ไลฟ์สไตล์

ยายใฮรับป.โทปีติเฝ้าฯพระเทพฯ-จี้คนไทยรักกัน

ยายใฮรับป.โทปีติเฝ้าฯพระเทพฯ-จี้คนไทยรักกัน

10 มี.ค. 2553

ม.รามฯ มอบ ป.โท สาขารัฐศาสตร์ให้ "ยายใฮ ขันจันทา" ยกย่องเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอย่างสันติมานาน 32 ปี กลายเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ของชาวบ้าน ชูเป็นต้นแบบคนในสังคมให้เห็นคุณค่าความรู้และการศึกษา "ยายใฮ" ปลื้มปีติเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพฯ ลั่นชีวิตยึดหลั

 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2553 รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.) เปิดเผยว่า ปีนี้มหาวิทยาลัยจัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรขึ้นในวันที่ 8-12 มีนาคมนี้ โดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมไทยหลายคนเข้ารับพระราชทานปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นมียายใฮ ขันจันทา อายุ 81 ปี ชาวบ้านกิ่ง อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ซึ่งต่อสู้เรื่องที่ดินทำกินโครงการห้วยละห้า   จ.อุบลราชธานี นานถึง 32 ปีรวมอยู่ด้วย เนื่องจากยายใฮเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนมายาวนาน  เพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมในที่ดินทำกินของตนอย่างอดทน และเป็นไปตามแนวทางสันติวิธี ตลอดระยะเวลา 32 ปี

 อธิการบดี ม.รามคำแหง กล่าวอีกว่า ยายใฮออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมจากรัฐบาล เนื่องจากที่นาถูกน้ำท่วมจากการสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยละห้า ทั้งนี้การต่อสู้ของยายใฮนั้นมีอุปสรรคมากมาย เพราะชาวบ้านมีทั้งสนับสนุนและคัดค้านจากโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยละห้าซึ่งมีผลกระทบทำให้น้ำท่วมที่นาของยายใฮและชาวบ้านอีกจำนวนมาก แต่ยายใฮพยายามต่อรองจนประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันในปี 2537 ยายใฮได้ร่วมมือต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนกับสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน สมัชชาคนจน ชาวบ้านเขื่อนปากมูล รวมทั้งประชาชนกลุ่มอื่นๆ เรียกร้องความเป็นธรรมจนประสบความสำเร็จ กระทั่งยายใฮกลายเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ของประชาชนคนหนึ่งในการเรียกร้องสิทธิในทรัพย์สินของตนกลับคืน และความไม่เป็นธรรมอื่นๆ ตามกฎหมายตลอดมา

 "จากการที่ยายใฮเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนตลอดระยะเวลา 32 ปี ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ ทั้งจาการดิ้นรนในการดำรงชีพของตนและครอบครัว ชุมชนและชาวบ้านนาตาล กับเจ้าหน้าที่ข้าราชการและรัฐบาลต่างๆ จนประสบความสำเร็จ มหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติปริญญารัฐศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เพื่อเป็นเกียรติสืบไป" รศ.คิม กล่าว

 อธิการบดี ม.รามคำแหง กล่าวด้วยว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ ม.รามคำแหงได้มอบปริญญารัฐศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ผู้ที่ถือว่าเป็นนักสู้ เพื่อรักษาสิทธิ์อันพึงมีของตนเอง โดยไม่ย่อท้อแม้จะเจออุปสรรคมากมาย และเพื่อเป็นต้นแบบของคนในสังคมให้เห็นคุณค่าของการศึกษา เพราะยายใฮเป็นผู้ที่ไม่ได้มีโอกาสทางการศึกษามาก แต่ด้วยความพยายาม มุมานะ ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง จนกระทั่งสามารถเรียกร้องสิทธิตามแนวสันติวิธี

 “ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยจะมอบปริญญามหาบัณฑิตแก่ปราชญ์ชาวบ้าน หรือหมอสมุนไพร เพราะถือเป็นผู้ทำประโยชน์แก่ผู้อื่น แต่การมอบปริญญาแก่ยายใฮ เพราะต้องการให้เด็กรุ่นใหม่ได้เห็นถึงความอดทน และความรู้เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น อีกทั้งจะได้ยึดยายใฮเป็นตัวอย่าง เนื่องจากระยะเวลา 32 ปี แม้ยายใฮจะไม่ได้เรียนหนังสือในห้องเรียนของมหาวิทยาลัย แต่ยายใฮก็พยายามศึกษาหาความรู้ ดังนั้นนักเรียนผู้ที่มีโอกาสทางการศึกษาก็ควรใช้เวลาในการศึกษาให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด” รศ.คิม กล่าว

 รศ.คิม กล่าวต่อไปว่า ในการมอบปริญญาบัตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยจะมอบแก่ผู้ที่ควรค่าแก่การยกย่อง และทำคุณประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยต่อประเทศชาติ จึงอยากฝากคนไทยทุกคนเห็นคุณค่าของการศึกษา และการทำประโยชน์ต่อประเทศชาติ

 ด้านยายใฮ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่วันนี้แม้จบแค่ชั้น ป.4 เพราะฐานะยากจน แต่ได้รับปริญญาและตื่นเต้นที่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานปริญญาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งนี้สิ่งที่ยึดถือมาตลอดคือความถูกต้องทำให้ต้องออกมาเรียกร้องที่ทำกินเพราะยากจน ชีวิตลำบากไปหมดทุกสิ่งทุกอย่างทั้งกายและใจ ขอฝากลูกหลานให้ตั้งใจเรียนเพื่อนำความรู้ไปพัฒนาชีวิตและช่วยเหลือประเทศชาติ รวมทั้งอยากให้คนรักกันทั้งโลก ไม่หลอกลวงและทะเยอทะยาน