Lifestyle

"พลูสองหาง" เครื่องรางล้านนา เสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"พลูสองหาง" หนึ่งในเครื่องรางสายล้านนา เชื่อกันว่ามีอานุภาพทางด้านเมตตามหานิยมสูง มหาเสน่ห์รุนแรงยิ่งนัก ผู้ใดพกไว้ติดดัวจะเป็นที่รักใคร่ชอบพอของผู้ที่พบเห็น

ความรักความชอบเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก และบ่อยครั้งที่ความรักจบลงที่ความผิดหวัง หรือแทบจะสิ้นหวัง จนต้องหันหน้าไปพึ่งพาตัวช่วย ซึ่งวัตถุมงคลก็เป็นหนึ่งในที่พึ่งทางใจที่ผู้คนใฝ่หา ไม่ว่าจะเป็นการทำเทียนให้รักให้เสน่หา สีผึ้ง แป้งผัดหน้า ทำรูปทำรอย และใช้ตะกรุดเครื่องยันต์

 

"พลูสองหาง" เชื่อกันอย่างกว้างขวางในล้านนาทุกแถบถิ่นว่า ใบพลูที่มีลักษณะแตกเป็นสองแฉกที่ส่วนปลายใบนั้น มีอานุภาพทางด้านเมตตามหานิยมสูง มหาเสน่ห์รุนแรงยิ่งนัก ผู้ใดพกไว้ติดดัวจะเป็นที่รักใคร่ชอบพอของผู้ที่พบเห็น ยิ่งถ้าได้ลงอักขระขลังยิ่งเพิ่มพลังให้เข้ม พลูสองหางจึงเป็นที่ปรารถนาของเหล่าพ่อค้าแม่ค้า นักพูด นักเทศน์ศิลปินนักแสดง

 

 

 

ผู้ใดแอบพึงพอใจเพศตรงข้ามมักเขียนชื่อคนที่ตนพอใจใส่ใบ "พลูสองหาง" แล้วพับใส่ "ยันต์หนีบ" เก็บไว้ใต้หมอนหรือใต้ที่นอน สวดบริกรรมอักขระคาถาทุกค่ำคืน เชื่อว่าเจ้าของชื่อจะหลงรักผู้นั้นสุดจิตสุดใจ อย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น

 

คำว่าหนีบ ในที่นี้หมายถึง ประกบ การบีบรัด การกดทับ โดยวิธีทำนั้นจะกระทำโดย การนำแผ่นเงิน แผ่นคำหรือแผ่นตอง โดยเอาทั้ง 2 ด้านของแผ่นยันต์มาประกบเข้าสิ่งของที่อยู่ข้างใน ทำให้บุคคลที่ถูกทำด้วย การทำ ยันต์หนีบ ตกอยู่ในอาการลุ่มหลงผู้ที่ทำ เกิดความสิเน่หา เกิดความรักใคร่ ลุ่มหลง ซึ่งถือว่าเป็นศาสตร์แห่งวิชาทางไสยศาสตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และนิยมกันมากในสายล้านนาตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน

 

 

 

ยันต์หนีบ ของทางล้านนา อาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละตำรา แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีลักษณะเป็นแผ่นโลหะ ที่พบเห็นมีทั้งที่เป็นทองแดง ทองเหลือง เนื้อเงินมีพบบ้างแต่ไม่มาก แผ่นโลหะที่ใช้ทำยันต์หนีบเหล่านี้คล้ายๆ กับแผ่นโลหะที่ใช้ทำตะกรุดทั่วไป ต่างกันที่หลังจากลงอักขระเลขยันต์แล้ว จะไม่ม้วนเป็นแท่งกลมๆ เหมือนตะกรุด แต่จะพับทบเป็นแผ่นสองด้านประกบกัน ปลายด้านหนึ่งอาจจะม้วนเพียงเล็กน้อย แค่พอที่จะสอดสายตะกรุด

 

การทำ ยันต์หนีบ ของทางล้านนานั้นไม่มีมาตรฐานที่ตายตัว แต่ละสำนักแต่ละสายนั้นจะมีการผูกยันต์ขึ้นมาใช้เอง เรียกว่าเป็นสูตรเฉพาะของแต่ละสำนักเลยก็ว่าได้ บางแห่งพบว่ามีการลงอักขระเป็นตัวเลขก็มี บางแห่งเป็นตัวอักขระคาถาก็มี

 

ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับ "พลูสองหาง"

 

เนื่องจากพลูเป็นพืชที่ใช้ในพิธีกรรมมากมาย จึงมีข้อปฏิบัติจำเพาะได้แก่คนปลูกต้นพลูต้องเป็นคน "มือเย็น" ห้ามคนถืออาคมขลังด้านคงกระพันเก็บใบพลู เฉพาะงานศพต้อง “ซื้อ” ใบพลู ห้ามขอ และที่สำคัญห้ามตัดทำลายโดยไม่มีสาเหตุเพียงพอ

 

การปลูกต้นพลู คนโบราณ จะไหว้วานคนที่ปลูกต้นไม้ชนิดไหนก็ขึ้น เรียกกันว่าเป็นคน “ มือเย็น ” ในทางตรงกันข้าม คนที่มักปลูกต้นไม้ไม่ค่อยขึ้นก็เป็นคน "มือร้อน" คนมือเย็นส่วนใหญ่เกิดวันอาทิตย์ และวันพฤหัสบดี คนมือร้อนมักเป็นคนเกิดวันอังคารหรือวันเสาร์ ดังนั้นจึงนิยมให้คนเกิดวันอาทิตย์หรือวันพฤหัสบดีเป็นผู้ปลูกต้นพลู

 

ในการเก็บเกี่ยวใบพลูจากต้นนั้น ห้ามคนที่ถืออาคมขลังประเภทคงกระพัน ด้วยถือว่าอาคมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ร้อนแรง หากปล่อยให้คนประเภทนี้เก็บใบพลู ต้นพลูจะเฉาตายไปในที่สุด ข้อห้ามอีกอย่างหนึ่งคือกรณีงานศพ หากต้องการใบพลูนั้นห้ามขอจากเจ้าของโดยเด็ดขาด ต้องซื้อเอาไม่ว่าจะให้ราคามากหรือน้อย ก็ให้ถือเคล็ดว่าเป็นการซื้อ เพราะถ้าไม่ปฏิบัติเช่นนั้น ต้นพลูก็จะเฉาตายในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน

 

ปัจจุบัน การบริโภคใบพลูลดลงพร้อมกับการบริโภคหมาก แต่ก็ยังพบการใช้พลูในพิธีกรรมต่างๆ เช่น ในเครื่องคำนับครูจะมีการจัด “หมากคำ พลูใบ” ไหมากหัว พลูมัด” ในเครื่องสักการะ เช่น พลูสุ่ม ต้นพลู เป็นต้น จึงนับว่าพลูยังมีบทบาทในวิถีชีวิตแบบล้านนา ตราบใดที่ยังมีค่านิยมเชื่อมโยงกับอดีตในเชิงวัฒนธรรมความเชื่อหลงเหลืออยู่

 

ที่มาข้อมูล-ภาพ : เพจเฟซบุ๊ก เทียนมหาเศรษฐีดวงดี แก้กรรมสะเดาะเคราะห์เปลี่ยนชีวิตพลิกโชคชะตา

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ