เปิดตัวอาคารที่พักอาศัย 2 รูปแบบ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

นับเป็นการแปลงโฉมครั้งประวัติศาสตร์ หลังจาก “ดุสิตธานี” โรงแรมระดับห้าดาวเก่าแก่ ทั้งยังเป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองคนสำคัญระดับโลกมากมายจากทั่วทุกมุมโลก บนถนนสีลมมายาวนานกว่า 5 ทศวรรษประกาศปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อปี พ.ศ.2561เพื่อสร้างโรงแรมใหม่ให้สอดคล้องกับโลกอนาคต โดยล่าสุดกลับมาปรากฎโฉมอีกครั้งกับโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” โครงการมิกซ์ยูสที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคสมัยใหม่ ที่ผสานรวม 2 รูปแบบการใช้ชีวิต ประกอบด้วย “ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” ไว้ในอาคารเดียว ทั้งยังคงกลิ่นอายการให้บริการที่มีความงดงาม และเสน่ห์ของความเป็นไทย ภายใต้มาตรฐานสากลระดับโลก

 

 

 

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เราใส่ใจในทุกรายละเอียดของ “ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” ตั้งแต่งานสถาปัตยกรรมไปจนถึงงานออกแบบตกแต่งภายในทั้งหมด งานดีไซน์ของเราผ่านการคิดและสร้างสรรค์ด้วยความประณีตพิถีพิถัน สะท้อนคุณค่าดั้งเดิมของดุสิตธานี และผสานเข้ากับการออกแบบในสไตล์ร่วมสมัย เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสความรู้สึกถึง ‘บ้าน’ ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด ภายใต้รูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารทันสมัยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีสองแบรนด์ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารเดียวกัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่แตกต่าง

 

 

เราให้ความสำคัญกับการวางตำแหน่งของแต่ละอาคารเป็นอย่างมาก ด้วยความตั้งใจที่จะให้อาคารในโครงการฯ ทั้งหมดสามารถมองเห็นวิวจากสวนลุมพินีได้ทุกอาคาร ดังนั้นตำแหน่งที่ตั้งของแต่ละอาคารจึงถูกออกแบบไม่ให้บดบังวิวซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะในส่วนของ ดุสิต เรสซิเดนเซส และดุสิต พาร์คไซด์ ที่มีกลุ่มเป้าหมายระดับลักชัวรี ผู้พักอาศัยในแต่ละยูนิตสามารถสัมผัสวิวธรรมชาติของสวนลุมพินีได้ตลอดเวลา เนื่องจากที่นี่เปรียบเสมือนบ้านที่ผู้อยู่อาศัยต้องใช้ชีวิตในทุกๆ วัน ดังนั้นเราจะต้องคำนึงถึงทุกองค์ประกอบเพื่อให้ผู้พักอาศัยได้รับความสะดวกสบาย สัมผัสธรรมชาติ แต่ยังคงความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยสูงสุดควบคู่ไปด้วย

 

 

 

สำหรับที่พักอาศัยในโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ได้รับการออกแบบอย่างปราณีตและชาญฉลาด แม้จะเป็นอาคารสูง 69 ชั้น ใจกลางเมือง แต่ก็ถูกออกแบบให้มีความเป็นสัดส่วนชัดเจน ผู้อยู่อาศัยจะสัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัว โดยแบ่งออกเป็น 2 ลีฟวิ่งคอนเซ็ปต์เพื่อตอบสนองความชื่นชอบของแต่ละบุคคล

 

 

 

 

คอนเซ็ปต์แรก คือ “ดุสิต เรสซิเดนเซส” เน้นการออกแบบแบบคลาสิคร่วมสมัย คงเอกลักษณ์ความโปร่งโล่งของบ้านสไตล์ไทย ด้วยห้องรับแขกเพดานสูง 6.6 เมตร พร้อมรับวิวพื้นที่สีเขียวของสวนลุมพินีตัดขอบฟ้ากรุงเทพฯ แบบพาโนรามา  การตกแต่งเน้นความเป็นส่วนตัว มีความพิถีพิถัน และมีดีไซน์เหนือกาลเวลา เหมาะกับคนที่อายุ 45-60 ปีขึ้นไป มีครอบครัวขนาดใหญ่ พร้อมมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วย โถงลิฟท์ส่วนตัว เริ่มต้นที่ขนาด 120 – 750 ตารางเมตร ห้องชุดมีให้เลือกตั้งแต่ 2-4 ห้องนอน และ เพนท์เฮ้าส์ ในรูปแบบชั้นเดียว และแบบสองชั้น

 

 

 

ส่วนคอนเซ็ปต์ที่สอง “ดุสิต พาร์คไซด์” มีจุดเด่นตรงมีความใกล้ชิดกับสวนขนาดใหญ่ เน้นการตกแต่งแบบร่วมสมัยที่ยังคงความหรูหรา และมีดีไซน์ร่วมสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวกสบาย มีวิถีชีวิตไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย อายุประมาณ 30- 45 ปี อาจจะเป็น Young Professional หรือครอบครัวขนาดเล็ก พื้นที่ใช้สอยมีขนาดพอเหมาะตั้งแต่ 55 – 115 ตารางเมตร  โปร่งสบายด้วยความสูงเพดาน 3 เมตร เป็นห้องชุดขนาด 1-2 ห้องนอน

 

 

นอกจากนี้ภายในโครงการที่อยู่อาศัยทั้ง 2 ลีฟวิ่งคอนเซ็ปต์นี้ ยังมีบริการและดูแลผู้อยู่อาศัยอย่างเต็มที่ ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง เพื่อลดภาระของผู้อยู่อาศัยให้ได้มากที่สุด

 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความตั้งใจที่อยากจะให้พื้นที่ส่วนหนึ่งของโครงการ สามารถสร้างประโยชน์ให้กับคนกรุงเทพฯ กลุ่มดุสิตธานี และเซ็นทรัลพัฒนา จึงได้พัฒนาพื้นที่ชั้นดาดฟ้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพาร์ค ให้เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ไว้ในโครงการเรียกว่า “รูฟพาร์ค” ขนาด 7 ไร่ โดยเลือกต้นไม้ที่มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับฝุ่น และคายออกซิเจนได้มากกว่าปกติ เช่น ต้นไผ่เหลือง เพื่อช่วยลดมลภาวะทางอากาศให้ดีขึ้นอีกด้วย รวมทั้งเลือกต้นไม่ที่เรียกแมลงที่สูญหายไปจากในเมือง เช่น แมลงทับ เต่าทอง แมลงปอ ผีเสื้อ ที่จะเป็นตัวช่วยในการสร้างระบบนิเวศ และให้เด็ก ๆ รุ่นใหม่ได้สัมผัสธรรมชาติที่ขาดหาย

 

 

 

นอกจากนี้ รูฟพาร์คยังถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่สาธารณะ ที่เป็นมิตรกับการใช้ชีวิตสำหรับคนทุกเพศทุกวัยรวมถึงคำนึงถึงผู้พิการด้วย ดังนั้นไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาใช้ได้ รวมทั้งมีการแบ่งพื้นที่ให้ตอบโจทย์ในหลากหลายกิจกรรม ทั้งการออกกำลังกาย วิ่ง ขี่จักรยาน หรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานอดิเรก แสดงงานศิลปะ ดนตรี รวมทั้งมีพื้นที่ Dog park ให้สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้ด้วย ตลอดจนมีฟาร์มปลูกผักใจกลางเมือง ที่จะนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในร้านอาหารของโรงแรมด้วย เราหวังว่า การออกแบบพื้นที่สาธารณะที่เอื้อต่อการเกิดรูปแบบไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนเมือง จะทำให้รูฟพาร์คแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์ และในอนาคตจะมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น เพื่อจองเข้าใช้พื้นที่เพื่อบริหารจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัดจนเกินไป รวมทั้งสอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ new normal อีกด้วย

 

ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มีกำหนดเปิดเฟสแรกในปี พ.ศ. 2567 เริ่มจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ต่อด้วยศูนย์การค้าเซ็นทรัลพาร์ค และอาคารสำนักงานเซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส และตามด้วยโซน อาคารที่พักอาศัย ดุสิต เรสซิเดนเซส และ ดุสิต พาร์คไซด์ ในช่วงกลางปี 2568 เป็นเฟสสุดท้าย