แนะเทคนิค ฟื้นผิว "หมองคล้ำ" ให้สว่างกระจ่างใส สุขภาพดี
'ธัญ’ (THANN) ร่วมกับ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นฟูสภาพผิวจากความ "หมองคล้ำ" ให้สว่างกระจ่างใสอย่างมีสุขภาพดี
ในแต่ละวันเราต้องเผชิญกับแสงแดด มลภาวะ ฝุ่นควัน การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่เราคุ้นชินที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิว เช่น การสูบบุหรี่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การทำความสะอาดใบหน้าอย่างไม่เหมาะสม ทำให้ผิวเกิดความ "หมองคล้ำ" โดยไม่รู้ตัว ‘ธัญ’ (THANN) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและความงามร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงสุรีย์รัตน์ ศรีตั้งรัตนกุล แนะ “วิธีฟื้นฟูสภาพผิวจากความหมองคล้ำให้สว่างกระจ่างใสอย่างมีสุขภาพดี”
แพทย์หญิงสุรีย์รัตน์ ศรีตั้งรัตนกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ได้แนะนำวิธีรับมือกับปัญหาผิวหมองคล้ำให้กลับมาสวยกระจ่างใสอย่างมีสุขภาพดีว่า ปัญหาผิว "หมองคล้ำ" ไม่สดใส เกิดได้จาก 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ซึ่งปัจจัยภายในจะเกี่ยวข้องกับระบบของร่างกายเรา เช่น การรับประทานอาหาร ระบบขับถ่าย การพักผ่อน อารมณ์ และความเครียด ส่วนปัจจัยภายนอกที่คอยทำร้ายผิวสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ มลภาวะ แสงแดด ฝุ่นละออง สภาพอากาศ การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การอาบน้ำร้อน รวมถึงการทำความสะอาดผิวอย่างไม่ถูกวิธี สำหรับวิธีฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กลับมาสวยอย่างมีสุขภาพดี ควรดูแลควบคู่กันไปทั้งภายในและภายนอก โดยสามารถทำได้ดังนี้
- ล้างทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง โดยเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนนวดไปบนใบหน้าตามแนวรูขุมขน 15-20 วินาที แล้วใช้น้ำเปล่าล้างออก และปิดท้ายด้วยการใช้โทนเนอร์ เพื่อกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้พร้อมสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไป
- มาส์กหน้าเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวให้สว่างใส อย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง แนะนำให้เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการคืนความกระจ่างใสสู่ผิว อาทิ สารสกัดจากผลองุ่น และสารสกัดจากรากหม่อน หรือกลุ่มที่เพิ่มความชุ่มชื้นสู่ผิว อาทิ สารสกัดจากพืชทะเลทราย, สารสกัดจากทีฮาโลส หรือสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอ่อนๆ อย่าง AHA หรือกรดผลไม้ที่อ่อนโยน รวมถึงสารสกัดที่สามารถลดเลือนริ้วรอย
- ทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ และยูวีบี เป็นประจำ โดยพิจารณาปัจจัยหลักในการปกป้องผิวจากรังสียูวีแต่ละประเภทได้จากค่า SPF (Sun Protection Factor) คือ ค่าที่บอกถึงประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสียูวีบี เป็นค่าระยะเวลาที่ผิวสามารถทนต่อแสงแดดได้โดยที่ผิวเราไม่ไหม้ และค่า PA (Protection grade of UVA) คือค่าที่บอกถึงประสิทธิภาพในการปกป้องรังสียูวีเอ โดยใช้เครื่องหมายบวก (+) ในการแสดงระดับของประสิทธิภาพ ปัจจุบันค่า PA++++ ถือว่าเป็นค่าที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีเอสูงสุด
- หากวันไหนที่อยู่บ้านหรือไม่ได้ออกไปไหน แนะนำว่าไม่ต้องแต่งหน้าเลย เพื่อเป็นการพักผิวหน้า แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรแต่งหน้าบาง ๆ และล้างทำความสะอาดใบหน้าทุกครั้ง
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ สามารถคำนวณได้จากน้ำหนักตัว (ก.ก.) x 33 =… ซีซี (1,000 ซีซี = 1 ลิตร, 1 ลิตร = 4 แก้ว) เพราะน้ำสะอาดจะช่วยให้เซลล์และระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง สดใส
- เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวเป็นประจำ เช่น มะเขือเทศ ส้ม มะนาว ผลเบอร์รี่ต่างๆ ธัญพืช ปลาทะเล
ทั้งนี้ผิวหน้าของเราประกอบด้วยระบบเลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนอยู่ใต้ชั้นผิว ซึ่งเป็นการนำสารอาหารที่มีประโยชน์ไปเลี้ยงเซลล์ผิวและส่วนต่างๆ บนใบหน้า หากการไหลเวียนของระบบเลือดและน้ำเหลืองเกิดการติดขัด ผิวหน้าของเราจะแสดงออกมาในรูปแบบของปัญหาผิวต่างๆ เช่น ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส หรือสิว เป็นต้น การใช้เทคนิคการนวดเพื่อกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองให้ดีขึ้น ทำให้ผิวสดใส แข็งแรง แลดูสุขภาพดี เปรียบเสมือนการทำดีท็อกซ์ผิวหน้าแบบง่ายๆ อีกวิธีหนึ่งซึ่งสามารถทำได้เองที่บ้าน
เทคนิคการนวดเพื่อกระตุ้นระบบน้ำเหลือง