เที่ยวชม "วัดเพลง" โบราณสถานกลางสวน ในย่านบางกรวย นนทบุรี ศิลปะการก่อสร้างในยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ในวันหยุดยาว หลายคนเดินทางออกไปท่องเที่ยว ต่างจังหวัด อยู่กับครอบครัว แต่ก็ต้องระวังการกลับมาของเชื้อร้ายโควิด กันอย่างแข็งขัน และนั่นก็เป็นเหตุผล ให้ผมค้นหาที่เที่ยวห่างผู้คนสักหน่อย แต่ไม่ไกลเกินเดินทาง จนได้ข้อมูลว่า มีโบราณสถาน อยู่ในย่านบางกรวย นนทบุรี ผมควบรถจักรยานยนต์คู่ใจ ข้ามสะพานพระราม7 มุ่งหน้าสู่บางกรวย เส้นทางที่เรียกว่า เป็น เขาวงกต ย่อม ๆ ก็ว่าได้
เมื่อจับเส้นทางตาม GPS ผมกบ็พาตัวเอง มาใกล้เคียงกับโบราณสถานที่ตามหา วัดเพลง อารามร้าง ยิ่งใกล้ถึง เส้นทาง ก็ลึกเข้าไปในท้องสวน ห่างถนนสายหลักไปเรื่อย ๆ แต่ยังมั่นใจว่า มาถูกทาง จนพิกัดแจ้งเตือนว่าถึงแล้ว ผมจอดรถที่หน้ารั้วประตูบ้านกลางสวนหลังหนึ่ง แต่ไร้แวววัดร้าง
"หนุ่มต้องขับรถไปทางวัดสักใหญ่ นู่นล่ะ ใคร ที่จะหาวัดเพลง มักจะหลงมาตรงนี้บ่อย ๆ " คุณลุงเจ้าของบ้าน เดินออกมาบอกเส้นทาง เมื่อผมตะโกนถามทางเข้าไป
เมื่อทราบพิกัดใหม่ ผมมุ่งหน้าสู่วัดสักใหญ่ ตรงเข้าไป วนหา ก็ไม่เจอ จนคนขายล็อตตารี่บอกว่า ต้องออกไปทางหลังวัด จนไปเจอถนนอีกเส้น ทางที่ว่า กว้างกว่าแฮนด์มอเตอร์ไซต์ผมไม่ถึงคืบ ค่อย ๆ ขยับรถออกไป เลาะไปตามทางปูน แบบไม่มีจุดหมาย เพียงแค่ว่ามองไปเห็นรถจอด และก็เห็นป้าย "วัดเพลง" โบราณสถาน
ในที่สุดเมื่อถึงจุดหมาย เบื้องหน้าคือโบสถ์ขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่าน กลางพื้นที่สวนของชาวบ้าน ซึ่งบอกได้เต็มปากว่า งดงาม
สำหรับประวัติของ"วัดเพลง"แห่งนี้ เท่าที่สืบหาข้อมูลได้ แต่เดิม มีชื่อว่า วัดทองเพลง ตั้งอยู่ริมคลองวัดสักใหญ่ มีการสันนิษฐานตามลักษณะสถาปัตยกรรมและลายปูนปั้น จั่วหน้าบันพระอุโบสถ หลั่นสามชั้น คาดว่า น่าจะสร้างขึ้น ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และอาจมีสภาพเป็นวัดร้างมาตั้งแต่คราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เมื่อทัพพม่าซึ่งยกมาจากทางใต้ได้ตั้งค่ายรบ บริเวณวัดเขมาภิรตาราม ทำให้ผู้คนเกิดความหวาดกลัวและหนีพม่าไป วัดจึงมีสภาพร้างมายาวนาน ก่อนที่กรมศิลปากร จะเข้ามาบูรณะ
สำหรับตัวพระอุโบสถ มีลักษณะที่สูงมาก ยาวขนาด 6 ห้อง ตรงมุมย่อไม้สิบสอง เสาตรงซุ้มประตูประดับลายปูนปั้น คานไม้ตรงซุ้มประตู และเหนือคานขึ้นไปเป็นไม้มีลวดลงรักปิดทองกนกเปลวเพลิง ฝาผนังด้านหลังมีพระประธานมีร่องรอยจิตรกรรมหลงเหลืออยู่ราง ๆ
เป็นลายดอกไม้ร่วงบนพื้นสีแดง พระอุโบสถเหลือเพียงผนังสี่ด้าน ไม่มีหลังคาและบานประตู หน้าต่าง แต่เดิมก่อนจะมีการบูรณะมีต้นไทรขึ้นปกคลุม ช่วยยึดผนังอุโบสถทั้งสี่ด้าน ไม่ให้พังทลายลงมา
ด้านพระประธานนั้น มีชื่อเรียกว่า หลวงพ่ออู่ทอง หรือ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปหินทรายแดง หุ้มปูนลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3 ใน 4ของความกว้างพระอุโบสถ พระพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปสมัยอู่ทอง จึงเชื่อได้ว่า เป็นที่มาของชื่อ และพระพุทธรูปหินทรายแดงแบบนี้ มีอยู่ที่โบราณสถาน วัดมะนาว ที่สถานีตำรวจภูธร บางกรวย เช่นกัน
ผมเดินสำรวจทั้งรอบพื้นที่ และรอบพระอุโบสถ อย่างช้า ๆ เมื่อลืมเวลาไปเลยทีเดียว มองหลวงพ่ออู่ทองด้วยความอิ่มใจ และชอบที่มีวัดแบบนี้อยู่กลางสวน ทำให้อากาศที่ร้อน ที่พบเจอมาหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ
หากใครสนใจ อยากมาเที่ยว มาไหว้พระบ้าง ตามรอยผมได้ครับ รับรอง จะประทับใจเช่นเดียวกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง