Lifestyle

10 เมนู "อาหารต้านโควิด19" กินแบบนี้...ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดหนัก และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง นอกจากทุกคนจะต้องพยายามหาทางป้องกัน และหลีกเลี่ยงอย่างถึงที่สุดแล้ว เรื่องของอาหารการกินก็เป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันไวรัสโควิด-19 ได้

วันนี้ คมชัดลึด ออนไลน์ จึงขอนำเสนอ 10 เมนู "อาหารต้านโควิด19" เพื่อให้ทุกท่านได้เลือกรับประทานกันค่ะ

 

1.ต้มยำ เป็นอาหารที่มีรสชาติดี มีประโยชน์โดยเฉพาะส่วนประกอบของเครื่องต้มยำ ที่ประกอบด้วยพืชผักสมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ประกอบด้วย ข่า ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ ช่วยลดการอักเสบ, ตะไคร้ น้ำมันหอมระเหยของตะไคร้ มีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ จึงลดอาการแน่นจุกเสียด และช่วยขับลม, มะกรูด มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว นอกจากนี้ ตามตำรายาไทย พบว่า ใบมะกรูด มีรสปร่า หอม แก้ไอ กัดเสมหะในคอ แก้น้ำลายเหนียว

 

นอกจากนี้ในน้ำต้มยำยังมีส่วนประกอบของมะนาว มีงานวิจัยเบื้องต้นว่ามีสารสำคัญชนิด เฮสเพอริดิน (hesperidin) ที่พบในเปลือกด้านในหรือผลอ่อนของพืชในตระกูลส้ม อาจช่วยลดโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ในน้ำมะนาวมีรสเปรี้ยว ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ และพริกขี้หนู มีรสเผ็ดร้อน มีสารแคปไซซิน สรรพคุณช่วยลดน้ำมูกหรือสิ่งกีดขวางต่อระบบการหายใจ อันเนื่องมาจากเป็นไข้หวัด ภูมิแพ้ หรือไซนัส บรรเทาอาการไอ ช่วยขับเสมหะ ทำให้การหายใจสะดวกสบายยิ่งขึ้น ช่วยสลายเมือกในปอด ทำให้ทางเดินหายใจโล่ง ช่วยป้องกันหลอดลมอักเสบ

 

2) กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ส่วนประกอบหลักคือ กะหล่ำปลี ผักที่มีฟลาโวนอยด์และแอนโทไซยานินสูงและวิตามินซีสูงขณะเดียวกันในกะหล่ำปลีดิบมีสารชื่อว่า กอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ทำให้ร่างกายนำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ หากรับประทานกะหล่ำปลีดิบอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ และในปริมาณมากอาจทำให้ท้องอืดจนทำให้ร่างกายขาดสารไอโอดีน และกลายเป็นโรคคอพอกได้ แต่ถึงแม้ว่าในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารกอยโตรเจน สารชนิดนี้จะสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อโดนความร้อนจึงควรรับประทานกะหล่ำปลีที่ผ่านการปรุงสุกแล้ว

 

3) ลาบ มีส่วนประกอบหลักเป็นเนื้อสัตว์ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีน และมีเครื่องปรุงสมุนไพรหลายชนิดเป็นส่วนประกอบที่มีปะโยชน์ต่อร่างกายได้แก่ พริก มีสารแคปไซซิน (capsaicin) เป็นหนึ่งในสารต้นอนุมูลอิสระและมีวิตามินซีสูง ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านการติดเชื้อไวรัส, หอมแดง มีสารเคอร์ซีตินสูง แก้อาการหวัด คัดจมูก และต้านอนุมูลอิสระได้ดี, มะนาว เครื่องเทศ อื่นๆ

 

4) แกงสายบัว มีส่วนประกอบหลักคือ สายบัวช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง บรรเทาความร้อนในร่างกาย มีเส้นใยอาหารและคุณค่าสารอาหารสูงและในส่วนผสมของพริกแกงประกอบด้วยสมุนไพรมีสรรพคุณตามความรู้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ได้แก่ รากผักชี สรรพคุณ ขับเหงื่อ ลดไข้ เป็นยาช่วยระบาย แก้หัดหรือผื่น ขับเหงื่อ ขับลม ท้องอืดท้องเฟ้อ, พริกไทยเม็ด สรรพคุณ ขับเสมหะ แก้อาการไอ หอบหืด แก้ลมจุกเสียด แน่นท้อง เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้เจริญอาหาร อีกทั้งแกงสายบัวมีกะทิเป็นส่วนประกอบ รสมันจากกะทิจะช่วยบำรุงกำลังให้มีแรงอีกด้วย

 

5) ไข่เจียวชะอม มีส่วนประกอบของสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาในเรื่องการขับลมออกจากร่างกายชะอม มีสรรพคุณแก้ท้องเฟ้อ ขับลมในลำไส้ แก้อาการปวดเสียวในท้องได้ดี

 

6) ซุปไก่อุ่น มีส่วนประกอบของสมุนไพรที่มีสรรพคุณในเรื่องการขับลม ส่วนผสมในการทำซุปไก่อุ่นมีส่วนผสมของสมุนไพรดังนี้ รากผักชี สรรพคุณ ขับเหงื่อ ลดไข้ เป็นยาช่วยระบาย แก้หัดหรือผื่น ขับเหงื่อ ขับลม ท้องอืดท้องเฟ้อ, พริกไทยดำ สรรพคุณ ลดอาการท้องอืดเฟ้อ แน่นจุกเสียด ขับลมในลำไส้ ช่วยเจริญอาหาร

 

7) แกงฟักทอง มีส่วนประกอบหลักคือเนื้อฟักทอง ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินอี ไนอาซิน (วิตามินบี 3) แมกนีเซียม โปแตสเซียม เซเลเนียม สังกะสี และเหล็กโดยเป็นแหล่งสำคัญของสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoids) และสารเบต้าแคโรทีนในเนื้อสีเหลืองของฟักทองมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ บรรเทาการอักเสบ กระตุ้นการททำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีสรรพคุณในการบำรุงสายตาและผิวพรรณ ช่วยให้การย่อยอาหารดีขึ้น ทั้งนี้ในเมนูแกงฟักทอง ยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด ใบโหระพา และพริกแกงเผ็ด (ข่า ตะไคร้ กระเทียม พริกไทย ผิวมะกรูด) ซึ่งส่วนประกอบนี้เป็นพืชผักสมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และมีสารต้านอนุมูลอิสระ  เป็นองค์ประกอบ จึงจัดเป็นหนึ่งในเมนูสุขภาพที่ช่วยบำรุงร่างกายได้

 

8) น้ำพริกผักลวก น้ำพริก ส่วนประกอบหลักที่สำคัญ คือ พริกขี้หนู มีสารแคปไซซิน (capsaicin) เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระและมีวิตามินซีสูง ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน, กระเทียม เป็นสมุนไพรในกลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน พบว่ามีรายงายเกี่ยวกับการยับยั้งการติดเชื้อไวรัสก่อโรค ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และต้านการอักเสบได้ดีตามตำรายาไทย กระเทียมมีรสร้อน เป็นยาแก้ไข้ ขับลมในลำไส้, มะนาว ช่วยระงับไอ ขับเสมหะผักลวกเครื่องเคียงกับน้ำพริก, ถั่วฝักยาว มีสารประกอบกลุ่มโพลีฟีนอลลิคสูง และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, ถั่วพู อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไนอะซิน วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี เป็นพืชที่มีกากใยมากช่วยในการขับถ่าย, ผักบุ้ง มีเบต้าแคโรทีน แคลเซียม ธาตุเหล็กและฟอสฟอรัส และวิตามินต่าง ๆ ช่วยบำรุงสายตา, ข้าวโพดอ่อน มีวิตามินซี เบต้าแคโรทีน เส้นใยอาหาร และมีแคลเซียม ช่วยให้กระดูกและฟันให้มีความแข็งแรงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, กะหล่ำปลีมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ มีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์และแอนโทรไซยานินสูง ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

 

9) ผัดคะน้าน้ำมันหอย มีส่วนประกอบหลัก คือ คะน้า เป็นผักที่อยู่ในกลุ่มที่อุดมไปด้วยวิตามินซี สามารถช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านเชื้อไวรัส คะน้าเป็นผักที่มีไฟเบอร์สูงช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย และช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น น้ำมันรำข้าว มีวิตามินอี ช่วยในการกระตุ้นอนุมูลอิสระป้องกันเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายถูกทำลาย สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและลดการติดเชื้อได้, กระเทียม เป็นสมุนไพรในกลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน พบว่ามีรายงายเกี่ยวกับการยับยั้งการติดเชื้อไวรัสก่อโรค ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และต้านการอักเสบได้ดีตามตำรายาไทย กระเทียมมีรสร้อน เป็นยาแก้ไข้ ขับลมในลำไส้

 

10) แกงส้มดอกแค แก้ไข้หัวลม ตามภูมิปัญญาชาวบ้านที่นิยมนำมาทำอาหารรับประทานในช่วงปลายฝนต้นหนาว ประกอบด้วยดอกแคเป็นส่วนประกอบหลักอุดมไปด้วยวิตามินซี, วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน เป็นต้น ซึ่งช่วยในการปรับสมดุลในร่างกาย แก้หวัด แก้ไข้สร่าง ส่วนประกอบของเครื่องแกงส้ม ประกอบไปด้วย พริกแห้ง ซึ่งมีสาร แคปไซซิน ช่วยลดน้ำมูกหรือสารคัดหลั่งที่ขัดขวางระบบทางเดินหายใจ บรรเทาอาการไอในผู้ป่วยที่เป็นหวัด ภูมิแพ้ ไซนัส และในพริกยังมีสารเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ อีกด้วย, พริกแกงส้ม (พริกขี้หนู ข่า กระเทียม หอมแดง)เป็นผักสมุนไพรในกลุ่มเสริมภูมิคุ้มกันที่มีรายงานเกี่ยวกับการยับยั้งการติดเชื้อไวรัสก่อโรค ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และต้านการอักเสบ, น้ำมะขามเปียก และน้ำมะนาว มีรสเปรี้ยว ช่วยในการขับเสมหะ แก้ไอ และลดความร้อนในร่างกาย

 

ที่มาข้อมูล : กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

ภาพ : เฟซบุ๊ก Lasalle's Avenue

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ