ไลฟ์สไตล์

สมาคมพุทธฯร้องแบนหนังนาคปรกค้านเปิดฉาย18มี.ค.

สมาคมพุทธฯร้องแบนหนังนาคปรกค้านเปิดฉาย18มี.ค.

17 มี.ค. 2553

สมาคมพุทธฯ ร้องแบนหนังนาคปรก ชี้สร้างความเสื่อมเสียแก่พระภิกษุสงฆ์ เตรียมยืนหนังสือ รมว.วธ. รับการเปิดฉายวันแรก 18 มีนาคมนี้

เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2553  นายอดิศักดิ์     วรรณสิน    นายกสมาคมพุทธศาสน์สัมพันธ์  เปิดเผยว่า สมาคมพุทธศาสน์สัมพันธ์ และเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ ได้มีการพิจารณาภาพยนตร์เรื่อง นาคปรก  ซึ่งได้มีการเล่าเรื่องของโจร 3 คนที่ปลอมตัวมาเป็นพระเพื่อจะวางแผนขโมยเงินที่ซ่อนไว้ใต้โบสถ์ โดยใช้ผ้าเหลืองเป็นเกราะกำบังจากสายตาชาวบ้าน โดยจะเข้าฉายในวันที่ 18 มี.ค.นี้ โดยเห็นว่า มีประเด็นอ่อนไหวที่เล่าเรื่องโจรในคราบพระสงฆ์ และมีภาพที่แสดงให้เห็นถึงภาพการใช้ความรุนแรงและภาพความประพฤติที่ไม่เหมาะสมในเพศสมณะ เช่น การสัมผัสร่างกายสตรี เป็นต้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อการรับรู้และภาพลักษณ์ในด้านสร้างความเสื่อมเสียต่อพระภิกษุสงฆ์และคณะสงฆ์โดยรวม จึงเห็นว่าไม่ควรนำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมาเผยแพร่ โดยไม่ได้รับฟังความรู้สึกของชาวพุทธ และสิ่งสำคัญต้องได้รับการกลั่นกรองหรืออนุญาตจากกรรมการมหาเถรสมาคม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกิจการพระพุทธศาสนาซึ่งการกระทำโดยพลการถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิของความเป็นพระ

 “ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของพระภิกษุสงฆ์ที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ค่อนข้างเป็นไปในทางลบ หากมีการอนุญาตให้นำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายสู่สายตาประชาชนแล้วก็เท่ากับตอกย้ำภาพลักษณ์ในทางเสื่อมเสียของพระให้แย่ลงไปอีก อันจะเป็นการสร้างความเสื่อมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนต่อศาสนาพุทธอันเป็นศาสนาประจำชาติ ทั้งนี้ ในวันที่ 18 มี.ค. เวลา 13.30 น.. ทางสมาคมพุทธศาสน์สัมพันธ์ และเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ จะเข้ายื่นหนังสือเรียกร้อง ต่อนายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม(วธ.) ให้ทบทวนการอนุญาตฉายภาพยนตร์เรื่อง นาคปรก ต่อไป” นายอดิศักดิ์ กล่าว

 นายสมเกียรติ   ศรลัมพ์   ประธานคณะอนุกรรมาธิการ กิจการพระพุทธศาสนา ในคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในทางเสื่อมเสียต่อพระภิกษุสงฆ์และสถาบันคณะสงฆ์โดยรวม คณะอนุกรรมาธิการฯ จึงพิจารณาเห็นว่าภาพและเนื้อหาในภาพยนตร์มีความต้องการทำลายพระพุทธศาสนาและสถาบันสงฆ์ในประเทศไทยอย่างจงใจ โดยผู้สร้างภาพยนตร์มีเจตนาทำลายพระพุทธศาสนา สถาบันสงฆ์จึงขอให้ยุติการฉายเสีย หากไม่ดำเนินการจะมีมาตรการเพิ่มเติมรุนแรงต่อไป