Lifestyle

เช็คเลย...8 โรคยอดฮิตใน "ผู้สูงอายุ" พร้อมวิธีดูแลรักษาเบื้องต้น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เป็นธรรมดาที่เมื่ออายุมากขึ้น โรคภัยก็จะถามหา ยิ่งเมื่ออายุเข้าสู่วัย 50 ปี ร่างกายก็จะเสื่อมถอยลง ทำให้ผู้สูงอายุมีโรคต่างๆ ตามมา แต่ในขณะเดียวกันก็มีวิธีการดูแลรักษาในเบื้องต้นเพื่อให้อาการดีขึ้น โดยโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุจะมีโรคอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี นอกจากจะเป็น “วันสงกรานต์” แล้ว รัฐบาลยังมีมติประกาศให้เป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” เพื่อให้ประชาชนและสังคมตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญ และศักดิ์ศรีของ"ผู้สูงอายุ"

วันนี้ คมชัดลึกออนไลน์ จึงขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บใน "ผู้สูงอายุ" พร้อมวิธีการดูแลรักษาเบื้องต้น มาฝากกันค่ะ

 

โดยโรคที่พบบ่อยใน "ผู้สูงอายุ" มี 8 โรค คือ ข้อเข่าเสื่อม หัวใจขาดเลือด  ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง ภาวะไขมันในเลือดสูง มะเร็ง เบาหวาน และโรคสมองเสื่อม โดยมีวิธีการดูแลรักษาเบื้องต้น ดังนี้

 

โรคข้อเข่าเสื่อม

 

  • ใช้ความร้อนประคบรอบเข่า ลดอาการปวด เกร็ง
  • บริหารกล้ามเนื้อเข่าให้แข็งแรงอยู่เสมอ
  • ใช้สนับเข่า เพื่อกระชับ ลดอาการปวด
  • ใช้ไม้เท้าช่วยเดิน ช่วยลดแรงที่กระทำต่อข้อ
  • หลีกเลี่ยงอิริยาบถที่ไม่หมาะสม เช่น นั่งพับเพียบ คุกเข่า ขัดสมาธิ นั่งยองๆ
  • ลดน้ำหนักในรายที่อ้วนมาก

 

โรคหัวใจขาดเลือด

 

  • พบแพทย์เพื่อรักษาและปฏิบัติตนตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอ
  • เลิกสูบบุหรี่เด็ดขาด
  • ถ้าอ้วนควรลดน้ำหนัก
  • รับประทานอาหารให้ถูกต้อง ละไขมัน ลดเค็ม รับประทานอาหารที่มีกากมาก / เส้นใยสูง
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังที่หักโหม
  • หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการโรคหัวใจกำเริบ เช่น อย่าทำงานหักโหมเกินไป อย่ารับประทานอาหารอิ่มเกินไป ระวังอย่าให้ท้องผูก งดดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นตกใจหรือการกระทบกระเทือนทางจิตใจ

 

ความดันโลหิตสูง

 

  • ควบคุมน้ำหนักร่างกายให้พอดีและหมั่นออกกำลังกาย
  • ลดอาหารเค็ม งดรับประทานผงชูรส ป้องกันอาการท้องผูกโดยการรับประทานผักผลไม้ให้มาก ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงจากสิ่งที่ทำให้หงุดหงิดโมโห ตื่นเต้นและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ควรบริโภคอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำ มีเส้นใยอาหารสูง
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ควรไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ไม่ควรหยุดยาหรือปรับยาด้วยตนเอง
  • หมั่นตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ ควรบันทึกลงคู่มือไว้ด้วย
  • สำหรับผู้ที่รับประทานยาขับปัสสาวะ ควรรับประทานผลไม้ ประเภท ส้ม กล้วย เป็นประจำ

 

โรคหลอดเลือดสมอง

 

  • งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงดื่มเหล้า
  • หมั่นตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ
  • ลดการบริโภคอาหารรสเค็มจัด
  • บริโภคอาหารที่มีคอเลสเตอรอลและไขมันต่ำ อาหารที่มีเส้นใยสูง
  • รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับปกติ
  • ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือมีภาวะไขมันในเลือดสูง ควรรับการรักษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง

 

ภาวะไขมันในเลือดสูง

 

  • ตรวจไขมันในเลือดตามคำแนะนำของแพทย์
  • เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค 
  • จำกัดอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดง ปลาหมีกหอยนางรม
  • ควรรับประทานอาหารูประเภทเนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
  • ลดอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารที่มีกะทิ
  • ลดการบริโภคน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม เนย และใช้น้ำมันพืชในการปรุงอาหาร โดยใช้ประมาณ 2 – 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน
  • ควรบริโภคอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผลไม้สดและผักต่างๆ และถั่วต่างๆ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่และไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และหลีกเลี่ยงภาวะเครียด

 

โรคมะเร็ง

 

  • ไม่สูบบุหรี่ หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีบุหรี่
  • รับประทานอาหารให้หลากหลาย ที่ประกอบด้วยธัญพืช เช่น ถั่วชนิดต่างๆข้าวกล้อง พืช ผักหลายๆ อย่าง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • รับประทานผักและผลไม้สดให้มากเป็นประจำตามฤดูกาล
  • รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ และเค็มน้อย ลดจำนวนอาหารหมักดองหรือรมควัน และหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง
  • งดการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • ทำจิตใจให้ผ่องใส ลดความเครียดและออกกำลังกายเป็นประจำ

 

โรคเบาหวาน

 

  • ควบคุมอาหาร อย่าปล่อยให้อ้วนไม่รับประทานของหวาน งดสูบบุหรี่ดื่มสุราและของเค็ม ควรรับประทานอาหารไขมันต่ำ อาหารที่มีเส้นใยสูง และออกกำลังกายพอควรอย่างต่อเนื่อง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้ร่าเริง อย่าให้เครียดหรือวิตกกังวล
  • พบแพทย์และตรวจเลือดตามนัด รับประทานยาตามแพทย์สั่งโดยเคร่งครัด และสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • ดูแลรักษาเท้าให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะเมื่อมีบาดแผลจะทำให้แผลหายช้า
  • มีลูกอมติดตัวไว้ เพื่อป้องกันการหมดสติจากน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปหลังรับประทานยาเบาหวาน
  • ถ้ามีแผลแล้วหายช้าหรือมีความผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

 

โรคสมองเลื่อม

 

  • ควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ รักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
  • ไม่รับประทานยาเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา สารเสพติดต่างๆ
  • ควรให้ผู้สูงอายุได้รับข้อมูลข่าวสารโรคต่างๆ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยฝึกความจำ
  • รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
  • พบปะญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง และเข้าร่วมกิจกรรม ต่างๆ เป็นประจำ
  • กระตุ้นให้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกาย จะสามารถชะลอความเสื่อมของร่างกายและสมองได้

 

ขอบคุณข้อมูล : สมุดคู่มือสุขภาพผู้สูงอายุ โดยสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ