Lifestyle

เที่ยว บ้านขุนพิทักษ์บริหาร ในวันที่ไม่ใช่ที่ ล่าท้าผี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เที่ยมชม บ้านผีเฮี้ยนในตำนาน "บ้านขุนพิทักษ์บริหาร" ในวันที่ไร้ความอาถรรพ์ เหลือไว้ซึ่งสมบัติของชุมชน โบราณสถานที่ทุกคนหลงใหล

หากพูดถึงบ้านเขียว หรือ บ้านขุนพิทักษ์บริหาร ที่ตั้งเด่นริมน้ำน้อย ของผักไห่ ยอมหนีไม่พ้น ความน่าสะพรึงกลัว เรื่องราว ตำนาน เล่าขาน ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวพัน เชื่อมโยง กับภูตผี วิญญาณสถิต ในบ้านโบราณหลังนี้ รวมทั้งที่ผ่านมา บ้านหลังนี้ เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นฉาก และ หมุดหมาย ให้นักสำรวจ นักล่าท้าผีมากหน้า หลายตา เข้ามาสำรวจตรวจพิสูจน์ ผี ในบ้านเขียวแห่งนี้ นับไม่ถ้วน จนผ่านคืนและวันไป บ้านผี กลับมาเป็นบ้านเขียว บ้านโบราณที่ทรงคุณค่า ทรงความงาม และทรงไว้ซึ่งความเป็นสมบัติของอำเภอ ชาวชุมชนรอบเรือนเขียวโบราณ ต่างให้ความใส่ใจ และสำนึกถึงคุณค่า จึงมีการอนุรักษ์อย่างจริงจัง และตั้งใจ 

เที่ยว บ้านขุนพิทักษ์บริหาร ในวันที่ไม่ใช่ที่ ล่าท้าผี

ในทุกวันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ ต่างทำกิจกรรมวัฒนธรรมชุมชน ใช้พื้นที่บ้านเขียวให้มีคุณค่า มากกว่าความหน้ากลัว รวมทั้งมีกรรมการเข้ามาดูแลตัวบ้านอย่างเป็นหลักเป็นฐาน 

ก่อนหน้านี้มีข่าวคราวที่ว่า กรมธนารักษ์ จะเปิดให้เอกชน เข้ามาเช่าพื้นที่ทำกิจกรรม หรือ ทำธุรกิจได้ แต่ส่วนตัวลึก ๆ อยากให้ชาวบ้านเป็นคนทำเรื่องตรงนี้มากกว่า และอยากให้เป็นบ้านเขียวในแบบที่ควรจะเป็น 

หากตัดประเด็นผีทิ้งจนไม่เหลือเค้าราง บ้านสไตส์ฝรั่ง แบบฉบับนิยมช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 -รัชกาลที่ 6 หลังนี้ ถือว่า เป็นบ้านเก่าแบบยุโรปผสมไทยนิยม เพียงไม่กี่แห่งที่ยังแข็งแรง และมีโครงสร้างที่เด่นชัด ไม่ผุหายสลายผังลงไป 

เที่ยว บ้านขุนพิทักษ์บริหาร ในวันที่ไม่ใช่ที่ ล่าท้าผี


เมื่อสำรวจเดินเล่นในบ้าน พบว่า บ้านสะอาดสะอ้าน ด้วยแรงทำความสะอาดของชาวบ้านที่เข้ามาดูแลกันไม่ขาดวัน นักท่องเที่ยว แม้จะบางตาไปบ้างในช่วงโควิด แต่คนที่หลงใหล ในบ้านเก่า อาคารโบราณ ก็มักจะแวะเวียนมาสม่ำเสมอ ไม่ได้ขาด  มุมยอดนิยม ถ้าไม่นับโต๊ะโยกเก้าอี้หวาย ที่วางเด่น

เที่ยว บ้านขุนพิทักษ์บริหาร ในวันที่ไม่ใช่ที่ ล่าท้าผี

 

โซนบันไดขึ้นชั้นสอง ที่ออกแบบมาอย่างลงตัวนั้น เป็นจุดที่นัดถ่ายภาพ และผู้ที่ต้องการภาพถ่ายเป็นที่ระลึก มักจะวนเวียนเก็บความทรงจำกันตรงนี้ ซึ่งเห็นภาพในโซเชี่ยลมีเดียจำนวนไม่น้อย  ตลอดแนวชั้นสอง แม้ทุกย่างก้าว ที่ขยับเดินนั้น แผ่นไม้สักจะส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ให้หวั่นใจบ้าง ด้วยเมื่อนึกว่าเป็นบ้านเก่า แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ต้องยกให้กับการออกแบบ และการใช้วัสดุ แผ่นกระดานไม้สักแผ่นใหญ่ หนา หนัก และแข็งแกร่งสมศักดิ์ศรี เมื่อย้อนหนึ่งถึงวันเวลาที่มันได้ล่วงผ่านมา ชานกันแดด กันฝน ที่หันหน้าสู่แม่น้ำน้อย รวมทั้งตัวบ้าน เวลาผ่านไปนานเท่านาน แต่กระเบื้องอย่างดี ที่สั่งตรงมาจากอิตาลี กลับยังคงอวดลวดลายแจ่มชัด แม้จะกร่อนสึกไปตามกาล แต่ความงามไม่ด้อยลง 

เที่ยว บ้านขุนพิทักษ์บริหาร ในวันที่ไม่ใช่ที่ ล่าท้าผี
 


สิ่งที่น่าเสียดายคือเรือนไม้ที่เคยถูกระบุว่ามีอีก 2 หลังในอาณาบริเวณนี้ได้ผุพังไปตามกาลเวลาเหลือเพียงเรือนใหญ่ที่ยืนอยู่ในตอนนี้ รวมทั้งยังได้เจอตู้เก็บเอกสารที่ถูกสั่งตรงมาจากประเทศเยอรมนีแม้ในปัจจุบันจะมีคราบสนิมขึ้นอยู่เป็นจุดจุดแต่ด้วยสภาพของตัวตู้นิรภัยหลังนี้ยังดูแข็งแรงและเชื่อว่ายังสามารถใช้ได้หากจะใช้งานจริงขึ้นมาอีกครั้ง

เที่ยว บ้านขุนพิทักษ์บริหาร ในวันที่ไม่ใช่ที่ ล่าท้าผี
แม้ผมจะเป็นผู้ที่มีความเชื่อถือและเชื่อมั่นในเรื่องราวของไสยเวทวิทยาคมและภูตผีปีศาจก็ตามแต่ส่วนตัวผมเชื่อว่าท่านเจ้าของบ้านนั่นก็คือขุนพิทักษ์บริหารถ้าท่านยังอยู่ในบ้านหลังนี้ ท่านต้องภูมิใจและยินดีในการที่มีคนมาเยือนบ้านของท่านและได้รับความใส่ใจในฐานะโบราณสถานไม่ใช่แหล่งเอาไว้ให้คนมาล่าท้าผี

เที่ยว บ้านขุนพิทักษ์บริหาร ในวันที่ไม่ใช่ที่ ล่าท้าผี
สำหรับประวัติ ขุนพิทักษ์บริหาร หรือ พึ่ง มิลินทวนิช เป็นนายแขวงเสนาใหญ่ คือ อำเภอผักไห่ในปัจจุบัน เคยเข้ารับใช้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ภรรยา คือ นางจ่าง มิลินทวนิช ขุนพิทักษ์บริหารนั้น เป็นเจ้าของกิจการเรือสองชั้นที่เรียกว่า เรือเขียว ซึ่งเป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ มีจำนวน 10 กว่าลำ รับส่งผู้โดยสารระหว่างผักไห่-ท่าเตียน กรุงเทพฯ และผักไห่-ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ จึงทำให้การค้าขายบริเวณนี้ เจริญรุ่งเรือง ต่อมาในภายหลัง เมื่อท่านขุนพิกษ์บริหาร ได้ถึงแก่กรรมลง ลูกหลานได้ย้ายถิ่นที่อยู่ อพยพมาตั้งรกรากที่กรงเทพฯ บ้านเขียวก็ไม่มีผู้อยู่อาศัยแต่อย่างใด จนเมื่อ พ.ศ.2505 แม่จ่างภรรยาท่านขุนได้ยกบ้านให้หลวง เพื่อให้ใช้ประโยชน์ทางราชการต่อไป ซึ่งมีหนังสือในการยกบ้านอย่างเป็นทางการให้กับ กระทรวงมหาดไทย โดยมีสำเนาเอกสารดังกล่าวอยู่ภายในบ้านโบราณแห่งนี้ด้วย 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ