ย้อนอดีต วัยทำงาน ยุคก่อน "กาแฟ" ดริป เขากินอะไรกัน เกิดทันไหมร้านกาแฟโบราณ

กระทู้พา ย้อนอดีต อ่านเเล้วพาย้อนวัยกลับไปหลายปี บางคนเกิดไม่ทันด้วยซ้ำ ในยุคสมัยที่คาเฟ่ ร้าน "กาแฟ" รุ่งเรือง ราคาต่อแก้วหลักร้อยบาท ทำให้หลายคนสงสัยว่าที่ผ่านมา วัยทำงาน คนออฟฟิศเขากินอะไรกัน เช่นเดียวกับเจ้าของกระทู้รายนี้ ที่โพสต์ถามชาวเน็ต "สมัยก่อนกาแฟบูม วัยทำงานหรือคนทำงาน office กินอะไรครับ"

 

เนื่องจากเจ้าของกระทู้เห็นว่า สมัยนี้กาแฟแทบจะเป็นอันดับ 1 ในวัยทำงาน กาแฟ ชา ชม  เข้ามาเป็นเครื่องดื่มหลัก แล้วสมัยก่อนกาแฟจะบูมวัยนี้เขาดื่มอะไรกัน ถ้าเป็นวัยเด็กก็คงตอบว่า น้ำหวาน น้ำอัดลม

คำตอบเรื่อง "กาแฟ" ที่ได้จากชาวเน็ต ทำเอาหลายคนต้องอมยิ้ม นั่งนึกถึงวันวาน หลายคนกลับไปนึกถึงตัวเอง วัยทำงาน ใหม่ ๆ ย้อนยุค กลับไปยาว ๆ ก่อนมีครอบครัว ส่วนคอมเมนต์สุดท้ายที่เลือกมาให้อ่าน เพราะเจ้าของคอมเมนต์อธิบายไว้ยาว เล่าได้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของการกินกาเเฟแต่ละยุคสมัยจริง ๆ 

"ก็กาแฟนั่นแหล่ะครับ มันคือกาแฟผงเป็นของฟรีตามออฟฟิศน่ะ ตักกินฟรีกันทุกเช้าบ่าย ยุคนี้แค่เปลี่ยนเป็นจากกาแฟผงเป็นกาแฟสด"

 

"30 กว่าปีก่อนก็กาแฟผงสำเร็จรูป+น้ำตาล+คอฟฟี่เมท ชงเองที่ออฟฟิศค่ะ เช้าจากบ้าน 1 สาย ๆ ชงที่ออฟฟิศแก้วโต ๆ จิบยาว ๆ ไปค่ะ "

 

"น้ำอัดลม ใส่แก้วกระดาษเคลือบเทียน น้ำรถเข็นที่ใส่โหลใหญ่ตักแบ่งขาย เช่นน้ำใบบัวก, ลอดช่องสิงคโปร์, น้ำส้ม ฯลฯ สมัยก่อนยุค 80-90 แค่น้ำดื่ม คนไทยยังไม่เรื่องมากหรืออนามัยจัด มีแค่โพลาริสกับ น้ำสิงห์ (ส่วนใหญ่ผสมเหล้าดื่ม) แค่น้ำกรอง หรือประปาต้มก็อยู่ได้แล้ว บางทีก็กดดื่มจากก๊อกสาธารณะก็มีนะครับ"

"โอเลี้ยง ชาไทยเย็น นมชมพูเย็น จับเลี้ยง น้ำใบบัวบก เก็กฮวย"

"กาแฟ,ชาเย็น รถเข็น" 

"ชาดำเย็น ผมซื้อสมัยถุงละ 3 บ."

"เก๊กฮวยร้านโชว์ห่วยกับเค้กส้ม"

"เจ้าของกระทู้คงหมายถึงยุคที่ร้านกาแฟบูม ทั้งร้านดังๆ และ ร้านข้างทาง หากินกาแฟได้ทั่วไปและง่ายๆ
สมัยก่อนก็กาแฟนึ้ละครับ สมัยพ่อผม ที่ทำงานมี กาแฟชนิดเกล็ดบรรจุขวด คอฟฟีเมต น้ำตาล  กาน้ำร้อน ครับ พอยุคใหม่บางบริษัททันสมัยหน่อยมีเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติให้ครับ"

 

"ก็กินดื่มกาแฟนี่แหละ เพียงแต่รูปแบบร้าน สถานที่ ไลฟ์สไตล์ มันต่างกันตามยุคตามสมัย

เท่าที่พอจะจำความได้ก็เริ่มตั้งแต่ร้านกาแฟที่คนสมัยนี้เรียกขานกันว่า กาแฟโบราณ
มันมีทั้งร้านเล็กร้านใหญ่ร้านดัง เช่น เอี๊ยะแซ กับร้านอื่น ๆ ซึ่งนึกชื่อไม่ออก ร้านพวกนี้จัดว่าเป็นร้านหรูในสมัยก่อน หลาย ๆ ร้านมักจะมีกระดานหมากรุกไว้ให้ลูกค้านั่งเล่นกัน มีหนังสือพิมพ์ให้อ่านแล้วเสวนากัน
ประเด็นที่เสวนากันออกรสที่สุดก็ไม่พ้นเรื่องการเมือง ซึ่งเขาเรียกว่า "สภากาแฟ" แต่ไม่ถ่อยเหมือนสมัยนี้นะครับ ส่วนร้านเล็กร้านน้อยในยุคนี้ก็เป็นห้องแถวเล็กลงมา จะอยู่ตามตรอกซอกซอยเล็กซอยน้อย เป็นร้านอาโกอาแปะ มีของขายคล้าย ๆ ร้านใหญ่เพียงแต่น้อยกว่า ไม่มีกระป๋องโอวัลตินไมโลตั้งโชว์มากนัก แต่มีปาท่องโก๋กับขนมไข่

จากนั้นก็จะมาเป็นยุคเบเกอรี่ที่มีกาแฟ ไอศกรีม และอาหารเบาๆในแนวฝรั่ง ตั้งแต่ชุดอาหารเช้าไข่ดาวหมูแฮม ข้าวผัดอเมริกันมันก็เกิดในสมัยนี้แหละ เพราะมันเป็นยุคสงครามเวียดนามที่มีทหารอเมริกันเต็มไปหมด

ไอติมโบราณก็อัพเกรดมาเป็นไอศกรีมบานาน่าสปริต ร้านกาแฟก็พัฒนาเป็นร้านติดแอร์เรียกกันว่า คอฟฟี่ช้อป มีทั้งในล็อบบี้โรงแรมและข้างนอกโซนท่องเที่ยวหรูหราของยุคนั้น ร้านเบเกอรี่ก็จะมี กานดาเบเกอรี่ ประจักษ์เบเกอรี่

ส่วนร้านไอศกรีมของเหล่าวัยรุ่นน่ะเหรอ ศาลาโฟรโมสต์นั่นปะไร อยากรู้วัยรุ่นยุคนั้นเป็นยังไง ไพโรจน์ สังวริบุตร นั่นไงดูเอา

 

และแล้วร้านฟาสต์ฟู้ดก็ทะยอยกำเนิดเกิดขึ้นมา ห้างสรรพสินค้าก็มีมากขึ้น ฟาสต์ฟู้ดก็มีทั้งในห้างและนอกห้าง ส่วนที่เปิดข้างนอกที่เป็นโซนธุรกิจและแฟชั่น สยามสแควร์ยืนหนึ่ง กาแฟก็จะไปแทรกอยู่ตามป้ายเมนูร้านเหล่านี้ ทั้งร้านโดนัททั้งสองค่าย ไม่เว้นแม้แต่ร้านขายไก่ ขายแฮมเบอร์เกอร์ ก็จะมีกาแฟให้ดื่มกินทุกๆร้านไป 

 

จากนั้นพัฒนาการของร้านกาแฟก็โตขึ้นเรื่อยทั้งในห้างนอกห้างแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ แบรนด์ใหม่ๆรอแจ้งเกิดส่วนมากจะเป็นกาแฟสด ทั้งนำเข้าและปลูกเองในประเทศ มีทั้งดื่มที่ร้านและชงดื่มเองที่บ้านหรือที่ทำงาน จนมาถึงยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กในปัจจุบัน ที่แต่ละคนมีสมาร์ทโฟนติดกล้องดิจิตอลคุณภาพสูง เอาไว้ถ่ายอาหารเครื่องดื่มโชว์ ส่วนคุณภาพรสชาติกาแฟจะเป็นยังไงกูไม่สน ถ่ายแหลกแล้วค่อย-มัน ฮ่า!

 

ไม่รู้จะเล่าหรือโม้อะไรต่อแล้ว ชักรู้สึกตัน ๆ หลง ๆ ลืม ๆ ขาดตกอะไรไปในยุคไหนก็ขออภัยด้วย หากจะช่วยเสริมก็คงจะดี

สำหรับกาแฟสำเร็จรูปต่าง ๆ ไม่ได้ลืมเล่า แต่ขอไม่เล่าเพราะมันเป็นกาแฟแบบบ้าน ๆ ที่แทรกอยู่ทุกยุคสมัย
ส่วนตัวผมเองเมื่อก่อนก็ไม่ค่อยจะได้ดื่มอะไรดีๆหรอก ดื่มมั่งไม่ดื่มมั่ง มีอะไรง่าย ๆ ก็ได้ทั้งนั้น จะดื่มมันก็ตอนแฮงค์เท่านั้นแหละ

ทุกวันนี้มีกาแฟ suzuki swiss blend อยู่ติดบ้านกับอุปกรณ์ชงแบบ diy และถือเอาตัวนี้เป็นตัวจบ ร้านดัง ๆไม่ได้แอ้มผมหรอก ยิ่งของร้านป่าดงดิบนั่น ไม่ได้ใกล้เคียงเทียบชั้นกับที่ผมดื่มทุกวันได้เลย ไม่ว่ารสและกลิ่น ส่วนบรรยากาศมันสร้างขึ้นได้ เอาล่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบ ขอตัวไปล้างถ้วยกาแฟก่อนครับ สวัสดี"

 

คลิกอ่านกระทู้