝนถือว่าเหมาะอย่างยิ่งกับการนำเมล็ดพันธุ์และต้นไม้ใหม่ลงปลูก ต้นไม้และดอกไม้ในสวนจะงอกงามเนื่องจากได้รับน้ำที่เพียงพอทุกวัน แต่ทั้งนี้การปลูกต้นไม้ขนาดเล็กและเพาะเมล็ดควรจะเก็บไว้ในร่มให้นานกว่าเดิม ต้องรอให้ลำต้นและรากแข็งแรงพอที่จะรับมือกับน้ำฝนก่อนแล้วจึงย้ายไปปลูกกลางแจ้ง

 

ต้นไม้

 

 

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Youtube - https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ