พาเที่ยว "วัดสรพงศ์" อ.สีคิ้ว รำลึกถึงพระเอกตลอดกาล "สรพงศ์ ชาตรี"

นับเป็นเรื่องเศร้าของวงการบันเทิงที่ต้องสูญเสียพระเอกตลอดกาล “สรพงศ์ ชาตรี” ซึ่งเสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งปอด ในวัย 73 ปี เมื่อเวลา 15.51 น.วันที่ 10 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา และวันนี้ คมชัดลึกออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จักกับ วัดโนนกุ่ม หรือที่ใครๆ เรียกกันติดปากว่า “วัดสรพงศ์”  เพราะเป็นวัดที่เขาเป็นผู้จัดสร้าง

มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ "สรพงศ์ ชาตรี" สร้างขึ้น โดยที่เจ้าตัวบอกว่าไม่ใช่วัด แต่เป็นมูลนิธิ บุคคลทั่วไปจะเรียกกันแบบเข้าใจง่ายๆว่า "วัดหลวงพ่อโต" อำเภอสีคิ้ว ซึ่งที่นี่เดิมคือ "วัดโนนกุ่ม" ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ (ทางหลวง หมายเลข 2 ) อำเภอสีคิ้ว ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมา ประมาณ 42 กิโลเมตร หากเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปนครราชสีมาจะผ่าน และเห็นได้อย่างชัดเจนเพราะสะดุดตาในความสวยงามของอาคารที่ก่อสร้างและการตกแต่งสถานที่โดยรอบ ตั้งแต่สวนหย่อมไม้ตะข่อยดัดในเกาะกลางถนนมิตรภาพตรงกับบริเวณมูลนิธิฯ เลยทีเดียว

มูลนิธิหลวงพ่อโต อ.สี่คิ้ว จ.นครราชสีมา เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อทองเหลืองรมดำ หลวงพ่อโต (สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) ที่มีขนาดใหญ่มาก โดยผู้ที่ก่อตั้งก็คือ "สรพงศ์ ชาตรี" นั่นเอง ผู้ที่มาที่นี่นอกจากจะได้สักการะ ขอพรจาก หลวงพ่อโต แล้ว ยังได้สัมผัสกับสิ่งก่อสร้างที่งดงามและสวนหย่อมที่ตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เขียวขจีสบายตา นอกจากนั้นที่นี่ยังมีโรงอาหารหรือโรงทานให้รับประทาน โดยจะบริจาคเงินเพื่อชำระหนี้สงฆ์ก็ได้ ตามกำลังศรัทธา

"สรพงศ์ ชาตรี" เป็นพุทธมามกะ ผู้ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง ดำรงตนอยู่ในทาน ศีล ภาวนา ซึ่งได้ปฎิบัติธรรมกับพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก จ.เชียงใหม่ ซึ่งพระอาจารย์ได้แนะนำ สรพงศ์ ชาตรี ให้ไปอธิษฐานจิตขอพรบารมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ แล้วการงานทุกอย่างที่กังวลอยู่จะสำเร็จดังประสงค์ทุกประการ เพราะหลวงปู่โต มีลูกหลานเป็นเทพบุตรเทพธิดา จะได้พากันมากราบไหว้บูชาสักการะและช่วยให้งานนั้นๆ สำเร็จดังปรารถนา

"สรพงศ์ ชาตรี" จึงได้ไปอธิษฐานจิต ขอบารมีตามที่พระอาจารย์แนะนำ พร้อมทั้งจะจัดสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ จึงไปปรึกษาหลวงพ่อพระครูปลัดนุตร์ รัตนวิชโย ซึ่งปฎิบัติธรรมอยู่ที่วัดปักแม่ลาย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งท่านแนะนำให้จัดสร้างรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดในโลก จึงคิดถึงพิธีการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่โต และดำเนินการจัดสร้างเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2543 รูปหล่อองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) หน้าตักกว้าง 8 เมตร 1 นิ้ว สูง 13 เมตร หนัก 61 ตัน ค่าก่อสร้าง 9 ล้านบาทเศษ

และได้จัดสร้างมหาวิหารเป็นแบบกุฎาคาร (เรือนยอดเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป) ขึ้นถวาย พร้อมทั้งซื้อที่ดินประมาณ 150 ไร่ และจัดภูมิทัศน์ส่วนต่างๆ ตามความเหมาะสม เช่น สระน้ำ สวนหิน สวนต้นไม้ เป็นต้นอีกทั้งได้จัดบริการด้านอาหาร และห้องน้ำห้องสุขาฟรีด้วย โดยก่อนหน้าที่ "สรพงศ์ ชาตรี" จะป่วย มักจะเดินทางมาอยู่ที่นี่เป็นประจำเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว และแฟนคลับที่มาร่วมทำบุญ