รวมอาหารใต้สไตล์ภูเก็ตดั้งเดิม @ "มาย คาเฟ่"

บรรยากาศของ “มาย คาเฟ่” เป็นโอเพ่นแอร์เปิดโล่งให้ลูกค้าได้นั่งรับลมทะเลกันแบบเต็มๆ พร้อมทอดสายตาชมทิวทัศน์งามสงบของหาดพันวาได้ทุกช่วงเวลา ส่วนยามเย็นเพลิดเพลินกับอาทิตย์อัสดงเหนือองค์พระใหญ่เมืองภูเก็ตและหาดพันวา หรือจะเลือกนั่งรับประทานด้านข้างสระว่ายน้ำก็ชิลไปอีกแบบ แต่หากมาแบบเป็นกรุ๊ปทางร้านก็มีห้องแยกแบบส่วนตัวไว้บริการด้วย

 

 

 

ที่ “มาย คาเฟ่” เสิร์ฟทั้งอาหารท้องถิ่น อาหารไทยโมเดิร์น และอาหารนานาชาติ รวมถึงซีฟู้ดสดๆ จากทะเลภูเก็ต โดยอาหารส่วนใหญ่จะเน้นรสชาติแบบไทย ด้วยการเลือกวัตถุดิบหลักในท้องถิ่นอย่าง หอย ปู ปลา กุ้ง ปลาหมึก ฯลฯ มาปรับใช้ให้เข้ากับอาหารแต่ละชนิด ส่วนสไตล์การตกแต่งเน้นไปทางยุโรป รังสรรค์โดย “เชฟพัตร” ณรงค์ฤทธิ์ บุญธรรม เดมิ เชฟ เดอ ปาร์ตี อาหารไทย

 

 

 

สำหรับเมนูเด็ดๆ ที่อยากแนะนำช่วงนี้เป็นอาหารใต้ รสชาติแบบภูเก็ตที่ไม่จัดจ้านมากนัก นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถรับประทานได้ เมนูแรกคือ “เส้นหมี่แกงปู” เป็นสไตล์ดั้งเดิม โดยใช้เครื่องแกงสูตรปักษ์ใต้ และไม่ใส่ใบโหระพา (ใส่แต่ใบชะพลู) และเนื้อปูเป็นก้อนให้ลิ้มรสกันแบบเต็มปากเต็มคำ กินคู่กับเส้นหมี่ เข้ากันมากๆ หรือบางสูตรกินกับเส้นจันท์ก็เด็ดไม่แพ้กัน ถัดมาเป็นเมนูที่มาเที่ยวภาคใต้แล้วต้องไม่พลาดอย่าง “น้ำพริกกุ้งเสียบ” รสกลมกล่อมตามแบบฉบับชาวภูเก็ต กินคู่กับผักสดนานาชนิด อาทิ แตงกวา ถั่วฝักยาว ขมิ้นขาว แครอท ดอกกะหล่ำลวก ใบมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น แถมท้ายด้วยไข่เป็นต้มแบบยางมะตูม

 

 

 

มาต่อกันที่ “เลี่ยมต๊อ” หรือ ราวนมหมูสามชั้นนึ่ง เชฟจะนำหมูสามชั้นตรงส่วนราวนมซึ่งมีหนังนุ่มกว่าส่วนอื่นๆ ไปหมักเกลือและน้ำส้มสายชูประมาณ 15 นาที แล้วนำไปนึ่ง รับประทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด จะกินกับข้าวสวยร้อนๆ หรือกินเล่นก็เข้าท่าทั้ง 2 แบบ อีกเมนูที่เด็ดไม่แพ้กันต้องยกให้ “กุ้งผัดยอดมะพร้าว” เชฟมีเคล็ดลับคือให้นำยอดมะพร้าวไปแช่ในน้ำมะนาวหรือน้ำเกลือก่อน เพื่อไม่ให้ยอดมะพร้าวเปลี่ยนเป็นสีดำเพราะจะทำให้ดูไม่น่ากิน ก่อนจะนำไปผัดกับกะปิ แล้วเติมกะทิเล็กน้อยให้ออกรสชาติมัน เพื่อช่วยลดความเค็มของกะปิลงไป

 

 

 

ถัดมาที่ “ปลาอินทรีเจี๋ยนตะไคร้” เป็นเมนูผสมผสานระหว่างภูเก็ตดั้งเดิมกับอาหารใต้ เหมาะสำหรับคนไม่กินเผ็ด โดยเชฟจะนำปลาอินทรีไปแล่ แล้วชุปแป้งทอด แต่ก่อนทอดให้โรยขมิ้นเล็กน้อยเพื่อให้น้องปลาสีสวยและมีกลิ่นหอม จากนั้นนำซอสตะไค้รที่ปรุงรสแบบเข้มข้นราดลงไป แต่หากเป็นสูตรภูเก็ตดั้งเดิมจะใส่เต้าเจี้ยวลงไปในซอสด้วย เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ จะกินเล่นหรือกินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็ได้ อีกเมนูที่ขาดไม่ได้เมื่อเลือกรับประทานอาหารใต้คือ “แกงส้มยอดมะพร้าวใส่กุ้งและสับปะรด” โดยใช้เครื่องแกงที่เชฟตำเอง แล้วเพิ่มรสชาติด้วยการใช้น้ำมะนาวแทนน้ำมะขามเปียก ซึ่งจะช่วยดึงความสดชื่นได้มากกว่า

 

 

หลังจากลองอาหารคาวมาหลายเมนู ก็ได้เวลาของหวานกันบ้าง เมนูที่เชฟอยากให้ลองคือ “สาคูพัทลุง” มาจากต้นสาคูแท้ๆ ไม่ผสมแป้ง ราดด้วยน้ำกะทิเข้มข้นใส่ข้าวโพดและเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปด้วย เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวนิลลา กะทิ และช็อกโกแลตในลูกเดียวกัน

 

และด้วยความที่เป็นห้องอาหารเพียงแห่งเดียวของโรงแรม จึงเปิดบริการตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แบ่งเป็นช่วงเวลาต่างๆ ดังนี้ บริการอาหารเช้าด้วยไลน์อาหารเช้าครบครัน ตั้งแต่ 6 โมงครึ่งไปจนถึง 10 โมงครึ่ง จากนั้นเป็นช่วงของอาหารกลางวันต่อเนื่องไปจนถึงมื้อเย็น ตั้งแต่ 11 โมงยาวไปจนถึง 5 ทุ่มครึ่ง ความพิเศษของมื้อเย็นคือ ซีฟู้ด บุฟเฟ่ต์ หรือถ้าอยากให้จัดเป็นโรแมนติกดินเนอร์ แบบส่วนตัวก็สามารถแจ้งทางโรงแรมได้เลย

 

 

อยากนั่งชิลล์ๆ ริมทะเล พร้อมลิ้มรสอาหารใต้รสเด็ดแบบภูเก็ต อย่าลืมแวะไปที่ “มาย คาเฟ่” ภายในโรงแรม “มาย บีช รีสอร์ท” หากไปไม่ถูกยกหรือต้องการสอบถามข้อมูล ยกหูไปสอบถามได้เลยที่ 0-7630-5066-9 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.mybeachresort.com