Lifestyle

"โรคกระดูกคอเสื่อม" ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม แพทย์ เตือน ปรับพฤติกรรม ด่วน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง และระบบประสาท เตือนคนไทยเร่ง ปรับพฤติกรรม หลังพบอัตรา ผู้ป่วย ด้วย "โรคกระดูกคอเสื่อม" สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากสถิติการรักษาของโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ  พบว่า ตั้งแต่ปี 2561 –ปัจจุบัน พบว่ามี ผู้ป่วย เข้ารับการรักษาด้วย “โรคกระดูกคอเสื่อม” เพิ่มมากขึ้นถึง 4 เท่า โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงาน

 

สาเหตุการเกิด “โรคกระดูกคอเสื่อม”

 

เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงมาจากการใช้คอ ใช้กล้ามเนื้อแผ่นหลังที่ผิดลักษณะ เช่น การนั่งเล่นสมาร์ทโฟนนานๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ โดยกลุ่มนี้มักมีปัญหาเรื่องปวดคอ บ่า ไหล่ และจะมีอาการปวดแปล๊บเหมือนไฟช็อตลงไปที่แขน มีอาการชา บางรายอาจอ่อนแรง ทำให้เสียความสามารถในการทำงาน ด้วยพฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนเป็นสาเหตุของการเกิดโรค กระดูกคอเสื่อม ทั้งสิ้น ทำให้แนวโน้มของคนไทยเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคกระดูกคอเสื่อมมากขึ้นจนเป็นอัตราที่น่าเป็นห่วง

 

โรคกระดูกคอเสื่อม

 

อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท ได้ออกมาย้ำเตือนให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพราะไม่อยากให้คนไทยต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากโรคที่เกิดจากพฤติกรรม จนกระทั่งปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรค กระดูกคอเสื่อม เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ทราบว่าอัตราการป่วยของโรคนี้ไม่ลดลงเลย

 

นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ

 

สำหรับแนวทางการรักษา “โรคกระดูกคอเสื่อม”

 

หากคนไข้อาการไม่รุนแรงแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ก้มเล่นโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน อย่าลืมที่จะเปลี่ยนอิริยาบถท่าทางบ้าง เพราะร่างกายมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อก้มหรือทำงานให้หนักขนาดนั้น แต่หากไม่ดีขึ้นแพทย์จะทำการรักษาโดยการให้ยาร่วมกับการทำกายภาพบำบัด ท้ายที่สุดหากมีอาการเรื้อรังเป็นเวลานาน แพทย์จะทำการผ่าตัดกระดูกสันหลังส่วนคอทางด้านหลังด้วยเทคนิค PSCD (Percutaneous Stenoscopic Cervical Decompression) คือ การรักษาด้วยการเจาะรูส่องกล้อง ซึ่งเป็นเทคนิคที่โรงพยาบาลนำมาใช้ และถือว่าเป็นเจ้าแรก ซึ่งการผ่าตัดกระดูกสันหลังส่วนคอทางด้านหลัง เพื่อขยายช่องกระดูกสันหลังส่วนคอ โดยแพทย์จะนำกล้องเอ็นโดสโคปที่มีความละเอียดสูงเข้าไปในช่องว่างภายในกระดูกคอ เพื่อนำหมอนรองกระดูกที่กดทับเส้นประสาทออกมา สำหรับทางเลือกการรักษาด้วยวิธีนี้มีข้อดีคือ แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก เพียง 0.5 เซนติเมตร สูญเสียเลือดน้อย ฟื้นตัวเร็ว นอนโรงพยาบาลเพียง 1 คืนก็สามารถกลับบ้านได้ ซึ่งต่างจากเทคนิคเดิมที่มีแผลขนาดใหญ่และต้องมีการเชื่อมกระดูก ทำให้คอหันได้ลำบาก

 

การนั่งเล่นสมาร์ทโฟนนานๆ

 

นอกจากนี้ นายแพทย์ดิตถพงษ์ ยังได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการรักษา "โรคกระดูกคอเสื่อม" ไว้อีกว่า การรักษาโรคให้รู้สาเหตุ และรักษาที่ต้นเหตุ เพราะยาแก้ปวดจะช่วยได้ชั่วคราว แต่ถ้ารักษาที่ต้นเหตุจะหายโดยไม่ต้องกินยาและแก้ที่สาเหตุแห่งการปวด

โรคกระดูกคอเสื่อม

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลังและระบบประสาทที่ต้องการข้อมูลการรักษาสามารถโทรปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ โทร.02 034 0808

 

ติดตาม คมชัดลึก คลิก

Line: https://lin.ee/qw9UHd2

YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

logoline