รู้จักภาวะ "ปอดอักเสบ" ผู้ป่วยโควิด-19 อาจถึงตายได้
ผู้ป่วยโควิด-19 ในช่วงนี้จำนวนมากจะมีภาวะ “ปอดอักเสบ” ร่วมด้วยทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุที่อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
จากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงนี้พบว่าจังหวัดติดเชื้อสูงสุดคือ กรุงเทพมหานคร โดยวันนี้ผู้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 2,904 ราย และพบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ในช่วงนี้จำนวนมากจะมีภาวะ “ปอดอักเสบ” ร่วมด้วยทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุที่อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
วันนี้ คมชัดลึกออนไลน์ จึงขอพาไปรู้จักกับภาวะ “ปอดอักเสบ” โดย ศ.เกียรติคุณ นพ.สว่าง แสงหิรัญวัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์โรคปอดและระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้ให้ข้อมูลไว้ดังนี้
“ปอดอักเสบ” ทำให้กระบวนการแลกเปลี่ยนออกซิเจนทำงานได้ไม่ดี ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจอึดอัด หายใจลำบาก มีระดับความรุนแรงตั้งแต่รุนแรงน้อยไปจนถึงรุนแรงมากถึงขั้นเสียชีวิต เพราะฉะนั้นหากมีอาการผิดปกติควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็กและรักษาตามขั้นตอน จะช่วยบรรเทาอาการให้หายได้ในเร็ววัน
โรค "ปอดอักเสบ" หรือโรคปอดบวมเป็นการอักเสบของเนื้อปอดและหลอดลม โดยเกิดขึ้นได้จาก 3 สาเหตุหลักคือ
1) การติดเชื้อ ได้แก่
- เชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ เชื้อนิวโมค็อกคัส (Pneumococcus)
- เชื้อไวรัส ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ เชื้อไวรัสซาร์ส (SARS Virus)
- อื่นๆ ได้แก่ เชื้อรา พยาธิ ฯลฯ
2) การไม่ติดเชื้อ ได้แก่
- สำลักเศษอาหารเข้าไปในปอด
- หายใจเอาควัน ฝุ่น เข้าไปในร่างกายในปริมาณมาก
3) การแพ้ภูมิตัวเอง ภูมิต้านทานต่ำ ได้แก่
- ผู้ป่วยโรคเอสแอลอี (SLE)
- ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกแฝด เด็กขาดสารอาหาร
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรัง
- ผู้ป่วยเอดส์
- ผู้ป่วยเบาหวาน
- ผู้ที่กินยาสเตียรอยด์นานๆ
- ฯลฯ
ในบางกรณีอาจเกิดจากโรคแทรกซ้อนของไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ทอนซิลอักเสบ หัด อีสุกอีใส ไอกรน เป็นต้น
อาการ "ปอดอักเสบ" สามารถสังเกตได้ดังนี้
- ไอ
- มีเสมหะ
- มีไข้สูง อาจตัวร้อนตลอดเวลา หนาวสั่นมาก
- หายใจลำบาก หายใจหอบเร็ว
- อาจเจ็บแปล๊บหน้าอกเวลาหายใจเข้า
- อาจไอแรงร้าวไปที่หัวไหล่หรือสีข้าง
ตรวจวินิจฉัยปอดอักเสบ
การตรวจวินิจฉัยโรคปอดอักเสบ แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก โดยจะใช้เครื่องตรวจฟังเสียงปอด หลังจากนั้นหากต้องทำการตรวจพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเอกซเรย์ปอด ตรวจเลือด ตรวจเสมหะ ตรวจเสมหะ RP33 (Respiratory Pathogen Panel 33) เป็นต้น ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของผู้ป่วยเป็นสำคัญ
ปอดอักเสบ อย่าปล่อยให้รุนแรง
การรักษาโรคปอดอักเสบแพทย์จะทำการพิจารณารักษาตามอาการและสาเหตุเป็นหลัก หากเป็นปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ แพทย์จะให้รับประทานยาฆ่าเชื้อตามชนิดของเชื้อที่พบและนัดติดตามอาการเป็นระยะ หากอาการไม่ดีขึ้นจำเป็นจะต้องตรวจหาสาเหตุอื่นเพิ่มเติมทางห้องปฏิบัติการ
นอกจากนี้หากเป็นผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ อายุมากกว่า 65 ปี มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เหนื่อยหอบรุนแรง เจ็บหน้าอก และรับประทานอาหารลำบากอาจต้องอยู่โรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นสำคัญ
วิธีป้องกันปอดอักเสบ
การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอช่วยให้ห่างไกลจากโรคปอดอักเสบ นอกจากนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบคืออีกหนึ่งทางเลือกของการป้องกัน แต่จำเป็นจะต้องพบแพทย์เพื่อตรวจพิจารณาก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ
ปอดอักเสบเป็นโรคที่ไม่ควรละเลย เพราะการตรวจพบในระยะแรกเริ่มของโรคและทำการรักษาอย่างถูกต้อง ไม่เพียงช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น แต่ยังทำให้หายขาดได้โดยเร็ว