ชมความงามโบราณวัตถุ บานประตู้ประดับมุก สิ่งที่หลงเหลือจาก สงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ตกทอดสู่ รัตนโกสินทร์ ยังคงความงามและทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา
ในความคิดของหลายๆคน เชื่อได้ว่า เมื่อมองย้อนกลับไปที่อยุธยานั้น สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้าง วัด บ้านเรือน รวมทั้งพระบรมมหาราชวัง เหลือเพียงซากโบราณสถานที่เราเห็น อย่างมากคือพระพุทธรูปต่างๆ
แต่ในความเป็นจริง ยังมีสิ่งที่เหลืออยู่อย่างน่าสนใจ คือศิลปะประดับมุกของวัดบรมพุทธาราม ในพงศาวดาร ระบุไว้ว่า ในปีพ.ศ.2295 พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศทรงโปรดให้บูรณะวัดบรมพุทธาราม วัดที่ถือเสมือนวัดประจำราชวงศ์บ้านพลูหลวง และได้สร้างประตูอุโบสถประดับมุกถวายไว้
หลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ปีพ.ศ.2310นั้น คาดการณ์ว่าวัดบรมพุทธาราม ก็น่าจะได้รับความเสียหายพอสมควร จนถึงปี 2443 พระญาณไตรโลกาจารย์ วัดศาลาปูน อยุธยา ได้ถวายบานประตูคู่หนึ่งซึ่งเป็นงานประดับมุกแก่รัชกาลที่5 เพื่อใช้ในการสร้างวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร อย่างไรก็ดีตู้ดังกล่าว ไม่ได้ถูกนำไปใช้ แต่เก็บไว้ที่กระทรวงวัง รวมทั้งยังมีบางส่วนที่มีการระบุในจดหมายตอบโต้กันระหว่างเจ้านายชั้นสูงว่า มีตู้ประดับมุกจากวัดบรมพุทธาราม อยู่ที่วังบางขุนพรหม
จนถึงการเปิดวังหน้า เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับพระนคร ปี 2469 รัชกาลที่ 7 โปรดให้นำบานประตูมาจัดแสดง พอมีการบูรณะวัดพระแก้ว ปี 2475 ก็รับสั่งให้นำไปใส่กับประตูหอพระมณเฑียรธรรม
ก่อนที่ในปี 2550 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขณะทรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ได้โปรดให้กรมศิลปากร ทำบานประตูจำลองมาใส่ที่หอพระมณเฑียรธรรมแทน และให้นำของเดิมมาเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จนปัจุบัน
นอกเหนือจากข้อมูลความเป็นมาเป็นไป ผมอยากเห็นด้วยตาตัวเอง จึงแวะเวียนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์วังหน้า ตามหาบานประตูมุกให้เจอ
เมื่อเสียเงิน 30 บาท ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ผมก็ไม่ได้เสียเวลามากนัก ผมก็เจอ เพราะมีการจัดแสดงอยู่ใกล้ทางเข้าไม่ไกลนัก
ตู้พระธรรม ที่เดิมเป็นของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต อยู่ที่วังบางขุนพรหม โดยใช้ส่วนที่ยังดีอยู่ ที่เดิมเป็นบานประตู ตัดเอาส่วนที่ใช้ได้มาทำเป็นตู้ ก่อนจะมาไว้ที่วังหน้า
จากนั้น ผมเดินไปตามการแนะนำเส้นทางของเจ้าหน้าที่ เพื่อไปยังส่วนจัดแสดงศิลปะประดับมุก เมื่อผ่านการเดินชมส่วนเครื่องดนตรี หัวโขน เครื่องอาวุธต่างๆ เพียงผ่านประตูระหว่างห้อง ผมก็เห็นบานประตูประดับมุกที่งดงาม ตั้งตระหง่านอยู่ในโถงจัดแสดง
บนบานประตู มีการประดับมุกเป็นรูปลักษณ์ พระอินทร์ช้างเอราวัณ พระนารายณ์ทรงครุฑ แม้ส่วนตัวอาจจะไม่มีความรู้ในเชิงศิลปะมากนัก แต่ผมทึ่งในการสร้างศิลปะบนบานประตูนี้ ซึ่งเป็นงานช่างฝีมือของอยุธยา ที่ยังสืบทอดผ่านกาลเวลา ให้เราคนรุ่นถัดมา ได้ยลศึกษา หาความรู้กัน
ลายจำหลักที่ฉลุงดงาม การวางแผ่นมุกแต่ละชิ้น เรียกได้ว่า แทบหยุดลมหายใจผม มันอาจจะอ่านแล้วดูแสดงออกเกินเหตุ แต่ถ้าคุณ รักและหลงใหลในประวัติศาสตร์ การได้เห็น ศิลปะอยุธยาของจริง ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์เบื้องหน้า มันช่างอิ่มเอม และสุขใจ จนเอ่อล้นออกมาทางอารมณ์จริง ๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง