ไลฟ์สไตล์

ชักน้ำเข้าลึก - ชักศึกเข้าบ้าน

ชักน้ำเข้าลึก - ชักศึกเข้าบ้าน

19 มี.ค. 2553

สำนวนข้างต้นนี้ คำว่า “ชักศึกเข้าบ้าน” มีคนเข้าใจ แต่คำว่า “ชักน้ำเข้าลึก” คนไม่เข้าใจ

  ในฐานะที่เป็นชาวนา (แต่ไม่เคยมีที่ดินทำกิน) คือ ช่วยผู้ใหญ่ๆ ทำนา รับจ้างทำนา ถ้าที่นาที่ไร่ของใครอยู่ไกลจากแม่น้ำ คู คลอง จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องขุดคูน้ำท้องร่อง หรือเรียกอีกคำหนึ่งว่า “สำโหลก” เพื่อนำน้ำเข้าที่ไร่ที่นาของตน

 ครั้นพอขุดเสร็จแล้ว ก็เปิดทางน้ำ หรืออาจจะต้องวิดน้ำด้วยการทำบุ้งกี๋หวาย หรือไม้ไผ่ทาเคลือบด้วยชัน ผสมน้ำมันยางกันปุ้งกี๋รั่ว แล้วนำเชือกผูกรัด ทำปากปุ้งกี๋ให้หนัก มีปลายเชือกข้างละ ๒ เส้น ยืนคนละฟาก โยนบุ้งกี๋ลงไปในห้วย หนอง คลอง คูที่มีน้ำแล้วดึงชักน้ำโยนใส่ลำคู หรือสำโหลก

 ทำอย่างนี้เพื่อ “ชักน้ำเข้า (นาไร่) ลึก” หรืออาจใช้ระหัดไม้ แต่ปัจจุบันใช้เครื่องสูบน้ำ หรือมีรางคอนกรีต เพื่อส่งน้ำเข้าที่ไร่นาลึกๆ

 คำว่า “ชักศึกเข้าบ้าน” คือ ชัก (ชวน) หรือ กระทำการอันเป็นชะนวนให้ประเทศอื่นๆ โจมตี ทำสงครามกับประเทศของเรา จนเกิดเป็นปฏิปักษ์ระหว่าง ประชาชน กับ ประชาชน หรือ ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

 ปัจจุบันนี้ นักการเมือง นักพูด นักเขียน บางคนได้ใช้เวทีทางสื่อสารมวลชนหลายแขนงโจมตีซึ่งกันและกันจนล่วงล้ำก้ำเกินไปถึงผู้นำต่างประเทศ หรือดูถูกศักดิ์ศรีของประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง หรือไปร่วมสมาคมกับประเทศอื่นทำลายประเทศตน นี่คือ “พวกชักศึกเข้าบ้าน” ด้วยพฤติกรรม

 "มุทะลุดุดัน  ปลุกปั่น
 หยันหยาม ก่อความไม่สงบ
 สมคบกับชาวต่างชาติ ขาดความรอบคอบ
 โต้ตอบแบบไร้วิจารณญาณ"

 พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นแก่นักการเมือง สื่อมวลชน อดีตข้าราชการ หรือ ปัจเจกบุคคล อันมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างชาติ คนพวกนี้คือพวก “ชักศึกเข้าบ้าน”

"พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ)"