Lifestyle

"ชาเขียว" กับสารพัดประโยชน์ต่อสุขภาพ สิ่งดีๆ ที่คนรักสุขภาพควรรู้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ชาเขียว" กับสารพัดประโยชน์ ที่นอกจากจะเป็น เครื่องดื่ม ให้พลังงานค่อนข้างต่ำ ยังมีสรรพคุณอีกหลายอย่าง ที่คนรักสุขภาพควรรู้

"ชาเขียว" เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ใครหลายคนชื่นชอบ เพราะรสชาติอร่อยและมีกลิ่มหอมเฉพาะตัว เมื่อดื่มเข้าไปแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น และยังเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับคนรัก สุขภาพ อีกด้วย ทำจากใบของ ต้นชา ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "คาเมเลียไซเนนซิส" (Camellia sinensis) โดยเป็น ชา ที่ไม่ผ่านการหมัก ซึ่งนอกจากเป็นเครื่องดื่มแล้ว ยังมีสารพัดประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้

 

สาร EGCG คืออะไร?

 

สาร EGCG ย่อมาจากคำว่า "Epigallocatechin gallate" เป็นสารกลุ่มคาเทชิน (Catechins) หลักที่พบได้มากใน "ชาเขียว"

 

โดยสาร EGCG จัดเป็นสารสำคัญที่มีฤทธิ์ทาง เภสัชวิทยา หลากหลายด้าน เช่น

- ต้านอนุมูลอิสระ
- ลดการอักเสบ
- เพิ่มความสามารถในการจดจำ
- มีฤทธิ์ต่อการทำงานของเซลล์ไขมัน
- ลดไตรกลีเซอไรด์
- ลดคอเลสเตอรอล
- เพิ่มการใช้พลังงาน
- เพิ่มสันดาปไขมันในสัตว์ทดลอง
- ลดการดูดซึมไขมันในลำไส้
- ลดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ไขมัน
- ลดการสะสมของไขมันหน้าท้อง

 

"ชาเขียว" เป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานค่อนข้างต่ำ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความสดชื่น แต่ข้อควรระวังคือ เครื่องดื่มชาเขียว บางประเภทอาจเติมน้ำตาลเข้าไปในปริมาณสูง หากรับประทานมากอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้

 

โดย เครื่องดื่มชาเขียว แต่ละชนิดมีปริมาณ แคลอรี่ ดังต่อไปนี้

 

- แบบขวดปรุงสำเร็จ มักมีการเพิ่มสารให้ความหวานและน้ำตาล ซึ่งจะให้พลังงานประมาณ 60 แคลอรี่ต่อ 250 มิลลิลิตร

- แบบผงสำหรับชงดื่ม อาจมีส่วนประกอบเป็นสารให้ความหวานหรือน้ำตาลเช่นกัน แต่มักให้พลังงานน้อยกว่า คือประมาณ 22 แคลอรี่

- แบบถุงชาสำหรับชงดื่ม ถุงชาเขียวขนาด 1.8 กรัม หากชงโดยไม่เพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เช่น นมหรือน้ำตาล จะให้พลังงาน 0 แคลอรี่

- ใบชา แบบหยาบสำหรับชงดื่ม ให้พลังงาน 0 แคลอรี่ เช่นเดียวกับแบบถุงชา

 

ใบชาเขียว

 

สรรพคุณของ "ชาเขียว"

 

ตำราแพทย์แผนจีน ได้กล่าวถึงการใช้ "ชาเขียว" ในการรักษาโรคต่างๆ มาเป็นเวลามากกว่า 4,000 ปี โดยสรรพคุณของ "ชาเขียว" ในการช่วยรักษามีดังนี้

 

1. มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ

2. มีส่วนช่วยรักษาภาวะซึมเศร้า

3. มีส่วนช่วยแก้หวัด แก้อาการร้อนใน ขับสารพิษ และขับเหงื่อในร่างกาย

4. ช่วยแก้อาการเมาจากการดื่มสุรา ทำให้สร่างเมาได้เป็นอย่างดี

5. มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก

6. มีส่วนช่วยในการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ซึ่งช่วยในการล้างสารพิษ และกำจัดพิษในลำไส้ได้

7. ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในร่างกาย

8. ป้องกันตับจากภาวะพิษต่างๆ รวมทั้งป้องกันโรคเกี่ยวกับตับทั้งหลาย

9. มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส รวมทั้งช่วยต้านเชื้อคลอสตริเดียมโบทูลินุม (Clostridium botulinum) ที่เป็นสาเหตุของโรคโบทูลิซึมจากอาหาร และเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ

10. มีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยป้องกันนิ่วในถุงน้ำดี และนิ่วในไต

11. ช่วยในการห้ามเลือดหรือทำให้เลือดไหลช้าลง

12. มีส่วนช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบ ส่งผลทำให้ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ โดยมักเกิดขึ้นในวัยกลางคน

13. ใช้เป็นยาพอกเพื่อรักษาแผลอักเสบ แผลพุพอง ฝีหนอง ไฟไหม้ รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการผดผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย และใช้เป็นยากันยุง รวมทั้งแก้ผิวแห้งได้

14. มีส่วนช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และช่วยระบายความร้อนบริเวณศีรษะและเบ้าตา จึงทำให้ตาสว่าง ไม่ง่วงนอน แถมยังช่วยให้หายใจสะดวกและรู้สึกสดชื่นขึ้นอีกด้วย

15. ช่วยแก้อาการท้องร่วง ท้องเสีย และท้องบิดได้

16. มีส่วนช่วยแก้อาการกระหายน้ำ ช่วยระบายความร้อนออกจากปอด และยังช่วยขับเสมหะได้อีกด้วย

 

"ชาเขียว" กับฤทธิ์ทาง ยา

 

1. ช่วย ลดน้ำหนัก ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีงานวิจัยที่ระบุว่า สารคาเทชินมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และไขมัน ซึ่งสารนี้พบได้มากที่สุดในชาเขียว

2. มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด

3. มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

4. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ

5. มีสารโพลีฟีนอลที่ช่วยยับยั้งการสลายของกระดูกที่เซลล์ออสติโอคลาสต์ นอกจากนี้ยังมีสาร EGCG ที่ช่วยเพิ่มมวลกระดูก และยับยั้งการเจริญของเซลล์สลายกระดูกออสติโอคลาสต์ด้วย

6. สารคาเทชินช่วยยับยั้งการอักเสบ และช่วยสร้างเส้นใยในตับ นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการเกิดไขมันพอกตับ และช่วยป้องกันไม่ให้มะเร็งลุกลามมาที่ตับ ทั้งยังมีแอล-ธีอะนีนที่มีส่วนช่วยในการลดอนุมูลอิสระ ทำให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดน้อยลง

7. จากการศึกษาในคน พบว่าสาร EGCG คาเฟอีน และแอล-ธีอะนีน ช่วยให้สเปิร์มมีอายุนานขึ้น และสามารถปฏิสนธิได้ดีขึ้น

 

ชาเขียว

 

สารพัดประโยชน์ของ "ชาเขียว"

 

นอกจากสรรพคุณในด้านการรักษาโรคและบำรุง สุขภาพ แล้ว "ชาเขียว" ยังเป็น สมุนไพร ที่นิยมนำมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด เช่น

 

1. ใช้เพื่อปรุงแต่งกลิ่น สี รวมทั้งรสชาติของอาหาร

"ชาเขียว" เป็นวัตถุดิบปรุงแต่งกลิ่นและรสจากธรรมชาติที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยนิยมนำมาเป็นส่วนผสมของอาหารหลากชนิด เช่น ขนมปัง เค้ก ขนมขบเคี้ยว ลูกอม เป็นต้น

 

2. ใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่างๆ

ด้วยกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ "ชาเขียว" จึงกลายมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกลืออาบน้ำ ครีมบำรุงผิว สบู่ น้ำยาดับกลิ่น ยาสีฟัน โลชั่น หรือน้ำยาบ้วนปาก โดยกลิ่นที่ได้จะผ่านการสกัดจาก "ชาเขียว" ก่อนนำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เหล่านี้

 

3. ช่วยบำรุงผิว

"ชาเขียว" เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ช่วย บำรุงผิว ทำได้โดยนำน้ำแร่มาต้มให้เดือด จากนั้นใส่ผงชาหรือใบชาเขียวตามลงไป แล้วทิ้งไว้ให้เย็น เสร็จแล้วจึงเทน้ำที่ได้ใส่ลงไปในขวดสเปรย์ ไว้ใช้สำหรับฉีดพ่นในหน้า จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและความเปล่งปลั่งให้กับผิวหน้าได้เป็นอย่างดี

 

4. ใช้ดับกลิ่นปากและลดแบคทีเรียในช่องปาก

"ชาเขียว" สามารถนำมาใช้เป็นน้ำยาบ้วนปาก เพราะช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่นและช่วยลดเชื้อแบคทีเรียภายใน ช่องปาก ได้เป็นอย่างดี

 

โดยมีผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเพส ประเทศสหรัฐอเมริกา ค้นพบว่า สารสกัดจาก "ชาเขียว" นั้นมีสรรพคุณช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จึงช่วยกำจัดจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ภายในช่องปากได้ เช่น ป้องกัน ฟันผุ ป้องกันอาหารเป็นพิษ และช่วยฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุให้เกิดคราบพลัคในช่องปาก

 

ชาเขียว

 

ที่มา : hd สุขภาพดี เริ่มต้นที่นี่

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ